ประกาศ: ประมวลจริยธรรม 'ประชาไท'

หลักการพื้นฐาน

ประชาไท : สื่ออิสระที่วางใจได้เพื่อประชาธิปไตย

ประชาไทดำเนินการภายใต้มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน

คุณค่าของประชาไทคือ ความมุ่งมั่นที่จะเป็นสื่อสารมวลชนที่มีความเป็นอิสระ มุ่งนำเสนอข่าวสารข้อมูลเพื่อพัฒนาสังคมประชาธิปไตยที่ก้าวหน้า ประชาไทเป็นสื่อออนไลน์ ซึ่งนำเสนอข่าวสาร ข้อมูล วิเคราะห์ วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นเพราะเรื่องนั้นมีความสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตย

ประชาไทเป็นสื่อเพื่อความเป็นประชาธิปไตยที่ไม่ปิดบังจุดยืนทางการเมืองของตนเอง หากแต่จะแสดงออกอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา การใดอันจะเป็นปรปักษ์ต่อประชาธิปไตย ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย จะต้องได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ติติงอย่างเข้มแข็ง

ประชาไทไม่ได้เป็นสื่อสังกัดกลุ่มการเมืองใด หรือเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองของกลุ่มใด

องค์ประกอบสำคัญของความเป็นประชาธิปไตยคือ สิทธิและเสรีภาพ ประชาไทมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเชิดชูไว้ซึ่งเสรีภาพในทุกด้าน ประชาไทจะคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสื่อสารเพื่อสร้างความเสมอภาค เป็นธรรมทางสังคม ประชาไทจะเปิดโอกาสให้คนได้แสดงความคิดเห็น รวมทั้งจะคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเช่นว่านั้น แม้ว่าประชาไทจะไม่เห็นด้วยกับความเห็นนั้นก็ตาม

 

หมวด 1 นิยามศัพท์

ประชาไท หมายถึง องค์กรที่ดำเนินงานเผยแพร่ข่าวสาร ผ่านสื่อออนไลน์และชนิดอื่น

บรรณาธิการ หมายถึง ผู้มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลควบคุมการดำเนินงาน รับผิดชอบแก้ไขปรับปรุงข่าว บทความ ข้อเขียน ภาพ และเสียง สั่งการกำหนดทิศทางข่าว ข้อเขียน บทความต่างๆ

กองบรรณาธิการ หมายถึง บรรณาธิการ บรรณาธิการข่าว ผู้สื่อข่าว เว็บมาสเตอร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและเผยแพร่

ผู้สื่อข่าว มีหน้าที่ผลิตข่าว บทความ บทวิเคราะห์ เพื่อเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ

บุคลากรอื่นๆ หมายรวมถึง เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ การเงิน และธุรกิจ

 

หมวด 2 หลักปฏิบัติแห่งวิชาชีพ

ข้อ 1 หลักปฏิบัติแห่งวิชาชีพนี้ใช้บังคับกับกองบรรณาธิการ ผู้สื่อข่าว และบุคลากรอื่น ซึ่งบุคลากรของประชาไททั้งหมดต้องยึดถือและปฏิบัติตาม

ข้อ 2 การรายงานข่าวจะต้องระบุแหล่งข่าวโดยชัดแจ้ง การเผยแพร่ข้อความ หรือบทความที่เขียนโดยผู้ใช้นามปากกา หรือนามแฝง ย่อมกระทำได้ ตราบเท่าที่บุคคลนั้นติดต่อและเปิดเผยตัวตนกับกองบรรณาธิการ หรือบรรณาธิการโดยตรง

การเข้าถึงแหล่งข่าว ข้อมูลใดๆ ย่อมกระทำโดยชัดแจ้ง และโปร่งใส

ข้อ 3 การนำเสนอข่าวสาร ข้อมูล โดยปกปิดแหล่งข่าว และแหล่งข้อมูลนั้น จะกระทำเพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัยของแหล่งข่าวเท่านั้น  

เพื่อประโยชน์ของความปลอดภัยและสวัสดิภาพของแหล่งข่าว การเปิดเผยแหล่งข่าวและข้อมูล เช่นว่านั้นย่อมกระทำมิได้ เว้นแต่จะโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หรือคำสั่งศาล

