ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก “ไบรท์ ชินวัตร” 6 ปี ปรับ 22,200 บาท คดีม.112 ม.116 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากเหตุชุมนุม #2ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว รับสารภาพลดโทษครึ่งหนึ่ง อยู่ระหว่างรอการประกันตัว
13 ธ.ค.2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ที่ศาลอาญา รัชดา นัดอ่านคำพิพากษาคดีของ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ ในคดีที่อัยการฟ้องหลายข้อหาโดยมีข้อหาหลักๆ คือ หมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ข้อหายุยงปลุกปั่น มาตรา 116 ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการร่วมชุมนุม #2ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว ที่ห้าแยกลาดพร้าว เมื่อ 2 ธ.ค. 2563 ทั้งนี้ชินวัตรได้เคยให้การรับสารภาพในคดีนี้ไว้
ศาลมีคำพิพากษาว่าชินวัตรมีความผิดตามฟ้องทุกข้อหา โดยข้อหา ม.112 ให้จำคุก 4 ปี ข้อหา ม.116 จำคุก 2 ปี และข้อหา ม.385 ลงโทษปรับ 2,000 บาท ส่วนใช้เครื่องขยายเสียงปรับ 200 บาท และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปรับ 20,000 บาท จำคุกรวม 6 ปี ปรับ 22,200 บาท
ทั้งนี้ศาลเห็นว่าจำเลยรับสารภาพ มีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 11,100 บาท ไม่รอลงอาญา ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การอ่านคำพิพากษาวันนี้เป็นการพิพากษาในส่วนของชินวัตรเพียงคนเดียวเนื่องจากมีการรับสารภาพ แต่ในคดีนี้เป็นคดีที่มีจำเลยทั้งหมด 7 คนโดยอีก 6 คนได้แก่ อานนท์ นำภา, พริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์, ภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก, ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล, จิรฐิตา ธรรมรักษ์ และคริษฐ์ อร่ามพิบูลกิจ โดยการชุมนุมครั้งดังกล่าวเป็นการชุมนุมขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี และวิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจากกรณีพล.อ.ประยุทธ์อยู่ในบ้านพักทหารทั้งที่เกษียณอายุราชการแล้วได้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)