ศาลสมุทรปราการลงดาบ นศ. ปวช. วัย 21 ปี (อายุขณะเกิดเหตุ 19 ปี) ผิด ม.112 สั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน จากกรณีแชร์โพสต์เฟซบุ๊กจาก "KonThaiUK" และวิจารณ์การแต่งกาย ร.10 เมื่อปี 2563 ก่อนศาลให้โอกาสกลับตัว เหตุไม่มีประวัติต้องโทษ รอการลงโทษ 2 ปี

28 ก.ย. 2566 เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (28 ก.ย.) เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสมุทรปราการนัดฟังคำพิพากษาในคดีของ "ธีรวัช ยอดสิงห์" ปัจจุบันอายุ 21 ปี (ขณะเกิดเหตุอายุ 19 ปี) ผู้ถูกกล่าวหาในคดี มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3), (5) เหตุแชร์โพสต์เฟซบุ๊กเพจ "KonThaiUk" พร้อมกับข้อความวิพากษ์วิจารณ์การแต่งกายของรัชกาลที่ 10 เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2563  

คดีนี้มี ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล เป็นผู้กล่าวหาไว้ที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ในชั้นสอบสวน เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2564 ธีรวัชเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง โดยไม่มีทนายความ หรือผู้ไว้วางใจเข้าร่วมการสอบสวนด้วย มีเพียงการได้โทรศัพท์คุยกับญาติระหว่างการสอบสวนเท่านั้น และได้รับการปล่อยตัว ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะนัดหมายให้ไปพบที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขออำนาจศาลฝากขังในวันถัดไป และได้ประกันตัวในวงเงิน 150,000 บาท 

ทั้งนี้ ธีรวัชยังเผยว่า มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไปหาที่บ้านของญาติในต่างจังหวัดเพื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัวเมื่อเดือน มี.ค. 2564 ด้วย 

ต่อมา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2564 พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีของธีรวัชต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ ใน 2 ข้อหาด้วยกัน ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) และ (5) 

ขณะเกิดเหตุ ธีรวัชเพิ่งมีอายุ 18 ปีเศษ ทนายความจึงได้ยื่นคำร้องขอให้คดีถูกยกไปพิจารณายังศาลเยาวชนแทนศาลทั่วไป เนื่องจากพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 97 เปิดโอกาสให้บุคคลอายุไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ หากศาลพิจารณาเห็นว่ามีสภาพเช่นเดียวกับเด็กหรือเยาวชน โดยคำนึงถึงสภาพร่างกาย สภาพจิต สติปัญญา และนิสัยแล้ว สามารถมีคำสั่งโอนคดีไปพิจารณาในศาลเยาวชนได้ 

ต่อมาศาลจังหวัดสมุทรปราการวินิจฉัยว่า สภาวะจิตใจของจำเลยสมบูรณ์สมวัย เห็นว่าการที่จำเลยร้องขอมาก็เพื่อขอให้ได้รับโทษน้อยลง จึงไม่อนุญาตให้โอนย้ายคดีไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวฯ และได้นัดสืบพยานต่อไป  

เมื่อถึงนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยนัดแรกเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2566 ธีรวัชตัดสินใจกลับคำให้การเป็นรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ศาลจังได้นัดฟังคำพิพากษาเป็นวันนี้

ศาลพิพากษาผิด ม.112 แต่ลดมาตราส่วนโทษ 1 ใน 3 เพราะอายุไม่ถึง 20 ปี จำคุก 2 ปี 8 เดือน ก่อนลดอีกครึ่งหนึ่ง พร้อมรอการลงโทษ 2 ปี 

ศาลมีคำพิพากษาโดยสรุปว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) วรรค 1 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ขณะกระทำความผิดจำเลยมีอายุกว่า 18 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี เห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 76 

การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักสุด ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน รับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 เหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน 

พิเคราะห์พฤติกรรมแห่งคดีตามรายงานสืบเสาะพินิจจำเลยเห็นว่า ความประพฤติ ประวัติ และนิสัยจำเลยไม่ปรากฏข้อเสียหายร้ายแรง ขณะกระทำความผิดจำเลยมีอายุน้อย อาจหลงเชื่อสังคมออนไลน์ ขาดการไตร่ตรองย้ำคิดอย่างรอบคอบ เมื่อจำเลยรู้สึกสำนึกในการการกระทำของตน อีกทั้งมีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งประกอบอาชีพเป็นกิจจะลักษณะ ประกอบกับจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุก เห็นสมควรให้โอกาสกับตัวเป็นพลเมืองดี 

โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้คุมประพฤติไว้มีกำหนด 2 ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 6 ครั้ง กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมง 

สำหรับ ‘ธีรวัช’ มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันฝึกงานเพื่อเตรียมตัวเป็นผู้จัดการร้านอยู่ที่ร้านสุกี้แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เหตุการณ์เลือกตั้งปี 2562 ที่ประยุทธ์ชนะเลือกตั้งด้วยกลไกของตัวเอง ทำให้ธีรวัชในวัยเพียง 17 ปี หันมาสนใจการเมืองมากยิ่งขึ้น และเมื่อช่วงปี 2563 เขาได้เข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองในช่วงดังกล่าวด้วย

คดีของธีรวัช นับเป็นหนึ่งในคดีมาตรา 112 ของ สภ.บางแก้ว ซึ่งมีไม่น้อยกว่า 14 คดี และนับเป็นหนึ่งในคดีที่มี ศิวพันธ์ุ มานิตย์กุล เป็นผู้ไปกล่าวหา จากเท่าที่มีข้อมูลจำนวน 9 คดี โดยส่วนใหญ่พบว่า เป็นคดีที่เกิดจากการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ในช่วงกลางปี 2563