Skip to main content
sharethis

กลุ่ม THAI for Palestine เรียกร้องเยอรมนีหยุดส่งมอบอาวุธให้อิสราเอล ใช้สังหารชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา

 

 

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2567 กลุ่ม THAI for Palestine หรือกลุ่ม 'คนไทยเพื่อสิทธิชาวปาเลสไตน์' ได้ออก แถลงการณ์ เรียกร้องต่อสถานทูตเยอรมนีประจําประเทศไทย  ระบุว่าในขณะที่เพื่อนมนุษย์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซากําลังถูกสังหารด้วยน้ำมือของกองทัพอิสราเอล รัฐบาลชาติต่าง ๆ มีพันธกิจทางมนุษยธรรมที่จะต้องยับยั้งการละเมิดชีวิตของประชาชนผู้เป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลก แต่กลับปรากฏว่า รัฐบาลของชาติทั้งหลายในโลกนี้กลับสนใจเพียงผลประโยชน์ของตนเองและส่งอาวุธไปร่วมช่วยเหลือการฆ่า และยังปรากฏว่ารัฐบาลหลายชาติใช้กําลังเจ้าหน้าที่ทําร้ายและคุกคามพลเรือนในรัฐด้วยเช่นกัน ดังเช่นรัฐบาลเยอรมนี ที่มีการใช้ความรุนแรงปราบปรามและคุกคามผู้เคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพและเสรีภาพของชาวปาเลสไตน์มาโดยตลอด

เยอรมนีก่อนเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม 2023 มีการคุกคามสิทธิในการแสดงออกของประชาชนและผู้ เคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพปาเลสไตน์ถูกละเมิดสิทธิอยู่เสมอ รวมทั้งถูกเจ้าหน้าที่ใช้กําลังทําร้ายร่างกายด้วยเช่นกัน และตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว จนถึงกุมภาพันธ์ปีนี้ มีการบันทึกข้อกล่าวหาทางอาญาต่อผู้ร่วมกิจกรรมเพื่อสันติภาพมากถึง 2,140 คดี มีคําสั่งไต่สวนอีกมากกว่า 380 กรณี มีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 174 คน และมีชาวยิวที่ร่วมชุมนุมเพื่อปาเลสไตน์เคยถูกจับกุมมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง

พลเรือนเหล่านี้ไร้อาวุธ ไร้พฤติกรรมที่ก่อความรุนแรง และถูกตั้งข้อกล่าวหาเพียงเพราะพูดความจริงของอาชญากรรมที่กําลังเกิดขึ้นในโลก พวกเขาถือป้ายเรียกร้องการหยุดยิง เพื่อรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์ ป้ายเรียกร้องให้หยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และป้ายที่สะท้อนความจริงของอาชญากรไซออนิสต์ แต่การพูดถึงความจริงกลับทําให้ประชาชนเยอรมันต้องถูกทําร้ายร่างกาย ถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจติดตาม ถูกรื้อค้น บ้าน ถูกลากดึงและกดลงกับพื้น

สิทธิทางการแสดงออกของประชาชนชาวเยอรมันถูกละเมิด และพวกเราไม่สามารถนิ่งเฉยต่อความล้มเหลวทางมนุษยธรรมของรัฐบาลเยอรมนีได้ เยอรมนีเคยกระทําความโหดร้ายอย่างมหาศาลต่อมนุษยชาติอย่างไม่อาจให้อภัยตลอดช่วงศตวรรษที่ 20 ทั้งเหตุการณ์กองกําลังอาณานิคมเยอรมันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาว Herero และ Nama ในประเทศนามิเบีย ซึ่งถูกโลกลืมไปเสียแล้ว และเหตุการณ์รัฐบาลนาซีเยอรมันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวจํานวนมหาศาลในยุโรป ซึ่งยังเป็นบาดแผลที่ใหญ่ยิ่งต่อมนุษยชาติทั้งมวล

