Skip to main content
sharethis

พรรคการเมืองที่สนับสนุนจีน 3 พรรคในฮ่องกงยื่นอุทธรณ์ หลังศาลยกคำร้องที่รัฐบาลขอให้แบนเพลงประท้วงที่ชื่อ "Glory to Hong Kong" ซึ่งได้รับความนิยมช่วงการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงเมื่อปี 2562 โดยศาลให้เหตุผลว่ากลัวผลกระทบต่อเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและเรื่องการเซนเซอร์ตัวเอง

(ซ้าย) ภาพปกประกอบเพลง Glory to Hong Kong โดยศิลปิน Zhonglian Dengzi (ขวา) ผู้ชุมนุมนัดร้องเพลง Glory to Hong Kong ที่ห้าง New Town Plaza เมื่อ 11 กันยายนปี 2562 (ที่มา: Wikipedia)

7 ส.ค. 2566 หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วศาลฮ่องกงได้สั่งยกฟ้อง กรณีที่รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีคำร้องให้สั่งแบนการแสดงหรือการร้องเล่นด้วยเจตนาที่ผิดกฎหมายผ่านเพลงประท้วงฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยที่ชื่อว่า "Glory to Hong Kong" โดยที่ศาลระบุว่าการสั่งแบนเช่นนี้อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในแง่ของการเซนเซอร์ตัวเอง

ผู้พิพากษา แอนโทนี ชาน ระบุในคำตัดสินว่า "การใช้คำสั่งห้ามโดยมุ่งเป้าไปที่การกระทำในทางอาญา แต่ไม่ใช่กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ผมเชื่อว่าตรงจุดนี้มันเป็นการล่วงละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น" โดยเฉพาะต่อบุคคลที่สามที่ไม่มีความผิดใดๆ นี่คือสิ่งที่กฎหมายมหาชนเรียกว่าเป็นการส่งผลให้เกิดการเซนเซอร์ตัวเอง แม้กระทั่งการกระทำในสิ่งที่ถูกกฎหมายเพราะกลัวว่าจะเป็นการ "ฝ่าฝืนข้อห้าม"

กระทรวงยุติธรรมของฮ่องกงพยายามจะร้องเรียนในเรื่องนี้หลังจากที่มีงานกีฬาในต่างประเทศนำเพลงนี้มาใช้ผิดบ่อยครั้ง เพราะผู้จัดงานอาศัยวิธีการค้นหาทางกูเกิลเพื่อหาเพลงชาติสำหรับทีมนักกีฬาฮ่องกงแล้วก็เข้าใจผิดว่าเพลง "Glory to Hong Kong" เป็นเพลงชาติ แทนที่จะเป็นเพลงมาร์ชทหารอาสา (March of the Volunteers) หรือเพลงอี่หย่งจินจิ้นสิงชวีของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยที่พวกเขาต้องการให้มีการห้ามเผยแพร่เพลงประท้วงของฝ่ายประชาธิปไตยฮ่องกงด้วยเจตนาที่เป็นการแบ่งแยกดินแดน, การยุยงปลุกปั่น หรือการละเมิดกฎหมายเพลงชาติจีน

อย่างไรก็ตามการเรียกร้องให้สั่งห้ามนี้ก็สร้างความกังวลให้กับผู้คนบางส่วนในแง่ที่ว่ามันจะเป็นการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยที่ฮ่องกงต่างจากพื้นที่อื่นๆ ของจีนตรงที่ไม่มีการเซนเซอร์เนื้อหาอินเทอร์เน็ต ถึงแม้ว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2563 ก็ตาม

เนื้อหาของ "Glory to Hong Kong" ได้รับความนิยมในช่วงที่มีการประท้วงปี 2563 จากวลี "ปลดปล่อยฮ่องกง การปฏิวัติในช่วงเวลาของพวกเรา" ซึ่งเป็นคำขวัญที่ใช้ในการประท้วง แต่หลังจากนั้น ก็มีคำตัดสินจากศาลว่าคำขวัญดังกล่าวนี้เป็นคำขวัญที่อาจจะกลายเป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดการแบ่งแยกดินแดนได้ คำตัดสินที่ว่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีการดำเนินคดีด้วยกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่คดีแรกของฮ่องกง

ถึงแม้ว่าฮ่องกงจะมีกฎหมายเอาผิดในเรื่องการหมิ่นเพลงชาติจีนหรือธงชาติจีนอยู่แล้ว แต่กระทรวงยุติธรรมของฮ่องกงก็อ้างว่าคำสั่งห้ามเพลง "Glory to Hong Kong" ก็ยังมีความสำคัญ โดยมองว่ามันเป็นเพลงที่ชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็นเพลงชาติที่ยุยงให้เกิดการแบ่งแยก แต่ศาลสูงก็โต้แย้งกระทรวงยุติธรรม  โดยบอกว่า การออกคำสั่งห้ามไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ และอาจจะกลายเป็นการขัดกับกฎหมายอื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว

