Skip to main content
sharethis

อังกฤษเผยข้อมูลว่ามีเด็กฮ่องกงอายุตั้งแต่ 6-11 ปี 19,280 คน ย้ายถิ่นมาอยู่ที่อังกฤษนับตั้งแต่ 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา หลังจีนออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่และมีการเสนอหลักสูตรรักชาติในแบบเรียนตั้งแต่ชั้นประถม ทั้งนี้ผู้ปกครองยังต้องการให้ลูกได้เรียนในอังกฤษด้วยค่าเทอมระดับเดียวกับชาวอังกฤษด้วย


ที่มาภาพประกอบ: Wikimedia

ภาคส่วนโรงเรียนประถมของฮ่องกงเผชิญได้รับความกระทบกระเทือนหนักที่สุดในภาคส่วนการศึกษาทั้งหมด หลังจากที่มีกระแสการย้ายออกจากประเทศไปอยู่ที่อังกฤษ ตัวเลขจากทางการระบุว่ามีเด็กอายุ 6-11 ปี จำนวน 19,280 คน ย้ายถิ่นฐานจากฮ่องกงไปอยู่ที่อังกฤษตลอดช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา

ตัวแทนจากภาคส่วนการศึกษาระบุว่า กระแสการย้ายถิ่นฐานเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะว่าผู้ปกครองหวังให้ลูกหลานของพวกเขาได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัยอังกฤษโดยได้รับ "สถานะการจ่ายค่าธรรมเนียมแบบเดียวกับชาวอังกฤษ" ซึ่งจะอนุญาตให้พวกเขาจ่ายค่าเทอมในราคาที่เทียบเท่าชาวอังกฤษได้หลังจากที่พวกเขาได้สถานะผู้อยู่อาศัยถาวรในอังกฤษแล้ว การจะได้สถานะดังกล่าวจะต้องอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษเป็นเวลา 5 ปี ภายใต้วีซ่า British National (Overseas) หรือ BNO ซึ่งเป็นวีซ่าที่ให้กับชาวฮ่องกงที่ถือหนังสือเดินทางอังกฤษ

ทางการอังกฤษได้เสนอช่องทางให้สถานะพลเมืองแก่ชาวฮ่องกงตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564 เป็นต้นมา หลังจากที่ทางการจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในเดือน มิ.ย. 2563 ผู้อพยพที่ถือวีซ่า BNO จะสามารถขอสถานะผู้อาศัยถาวรในอังกฤษได้หลังจากที่อาศัยอยู่ในอังกฤษเป็นเวลา 5 ปี และหลักจากที่มีสถานะผู้อาศัยถาวรได้ 1 ปีแล้วก็จะสามารถยื่นขอสถานะพลเมืองได้ ผู้ที่มีวีซ่าดังกล่าวนี้จะสามารถเรียนในโรงเรียนรัฐของอังกฤษได้ฟรี

สถิติของหน่วยงานศึกษาธิการเมืองเบอร์มิงแฮมในอังกฤษระบุว่า พื้นที่ของพวกเขามีเด็กในสถานรับเลี้ยงและเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่มาจากฮ่องกงเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในช่วงปีการศึกษา 2565-2566

ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมาระบุว่า รัฐบาลอังกฤษได้ให้วีซ่า BNO ชาวฮ่องกงรวมแล้ว 147,716 ราย ระหว่างเดือน ม.ค. 2564 - มิ.ย. 2566 ซึ่งในจำนวนนี้มีการให้วีซ่าแก่เด็กชาวฮ่องกงอายุ 5 ปีลงไปรวม 10,588 ราย อายุ 6-11 ปี รวม 19,280 ราย อายุ 12-17 ปี รวม 10,079 ราย และมีวัยผู้ใหญ่ตอนต้นอายุ 18-22 ปี รวม 3,016 ราย ที่เหลือ 104,753 ราย ที่ได้วีซ่า BNO เป็นชาวฮ่องกงอายุ 23 ปี ขึ้นไป

ระดับประถมศึกษาในฮ่องกงมีนักเรียนลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับระดับชั้นการศึกษาอื่นๆ อย่างระดับชั้นอนุบาลหรือระดับมัธยมศึกษา ในระดับอุดมศึกษานั้นได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย มีผู้ถือวีซ่า BNO ในช่วงอายุนี้อยู่ 3,016 รายเท่านั้น