แต่กลิ่นคาวเลือดในรัฐบาลเยอรมนีกลับยิ่งทบทวียิ่งขึ้นในปัจจุบันนี้ เพราะเยอรมนีเป็นประเทศที่ส่งอาวุธให้อิสราเอลมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐฯ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รัฐบาลเยอรมันกําลังทําความผิดเดิมของตัวเองเพียงแค่เปลี่ยนวิธีไปยืมมือประเทศอื่นลงมือเท่านั้น และโปรดอย่าลืมด้วยว่า อาวุธของกองทัพอิสราเอลยังเป็นภัยต่อสวัสดิภาพของตัวประกันชาวไทย 8 คนที่ยังรอความช่วยเหลือในกาซาที่กําลังเผชิญภาวะอดอยากอย่างสาหัส ประชาชนชาวเยอรมันต่างเรียกร้องให้รัฐบาลของพวกเขายุติการกระทําอันเลวร้ายและให้เริ่มต้นเดินในทางที่ถูกต้อง นั่นคือทางแห่งมนุษยธรรมและสันติภาพ โดยรัฐบาลที่ยังต้องการกระทําอาชญากรรมต่อมนุษยชาติอีกครั้งหนึ่ง แต่กลับถูกปิดปากและคุกคาม

พวกเราประชาชนชาวไทยรู้ซึ้งดีว่าในช่วงเวลาที่รัฐบาลทําให้พวกเราผิดหวังมากที่สุด พวกเราในฐานะประชาชนจะต้องจับมือกันเอง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลของพวกเราทําสิ่งที่ถูกต้อง เราจึงเรียกร้องผ่านสถานทูตเยอรมนี ประจําประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีคืนสิทธิอันชอบธรรมแก่ประชาชนผู้เรียกร้องสันติภาพและเสรีภาพปาเลสไตน์

หยุดใช้ความรุนแรง หยุดจับกุม หยุดรื้อค้น หยุดสร้างความหวาดกลัว

ขอยืนหยัดเคียงค้างผู้ถูกกดขี่ตลอดไป 

ฝ่ายส่งเสริมสิทธิมนุษยธรรมสากล องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งวันนี้มาร่วมการชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมนี ได้อ่านแถลงการณ์ เผยเหตุผลและวัตถุประสงค์การมาร่วมงานวันนี้ 

"ข้าพเจ้ามาชุมนุมที่นี่ในวันนี้ เพราะไม่อาจเห็นชาวปาเลสไตน์และชาวมุสลิมทั่วโลกต้องทนทุกข์กับการถูกล่าอาณานิคมอีกต่อไป ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า มนุษย์ทุกคนจะต้องเท่าเทียมกัน เพราะพวกเราทุกคนต่างก็มีสิทธิในการมีชีวิตอยู่อย่างเสรีและปราศจากภัยคุกคาม ไม่มีผู้ใดสมควรที่จะถูกขับไล่จากบ้านเกิดเมืองนอน หรือถูกเข่นฆ่าและพวกเราในฐานะเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก จะขอแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้ถูกกดขี่เสมอ และตลอดไป" แถลงการณ์ของ อบจ.จุฬาฯ ระบุ

ส่งเสียงถึงเยอรมนี ยุติการคุกคามผู้เรียกร้องสันติภาพและสนับสนุนปาเลสไตน์

แถลงการณ์ของฝ่ายส่งเสริมสิทธิมนุษยธรรมสากลฯ ระบุว่า พวกเขามีข้อเรียกร้องผ่านเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ผ่านไปยังรัฐบาลเยอรมนี ให้หยุดคุกคามผู้ออกมาเรียกร้องสันติภาพ และสนับสนุนปาเลสไตน์ และยุติการส่งออกอาวุธไปให้ประเทศอิสราเอล

สงครามฮามาส และอิสราเอล ล่าสุดเป็นผลสืบเนื่องตั้งแต่ 7 ต.ค. 2566 หลังกองกำลังของกลุ่มฮามาส ได้ระดมยิงจรวดจำนวนมาก และมีการบุกเข้าไปในเขตของอิสราเอล เพื่อตอบโต้การละเมิดสิทธิและข้อพิพาทเรื่องดินแดนของประเทศอิสราเอล ต่อมา อิสราเอลจะตอบโต้โดยการยิงขีปนาวุธอย่างรุนแรง และบุกเข้าไปโจมตีในฉนวนกาซา สงครามยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันและยังไม่มีท่าทีจะสงบลง โดยเมื่อ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ข้อมูลจากรายงานของฐานเศรษฐกิจ ระบุว่ามีประชาชนในฉนวนกาซา เสียชีวิตจากสถานการณ์สงครามรวม 32,916 ราย และบาดเจ็บรวม 75,494 รายแล้ว

