Skip to main content
sharethis

กลุ่มเพื่อนพนักงานมอชอ ออกแถลงการณ์ขอปรับบัญชีอัตราเงินเดือนของพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชี้ทั้งค่าครองชีพสูงขึ้นโดยไม่ปรับมามากว่า 3 ปีแล้ว และข่าวการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการจัดทำบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินเพิ่ม

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 เพจกลุ่มเพื่อนพนักงานมอชอ เผยแพร่ 'แถลงการณ์กลุ่มเพื่อนพนักงานมอชอ เรื่อง การปรับบัญชีอัตราเงินเดือนของพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่' ความว่าตามที่ทราบโดยทั่วกันว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ปรับบัญชีอัตราเงินเดือนของพนักงานมหาวิทยาลัยครั้งล่าสุด คือวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 นับจากวันดังกล่าวถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี 4 เดือน แล้วที่มหาวิทยาลัยยังมิได้นำเสนอสภามหาวิทยาลัย เพื่อปรับอัตราเงินเดือนให้เหมาะสมให้พนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันเกินข้อกำหนดในข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2553 ในหมวด 3 ว่าด้วยการกำหนดตำแหน่ง การบรรจุ เงินเดือน และค่าตอบแทน ในข้อ 17 วรรค 5 ระบุว่า 

“หากปรากฎว่าค่าครองชีพสูงขึ้นหรือบัญชีอัตราเงินเดือนของพนักงานมหาวิทยาลัยที่ใช้อยู่ไม่เหมาะสมให้ ก.บ. พิจารณาปรับอัตราเงินเดือนให้เหมาะสม และนำเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาอย่างน้อยทุก 3 ปี”

ซึ่งในช่วงระยะเวลา 4 ปี 4 เดือนที่ผ่านมา ได้ปรากฎข้อมูลเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไปว่า ค่าครองชีพสูงขึ้นมาก มีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้น เช่น ราคาน้ำตาล ราคาน้ำมัน ราคาค่ากระแสไฟฟ้า ราคาเนื้อสัตว์ ราคาไข่ไก่ กับข้าวสำเร็จรูป อาหารกลางวัน เป็นต้น นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก จาก 0.50 ในปี 2563 ขยับเป็น 2.50 ในเดือนกันยายน 2566 ซึ่งขึ้นถึงร้อยละ 2 ในระยะเวลา 3 ปี ทำให้เพิ่มภาระแก่พนักงานมหาวิทยาลัยที่กำลังผ่อนที่อยู่อาศัย เป็นอย่างมาก ยอดหักรายเดือนมีการหักเงินต้นน้อยมาก น้อยกว่าดอกเบี้ยที่จ่ายให้ธนาคารพาณิชย์อีก 

อีกทั้งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. เสนอปรับฐานเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ เพื่อให้แข่งขันกับภาคเอกชน ปรับให้ทันสมัยขึ้น หลักใหญ่ๆ คือ ดูแลข้าราชการที่เข้าใหม่ โดยต้องปรับชดเชยจากกลุ่มอื่นๆ ให้เท่าเทียมกันอย่างมีแผนการ เพราะขณะนี้ยังมีช่องว่างอยู่ ระหว่างภาคเอกชนกับข้าราชการ มติ ครม. การขึ้นเงินเดือนข้าราชการดังกล่าว สอดคล้องกับ ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2553 ในหมวด 3 ว่าด้วยการกำหนดตำแหน่ง การบรรจุ เงินเดือน และค่าตอบแทน ในข้อ 18 ระบุว่า 

“ในกรณีที่รัฐบาลปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาเพิ่มขึ้นหรือจ่ายเงินใดๆ เพิ่มให้แก่ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ให้ ก.บ. พิจารณาปรับอัตราเงินเดือนของพนักงานมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่าที่รัฐบาลปรับหรือจ่ายเพิ่มให้แก่ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา แล้วทำบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินเพิ่มดังกล่าวเสนอสภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาอนุมัติและออกเป็นประกาศมหาวิทยาลัย”

ดังนั้นจากเหตุผลดังที่กล่าวข้างต้น ทั้งค่าครองชีพสูงขึ้น โดยไม่ปรับมามากว่า 3 ปีแล้ว และข่าวการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการจัดทำบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินเพิ่มเสนอสภามหาวิทยาลัย โดยขอเสนอให้มหาวิทยาลัยมีการจัดทำร่างบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินเพิ่มเสนอสภามหาวิทยาลัย และนำร่างดังกล่าวมาจัดทำประชาพิจารณ์ให้พนักงานมหาวิทยาลัยทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ก่อนนำเสนอสภามหาวิทยาลัย และการจัดทำร่างบัญชีอัตราเงินเดือนดังกล่าวควรคำนึงถึงความยุติธรรม ความเสมอภาค และเท่าเทียมกัน ระหว่างพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนกับสายวิชาการ ระหว่างพนักงานประจำกับพนักงานชั่วคราว ระหว่างพนักงานมหาวิทยาลัยวุฒิ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และควรคำนึงถึงการปรับวุฒิการศึกษาอีกด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net