กระทรวงมหาดไทยของอังกฤษแถลงว่าพวกเขาได้รับการขอวีซ่า BNO 190,997 กรณี โดยมีการรับรอง ร้อยละ 97.3 ของกรณีทั้งหมด ในจำนวนนี้มีชาวฮ่องกงอยู่ 166,022 รายที่มาอังกฤษแล้วถึงขอวีซ่าหรือไม่ก็อาศัยอยู่ที่อังกฤษอยู่แล้ว

รายงานสถิติในเรื่องนี้จากกระทรวงมหาดไทยอังกฤษระบุว่า มีจำนวนผู้ขอวีซ่า BNO มากที่สุดในช่วง 2 ไตรมาสแรกที่มีการเปิดให้ขอวีซ่า จากนั้นก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งคงตัวตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. 2565 เป็นต้นมาอยู่ที่ราว 10,000 รายต่อไตรมาส

So Ping-fai รักษาการแทนประธานสภาโรงเรียนประถมศึกษาที่ได้รับเงินช่วยเหลือ กล่าวว่า ตัวเลขสถิติดังกล่าวนี้ชี้ให้เห็นว่าภาคส่วนโรงเรียนประถมศึกษาได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากกระแสการอพยพออกจากประเทศ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองอยากให้ลูกหลานของตัวเองไปเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาที่ต่างประเทศ และมีแผนการที่จะทำให้พวกเขาจ่ายเงินค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยน้อยลงในอังกฤษ

So Ping-fai กล่าวอีกว่าพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ที่ออกจากฮ่องกงเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองที่อายุยังน้อยเพราะพวกเขากังขาหรือไม่มั่นใจในอนาคตของฮ่องกง พวกเขาออกจากฮ่องกงเพราะเรื่องการศึกษา เพราะในอังกฤษเป็นที่รู้จักดีว่ามีบรรยากาศของการศึกษาที่เข้มข้น

So บอกอีกว่านักเรียนฮ่องกงมักจะทำผลประเมินนานาชาติได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับนักเรียนจากที่อื่นๆ และผู้ปกครองต่างก็ต้องการอพยพเพื่อให้ได้ค่าเล่าเรียนในเรทที่ถูกลงจากโครงการเก็บค่าเรียนในระดับเดียวกับชาวอังกฤษสำหรับผู้อาศัยถาวร

ทำไมชาวฮ่องกงถึงรู้สึกว่าการย้ายไปอยู่อังกฤษถึงคุ้มค่า แม้ว่าจะต้องใช้เงิน และไปอยู่ในที่ๆ มีเพื่อนน้อยกว่า

มีความเป็นไปได้ที่ว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับแผนการบรรจุวิชาปลูกฝังการรักชาติจีนที่ให้เริ่มเรียนตั้งแต่ชั้นประถม โดยจะมีการสอนทั้งเรื่องประวัติศาสตร์จีน วัฒนธรรมจีน รวมไปถึงเรื่องความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย ทางการประกาศจะเริ่มต้นสอนวิชาปลูกฝังการรักชาติที่ว่านี้ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่จูงใจให้ผู้ปกครองพาลูกหลานตัวเองหนีออกจากฮ่องกง แต่ So ก็บอกว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะสรุปเช่นนั้น

ในอังกฤษ ค่าเล่าเรียนระดับอุดมศึกษาสำหรับนักศึกษา "ในประเทศ" และ นักศึกษา "นานาชาติ" นั้นมีเรทที่ต่างกัน ในปัจจุบันค่าเล่าเรียนแบบในประเทศถูกกำหนดเพดานโดยรัฐบาลให้อยู่ที่สูงสุด 9,250 ปอนด์ (ราว 410,000 บาท) ส่วนราคาแบบนานาชาติจะถูกตั้งไว้สูงกว่ามากขึ้นอยู่กับหลักสูตรและสถานศึกษา

รัฐบาลสก็อตแลนด์ก็เคยประกาศว่าพวกเขาจะทำให้ผู้ที่มี BNO วีซ่า สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ฟรีภายในปีการศึกษาหน้า โดยกำหนดคุณสมบัติให้บุคคลนั้นๆ ต้องเป็นผู้อาศัยประจำในสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 3 ปี และเป็นผู้อาศัยประจำในสก็อตแลนด์


เรียบเรียงจาก
Hong Kong primary schools lost 19,280 pupils to UK emigration wave, making it hardest-hit among city’s education sector, SCMP, 27-11-2023
Hong Kong announces mandatory course on ‘patriotism’ for primary students, Nextshark, 24-11-2023

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net