ฝ่ายส่งเสริมสิทธิมนุษยธรรมสากล อบจ.จุฬาฯ เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนียุติส่งออกอาวุธให้รัฐอิสราเอล และไม่เป็นส่วนร่วมของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ข้อเรียกร้องดังกล่าวอ้างรายงานจากสถาบันวิจัยเพื่อสันติภาพสากลแห่งสต๊อกโฮล์ม (Stockholm International Peace Research) ระบุว่าอาวุธและยุทโธปกร์ของอิสราเอลกว่า 30 เปอร์เซ็นต์นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี 

ต่อมา ฝ่ายส่งเสริมสิทธิมนุษยธรรมสากลฯ เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนี หยุดคุกคามเสรีภาพการแสดงออกของผู้เคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ และสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ เนื่องจาก 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจเยอรมนีได้เข้าไปขัดขวาง และยุติการประชุมของกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ "ปาเลสไตน์ คองเกรส" ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี หลังจากการประชุมเริ่มเพียงไม่นาน 

โดยตำรวจอ้างเหตุผลว่าเพราะการประชุมมีการเชิญวิทยากรที่ถูกทางการระงับการทำกิจกรรมทางการเมืองในประเทศเยอรมนี เนื่องจากเขาเคยกล่าวแถลงการณ์ต่อต้านชาวยิว และมีความกังวลว่าจะมีการนำวิดีโอที่เขากล่าวแถลงการณ์มาฉายในงานอีก จึงมีการยกเลิกงานประชุมที่เหลือทั้งหมดอีกด้วย และมีกระแสข่าวว่า อูดี ราซ (Udi Raz) สมาชิกบอร์ดสมาคมชาวยิวเพื่อสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์ และอิสราเอล ในที่ประชุมอีกด้วย

ท้ายสุด ฝ่ายสิทธิมนุษยธรรมสากล อบจ.จุฬาฯ เรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยุติความรุนแรงในสงครามฮามาส-อิสราเอล และเปิดทางให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทุกฝ่าย 

สำหรับบรรยากาศการทำกิจกรรมวันนี้นอกจากมีการอ่านแถลงการณ์ของเครือข่ายต่างๆ มีการแสดงละครเชิงสัญลักษณ์ 'ศพถูกฆ่าตาย' เพื่อส่งเสียงถึงรัฐบาลเยอรมนี ได้รับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปาเลสไตน์ และการมีส่วนร่วมของเยอรมนี ในฐานะผู้ส่งออกอาวุธให้อิสราเอล นอกจากนี้ นักกิจกรรมยังมีการแจกแผ่นพับใบปลิวประชาสัมพันธ์สำหรับผู้มาร่วมกิจกรรม

การแสดงละครเชิงสัญลักษณ์ ถ่ายโดย ซาโบ

แผ่นพับ และใบปลิว ส่วนหนึ่งของกิจกรรมหน้าสถานทูตเยอรมนี ถ่ายโดย ซาโบ

รายละเอียดแถลงการณ์ของ ฝ่ายสิทธิมนุษยธรรมสากล อบจ.จุฬาฯ

เรื่อง แถลงการณ์การประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในปาเลสไตน์ และการส่งอาวุธให้อิสราเอล

ก่อนอื่นข้าพเจ้าขอชี้แจงเหตุผลที่ขึ้นมาอ่านแถลงการณ์นี้หน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมัน ประจำประเทศไทย ข้าพเจ้าในฐานะนิสิตเอกวิชาภาษาเยอรมันนั้นคงไม่สามารถถ่ายทอดออกมาถูกต้องตามหลักภาษาเยอรมันร้อยเปอร์เซ็นต์ได้อย่างภาษาแม่ ข้าพเจ้าจึงขออภัย หากมีข้อผิดพลาดทางภาษาประการใด หากแต่นั่นไม่อาจหยุดยั้งข้าพเจ้าไม่ให้พูดออกมาจากใจได้ ข้าพเจ้าจะไม่หยุดส่งเสียง จนกว่าปาเลสไตน์จะเป็นไท