ข้อ 4 ผู้สื่อข่าว มีดุลพินิจในการเปิดเผยชื่อ ฐานะ ตำแหน่ง ของแหล่งข่าว หรือบุคคลในข่าว แต่การใช้ดุลพินิจเช่นว่านั้น ให้คำนึงถึงความปลอดภัย ในชีวิต ทรัพย์สิน และสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลนั้นเป็นสำคัญ

ข้อ 5 การเปิดเผยถิ่นที่อยู่และความเป็นส่วนตัวของบุคคลหรือข้อมูลส่วนตัว เช่น อายุ ฐานะสมรส รสนิยมทางเพศ หมายเลขโทรศัพท์ ความเชื่อทางศาสนา ในข่าว โดยปราศจากความยินยอมของบุคคลนั้นย่อมกระทำมิได้

กองบรรณาธิการมีดุลพินิจในการพิจารณาเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามความในวรรคก่อน เมื่อพิจารณาว่าเป็นสาระสำคัญของเรื่อง

ข้อ 6 การอ้างข้อความใดๆ จากผู้ให้สัมภาษณ์หรือเอกสาร จะต้องกระทำอย่างเที่ยงตรง และถูกต้องตามบริบทของเรื่อง การอ้างอิงคำพูดใดๆ นอกบริบทจะกระทำมิได้ การเขียนแต่งเติมคำพูดของผู้ให้สัมภาษณ์ย่อมกระทำมิได้ ข้อความที่ปรากฏอยู่ในเครื่องหมายอัญประกาศต้องเป็นของผู้พูดทุกถ้อยคำ

ข้อ 7 หากปรากฏความผิดพลาดในการนำเสนอข่าว ข้อมูลใด จะต้องแก้ไขโดยไม่ชักช้า หากความผิดพลาดนั้นสร้างความเสียหายแก่บุคคลใด จะต้องมีคำขออภัยปรากฏให้เห็นเด่นชัด

ข้อ 8 บรรณาธิการจะสั่งยุติการเผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูล ที่พบว่าผิดพลาดร้ายแรงโดยทันที ข่าวหรือข้อมูลที่ผิดพลาดเล็กน้อยแต่มีความสำคัญอาจจะพิจารณาพักการเผยแพร่เพื่อทำการแก้ไขก่อนได้

ข้อ 9 หากมีการร้องเรียนจากผู้อ่าน หรือผู้ได้รับผลกระทบจากการนำเสนอข่าวหรือบทความการแสดงความคิดเห็นต่างๆ หรือร้องเรียนว่า บุคลากรหรือผู้สื่อข่าว เจ้าหน้าที่คนใดฝ่าฝืนหลักจรรยาบรรณนี้ ประชาไทจะทำการสอบสวนโดยเร็วและด้วยความเป็นธรรม รวมทั้งแจ้งผลการตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขให้แก่ผู้ร้องเรียนทุกราย เท่าที่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้

ในการพิจารณาเรื่องร้องเรียน กองบรรณาธิการจะจัดตั้งคณะบุคคล เพื่อทำการตรวจสอบพิจารณา ซึ่งจะไม่มีผู้ถูกร้องเรียนมีส่วนร่วมพิจารณาด้วย ทั้งนี้ จะมีการแต่งตั้งบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนร่วมด้วยก็ได้

ข้อ 10 การเผยแพร่เรื่องความขัดแย้ง จะต้องคำนึงถึงความมีดุลยภาพระหว่างฝ่ายต่างๆ ที่มีความเห็นแตกต่างกัน

ข้อ 11 การนำเสนอข่าว ความเห็น จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และสิทธิของเด็กและเยาวชน เป็นพิเศษ

เด็กและเยาวชน ที่ได้รับความคุ้มครองตามวรรคก่อน คือบุคคลที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี

ข้อ 12 การเปิดเผยรูปพรรณสัณฐานของเด็กที่ถูกกระทำ หรือตกเป็นเหยื่อ ของเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าโดยภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว การบรรยายโดยคำพูด การเขียน ย่อมกระทำมิได้

