กระทรวงแรงงาน เผยยังไม่มีแรงงานไทยในอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต หลังอิหร่านเปิดปฏิบัติการระดมยิงจรวดและโดรน ราว 300 ลูก เข้าใส่อิสราเอล เมื่อกลางดึกวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา รับปากทางการไทยจะคุ้มครองและดูแลแรงงานไทยอย่างดีที่สุด 

สืบเนื่องจากเมื่อค่ำวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา กองกำลังปฏิวัติรัฐอิสลามของอิหร่านได้เปิดปฏิบัติการยิงขีปนาวุธ และท่าอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) โจมตีประเทศอิสราเอล หลังกองทัพอิหร่าน กล่าวหาว่า อิสราเอลอยู่เบื้องหลังการโจมตีสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อ 1 เม.ย. 2567 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 12 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับพลเอกอาวุโสจากกองกำลังพิเศษ ‘กัดส์’ (Quds) แห่ง IRGC เบื้องต้น กองทัพอิสราเอล ได้รายงานว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธกลางอากาศได้สกัดจรวดที่เข้ามาได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ และมีรายงานความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

14 เม.ย. 2567 เว็บไซต์กระทรวงแรงงาน เปิดเผยวันนี้ (14 เม.ย.) ระบุว่า พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ส่วนตัวมีความห่วงใยแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอล จึงได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานไทยอย่างใกล้ชิดทันที

ทั้งนี้ กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รายงานมาว่า ขณะนี้ยังไม่มีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการโจมตีในสถานการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด

ด้าน ไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลทุกคนปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางสถานทูตไทยอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ติดตามประกาศของแต่ละท้องถิ่น หรือแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ หากต้องการขอรับความช่วยเหลือ หรือได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป

“ขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไทย ทั้งสถานทูตและกระทรวงแรงงาน จะให้การคุ้มครองดูแลอย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด" ปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุ

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลถึงแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย โดยขอให้ปฏิบัติ ดังนี้

1. ห้ามมีการชุมนุมมากกว่า 1,000 คน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และปิดสถาบันการศึกษา
2. ในพื่นที่สู้รบ ห้ามชุมนุมมากว่า 30 คน
3. สถานที่ทำงานเปิดได้เฉพาะที่มีห้องหลบภัย  โดยรัฐบาลได้ประกาศปิดน่านฟ้าและงดเที่ยวบินทั้งหมด ตั้งแต่เวลา 00.30 น. ของวันที่ 14 เมษายน 2567 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบโปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150 (+972) 5 0367 3195