ข้าพเจ้ามาชุมนุมที่นี่ในวันนี้ เพราะไม่อาจเห็นชาวปาเลสไตน์และชาวมุสลิมทั่วโลกต้องทนทุกข์กับการถูกล่าอาณานิคมอีกต่อไป ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า มนุษย์ทุกคนจะต้องเท่าเทียมกัน เพราะพวกเราทุกคนต่างก็มีสิทธิในการมีชีวิตอยู่อย่างเสรีและปราศจากภัยคุกคาม ไม่มีผู้ใดสมควรที่จะถูกขับไล่จากบ้านเกิดเมืองนอน หรือถูกเข่นฆ่าและพวกเราในฐานะเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก จะขอแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้ถูกกดขี่เสมอ และตลอดไป

ดินแดนปาเลสไตน์นั้นแต่ก่อนเคยอุดมไปด้วยความหลากหลาย ทั้งชาวมุสลิม ชาวยิว และชาวคริสต์นั้นเคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ กระทั่งต่อมา เมื่อเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในเยอรมนีเมื่อปี 1945 รวมไปถึงการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่ในปาเลสไตน์ หรือ Nakba เมื่อปี 1948 จึงส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์หลักล้านต้องพลัดถิ่นและสูญเสียถิ่นที่อยู่เดิมให้กับอิสราเอล ตั้งแต่ตอนนั้น พวกเขาจึงต้องใช้ชีวิตภายใต้การถูกยึดครองและการปกครองแบบแบ่งแยกของอิสราเอลในระหว่างสงครามอิสราเอล-ฮามาส ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม เมื่อปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ มีชาวปาเลสไตน์ที่ถูกสังหารไปแล้วมากกว่า 33,000 คน

พวกเรามารวมตัวกันวันนี้ เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการที่รัฐบาลเยอรมนีใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมเพื่อเสรีภาพของปาเลสไตน์ และยังสมรู้ร่วมคิดกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา เมื่อประวัติศาสตร์ความโหดร้ายนั้นเกิดขึ้นซ้ำอีก จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต่อสู้กับความอยุติธรรมและต่อต้านการลดทอนความเป็นมนุษย์ เนื่องจากการลงโทษแบบเหมารวมที่กระทำต่อชาวปาเลสไตน์นั้นต้องหยุดลง เราขอเรียกร้องให้หยุดยิงถาวรโดยทันที และให้ส่งปัจจัยมนุษยธรรมไปยังกาซาโดยทันที

สหรัฐอเมริกา และเยอรมนีนั้นต่างก็มือเปื้อนเลือด เนื่องด้วยเป็นเจ้าใหญ่ที่ให้การสนับสนุนกองทัพอิสราเอล อ้างอิงข้อมูลจาก Stockholm International Peace Research พบว่า ในจำนวนอาวุธของกองทัพอิสราเอลนั้นมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ที่นำเข้าจากเยอรมนี ฉะนั้น เราขอเรียกร้องให้ท่านหยุดให้บริการสนับสนุนอาชญากรรมสงครามนี้ โปรดหยุดส่งอาวุธให้อิสราเอล รวมถึงเมื่อวาน ตำรวจเบอร์ลินได้ใช้อำนาจเข้าคุมตัว 'Udi Raz' สมาชิกบอร์ดสมาคมชาวยิวเพื่อสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์ และอิสราเอล ในที่ประชุม เราจึงขอเรียกร้องให้ท่านหยุดข่มขู่คุกคามนักเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพของปาเลสไตน์ โปรดหยุดละเมิดสิทธิในการแสดงออก

ซึ่งเยอรมนีนั้นนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและทรงอิทธิพล มีนักเคลื่อนไหวเยอรมันจำนวนมากที่เคยออกมาต่อสู้กับระบอบฟาสซิสต์ หรือนาซี อย่างโซฟี ช็อล (Sophie Scholl) และวันนี้พวกเราทั่วโลกก็ออกมาประท้วง เพื่อเป้าหมายเดียวกับโซฟี ช็อล ในการต่อต้านระบอบไซออนิสต์ของรัฐอิสราเอล พวกเราต่อสู้เพื่อเสรีภาพของชาวปาเลสไตน์ ฉะนั้น โปรดจงแสดงมนุษยธรรมของท่านที่เหลือยู่ออกมา 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net