ข้อ 13 ข้อเขียน รายงานข่าว หรือความเห็นใด ที่แสดงออกถึงการดูถูกเหยียดหยามทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา ชนชั้น การศึกษา จะไม่ได้รับความยินยอมให้มีการเผยแพร่

ข้อ 14 การล้อเลียนบุคลิกภาพ ความพิการ ไม่ว่าโดยข้อความ ภาพ เสียง จะกระทำมิได้

ข้อ 15 ภาษาหลักที่ใช้ในการสื่อสารคือ ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ การแปลความระหว่างสองภาษาหรือชื่อเฉพาะจากภาษาอื่นๆ จะต้องกระทำโดยต้องตรงกันอย่างที่สุด

ข้อ 16 การรายงานข่าว และข้อเขียนใดๆ จะต้องใช้ภาษาสุภาพตามบริบทของเรื่องและวัฒนธรรมของสังคม ตามความเหมาะสมแห่งยุคสมัย

ข้อ 17 กองบรรณาธิการจะไม่เผยแพร่ข้อความ ภาพและเสียง อันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามบุคคล นิติบุคคลหรือสถาบัน

ข้อ 18 ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือ ข่าวสารข้อมูลในรูปแบบอื่นใด ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือ สิทธิอื่นใดตามกฎหมาย จะไม่ได้รับการเผยแพร่เพื่อประโยชน์ทางการพาณิชย์จากประชาไท

ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือข่าวสารข้อมูลในรูปแบบใดๆ ที่เป็นลิขสิทธิ์ของประชาไทจะไม่มีการสงวนสิทธิสำหรับผู้ที่จะนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาเรียนรู้และประโยชน์สาธารณะทั้งปวง แต่ไม่รวมถึงการเผยแพร่ต่อเพื่อผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ ผู้เผยแพร่ต้องอ้างอิงประชาไทว่าเป็นแหล่งที่มา

ข้อ 19 บรรดาบทความ ข้อเขียน ภาพ บทกวี หรือ ข่าวสาร ข้อมูลในรูปแบบอื่นใด หากมิได้ปรากฏว่าผลิตโดยบุคลากรประจำของประชาไทแล้ว ย่อมเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของผู้ผลิต

ข้อ 20 ประชาไทเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพที่จะเสนอข่าวสาร ข้อมูล ความเห็นผ่านสื่อประชาไท บรรดาบทความ หรือ ข้อเขียนใด ที่มิได้เกิดจากความริเริ่มของกองบรรณาธิการ จะไม่มีค่าตอบแทน  

การแสดงความเห็นท้ายข่าว บทความ หรือข้อความใดๆ ย่อมกระทำได้โดยเสรี พึงหลีกเลี่ยงการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น ยกเว้น เป็นความประสงค์ของผู้เขียนบทความหรือข้อเขียนนั้น หรือเพื่อการป้องกันมิให้ใช้การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวไปเพื่อเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือละเมิดต่อบุคคลอื่น หรือเพื่อการโฆษณาสินค้า

ข้อ 21 การเผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูล ข้อเขียนใดๆ ย่อมกระทำโดยชัดแจ้ง ไม่คลุมเครือ หรือ ก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย การปกปิด หรือตัดทอน จะกระทำได้ต่อเมื่อเป็นผลแห่งบทบัญญัติของกฎหมาย

ข้อ 22 ภาพและหรือข่าว อาชญากรรมสะเทือนขวัญ การกระทำที่แสดงออกถึงความโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน ซึ่งบรรณาธิการใช้ดุลพินิจแล้วว่าไม่ก่อประโยชน์ใดๆ ต่อสาธารณะจะไม่ได้รับการเผยแพร่

 

หมวด 3  ผลประโยชน์ขัดกัน

ข้อ 23 กองบรรณาธิการเป็นอิสระจากฝ่ายธุรกิจ และปราศจากการครอบงำทางอำนาจและผลประโยชน์ใดๆ  

