Skip to main content
sharethis

สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ร่วมกับกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) เรียกร้องให้ฝ่ายทหารในไนเจอร์ที่อยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหารเมื่อสัปดาห์ก่อน ยุติการกระทำของตนและปล่อยตัวประธานาธิบดีโมฮาเมด บาซู กลับคืนสู่ตำแหน่งโดยเร็ว


พลเอกอับดุลราห์มาน ทะเชียนิ ได้รับการประกาศให้เป็นผู้นำคนใหม่ของประเทศไนเจอร์ หลังการรัฐประหาร

1 ส.ค. 2566 VOA รายงานว่าโจเซพ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู แสดงจุดยืนของกลุ่มเมื่อวันที่ 31 ก.ค. เพื่อสนับสนุนท่าทีของกลุ่ม ECOWAS (Economic Community of West African States) ซึ่งประกาศมาตรการลงโทษผู้นำการก่อรัฐประหารในไนเจอร์เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมขีดเส้นตายให้มีการคืนอำนาจให้แก่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใน 1 สัปดาห์ มิฉะนั้น ประเทศสมาชิกของกลุ่มจะ “ใช้กำลัง” เข้าจัดการกับสถานการณ์ในประเทศนี้

บอร์เรลล์ ระบุในแถลงการณ์ว่า ปธน.บาซูม ต้องกลับคืนสู่อำนาจโดยเร็ว และว่า อียูนั้นปฏิเสธข้อกล่าวหากรณีการแทรกแซงจากต่างชาติ พร้อมกล่าวว่า ทางกลุ่มจะให้รัฐบาลทหารไนเจอร์รับผิดชอบต่อการทำร้ายพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่รวมทั้งทรัพย์สินทางการทูตต่างๆ ในไนเจอร์ด้วย

ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความยินดีต่อสิ่งที่มีการระบุว่า เป็นภาวะความเป็นผู้นำอันแข็งแกร่งของกลุ่ม ECOWAS “เพื่อปกป้องความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายใต้รัฐธรรมนูญในไนเจอร์” และว่า สหรัฐฯ ขอร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวปธน.บาซูมทันที และมีการเปิดทางให้รัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตยกลับมาปฏิบัติหน้าที่ดังเดิม

โฆษกของ รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ด้วยว่า กรุงวอชิงตันยังไม่ได้ตัดสินอย่างเป็นทางการว่า การดำเนินการทางทหารที่เกิดขึ้นในไนเจอร์ ถือเป็นการก่อรัฐประหารหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ยังคงดำเนินอยู่และไม่หยุดนิ่งในเวลานี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net