รอนสัน ชาน ประธานของสมาคมผู้สื่อข่าวฮ่องกงกล่าวว่า คำตัดสินของศาล "มีเหตุผลมาก" โดยที่เขาเห็นด้วยว่ามันจะทำให้เกิดการเซนเซอร์ตัวเอง และทางสมาคมผู้สื่อข่าวยินดีที่ศาลตัดสินเช่นนี้

"Glory to Hong Kong" ได้รับการเผยแพร่ทางยูทูบเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2562 โดยนักแต่งเพลงในฮ่องกงที่เรียกตัวเองว่า Thomas และทีมงาน ในช่วงเดียวกับที่การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงกำลังอยู่ในจุดสูงสุด ในเพลงนี้มีเนื้อเพลงที่ผู้คนร่วมกันเขียนขึ้นผ่านทางการหารือกันในเว็บบอร์ดที่ชื่อ LIHKG ซึ่งเป็นเนื้อหาเรียกร้องเสรีภาพและประชาธิปไตย มีคำขวัญที่ใช้ในการประท้วงอยู่ในนั้น

เพลงประท้วงฝ่ายประชาธิปไตย 'Glory to Hong Kong' ขึ้นชาร์ทท็อป 10 หลังรัฐบาลสั่งแบน, 10 มิ.ย. 2566

3 พรรคการเมืองโปรจีนเรียกร้องอุทธรณ์

กลุ่มนักการเมืองจากพรรคการเมือง 3 พรรคในฮ่องกงได้แก่พรรค DAB พรรค FTU และพรรค LP ต่างก็โพสต์ในเฟสบุคในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันไม่กี่ชั่วโมง ต่างก็เรียกร้องให้อัยการฮ่องกงยื่นอุทธรณ์ในเรื่องที่ศาลสั่งยกฟ้องการขอแบนเพลงประท้วง Glory to Hong Kong และเรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงแบนเพลงนี้ให้สิ้นซาก

Peter Shiu Ka-fai ประธานพรรค LP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวากลางที่สนับสนุนจีนและสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ กล่าวว่าที่รัฐบาลฮ่องกงจำเป็นต้องใช้วิธีการดำเนินการทางกฎหมายก็เพราะว่าเว็บไซต์ค้นหาและพื้นที่สตรีมเพลงปฏิเสธที่จะถอดเพลง Glory to Hong Kong ออกจากผลการค้นหาหรือจากเว็บไซต์ของพวกเขา Shiu อ้างว่า ทางรัฐบาลเคยเปิดเผยไปแล้วว่าเพลงนี้ "ไม่เหมาะสม" อย่างไร ถ้าหากกลุ่มธุรกิจออนไลน์ยอมปฏิบัติตามมันก็ "แก้ปัญหาได้" แต่ถ้าไม่พวกเขาก็ต้องใช้วิธีการขอคำสั่งห้าม

ศาลตัดสินว่ามันมีกฎหมายที่ห้ามการเผยแพร่ส่งต่อเนื้อหาแบบที่ยุยงให้เกิดการแบ่งแยกดินแดนอยู่แล้ว และการสั่งแบนเพลงนี้โดยเฉพาะก็จะไม่ส่งผลให้บรรษัทยักษ์ใหญ่อย่าง กูเกิล หรือบรรษัทไอทีอื่นๆ อยากทำตามคำสั่งด้วยการถอดเพลงนี้ออกจากพื้นที่ให้บริการของพวกเขาแต่อย่างใด ทำให้ศาลมองว่าการออกคำสั่งแบนไม่มีประโยชน์

Holden Chow Ho-ding รองประธานของพรรค DAB และทนายความไม่เห็นด้วยกับข้ออ้างของผู้พิพากษา ในเรื่องที่ว่ามันจะทำให้เกิดการเซนเซอร์ตัวเอง โดยที่ Chow อ้างว่ามันมีเหตุให้ต้องแบนเพลงนี้เพราะมันเป็น "เพลงที่ส่งเสริมความเป็นเอกราชของฮ่องกง" ทำให้เรื่องนี้นับเป็น "ปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ(จีน)" และเตือนว่าการตัดสินของศาลจะเป็นการสร้างมาตรฐานทางกฎหมายสำหรับการพิจารณาคดีแบบเดียวกันในอนาคตได้ถ้าหากรัฐบาลไม่อุทธรณ์ในเรื่องนี้

เรียบเรียงจาก

3 major political parties call for justice department to appeal against court dismissal of ‘Glory to Hong Kong’ ban bid, South China Morning Post, 04-08-2023

Hong Kong court rejects government application for ban on pro-democracy protest song, Global Voices, 31-07-2023

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net