ข้อ 24  ภารกิจของกองบรรณาธิการและฝ่ายธุรกิจจะต้องกำหนดขอบเขตเพื่อเป็นหลักประกันความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการ การโอนย้ายบุคลากรระหว่างฝ่าย อาจกระทำได้แต่ต้องปรากฏการแบ่งแยกอำนาจหน้าที่โดยชัดเจน

ข้อ 25 ข่าวสารข้อมูล แหล่งข่าว ที่หาได้ระหว่างการเป็นพนักงานประชาไท ถือเป็นทรัพยากรขององค์กรที่กองบรรณาธิการใช้ร่วมกันได้ สมาชิกกองบรรณาธิการจะเก็บทรัพยากรเช่นว่านั้นไว้อย่างเหมาะสม จะรักษาไว้ซึ่งบรรดาข้อมูลลับที่ได้มาระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของผู้สื่อข่าว การนำไปเปิดเผยควรได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการ

ข้อ 26 สมาชิกกองบรรณาธิการที่เป็นสมาชิกองค์กรการเมือง หรือองค์กรอื่นใด ไม่พึงเผยแพร่ข้อความใดเกี่ยวกับองค์กรที่ตัวสังกัดในลักษณะการโฆษณาเพื่อผลประโยชน์ให้กับองค์กรนั้นๆ ในสื่อของประชาไท

สมาชิกกองบรรณาธิการแพร่ข้อความใดโดยมุ่งหวังอามิสสินจ้างเป็นการส่วนตัว ถือเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อ 27 ข้อเขียนใดอันเป็นการอวดอ้างถึงสมาชิกกองบรรณาธิการหรือบุคลากรอื่นใดในประชาไทจะไม่ได้รับการเผยแพร่

บรรณาธิการมีดุลพินิจในการนำเสนอข่าวกรณีที่สมาชิกกองบรรณาธิการหรือบุคลากรอื่นใดของประชาไทตกอยู่ในเหตุการณ์หรือมีการกระทำใดที่ส่งผลกระทบต่อสาธารณะหรือเพื่อประโยชน์ของการพัฒนาประชาธิปไตย

ข้อ 28 ประชาไทจะไม่ปกปิดแหล่งสนับสนุนเงินทุนหลัก และประชาไทจะรายงานการทำงานแก่มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน

 

หมวด 4  พฤติกรรมส่วนบุคคล

ข้อ 29 สมาชิกกองบรรณาธิการและบุคลากรอื่นใดของประชาไท ย่อมมีเสรีภาพทางการเมือง ความเชื่อ ศาสนา การศึกษา รสนิยมทางเพศ สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรหรือทำกิจกรรมใดๆ ตามความเชื่อของตนได้

ทั้งนี้การดำเนินกิจกรรมดังกล่าว ย่อมเป็นไปตามบทบัญญัติว่าด้วยผลประโยชน์ขัดกัน

ข้อ 30 การหารายได้พิเศษของบุคลากรประชาไทไม่ใช่สิ่งต้องห้าม เว้นเสียแต่ว่าการทำงานพิเศษดังกล่าวส่งผลเสียหายต่อหน้าที่ประจำ หรือเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือมีผลประโยชน์ขัดกันกับการปฏิบัติหน้าที่ประจำ

ข้อ 31 สมาชิกกองบรรณาธิการ หรือบุคคลอื่นใดที่ทำงานให้ประชาไท ไม่ว่าจะรับค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม จักอ้างชื่อประชาไทเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ มิได้

หากบุคลากรประจำของประชาไทพบเห็นการกระทำเช่นว่านั้น ให้แสดงตัว ปฏิเสธ และแจ้งให้บรรณาธิการทราบโดยไม่ชักช้า

ข้อ 32 การรับของขวัญ ของกำนัล ย่อมทำได้ตามฐานานุรูปแห่งตนและวัฒนธรรมสังคม เว้นเสียแต่ว่าการรับเช่นว่านั้นเป็นไปเพื่อหวังจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งขัดกับหลักจริยธรรมนี้

 

 

ประกาศ ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2555

ทบทวนครั้งที่ 1 วันที่ 19 ตุลาคม 2556

ทบทวน ครั้งที่ 2 มีแก้ไขเพิ่มเติม วันที่ 2 เมษายน 2559

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท