Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผย อดีต นศ.มช. ถูกตำรวจกักตัวเกือบชั่วโมง เกรงไปชูสามนิ้วหน้า ‘เศรษฐา’ – ขณะ นศ. อีกราย ถูกเดินตาม จนต้องออกจากงาน เหตุใส่เสื้อข้อความการเมือง

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าจากกรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 จากกรณี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่พบปะกลุ่มเยาวชนและนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในโครงการ Startup Soft Power (Creative Lanna) บริเวณลานสัก ข้างศาลาธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. โดยมีรายงานว่ามีนักศึกษาอย่างน้อย 2 คน ถูกเจ้าหน้าที่กันออกจากงานเนื่องจากเกรงจะแสดงออกทางการเมือง โดยรายหนึ่งยังถูกกักตัวไว้จนกว่านายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับด้วย นอกจากนั้นยังมีแกนนำนักศึกษาอีกรายถูกขอร้องไม่ให้เข้าไปในงาน

นักศึกษา มช. ใส่เสื้อข้อความ “ผู้พิทักษ์ทรราช” ถูกตำรวจเดินตาม กดดันให้ออกจากงาน

“แพร” นักศึกษาคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่าเวลาประมาณ 15.40 น. ตนเห็นว่ามีงานกิจกรรมนายกรัฐมนตรีพบปะกับกลุ่มนักศึกษา และพูดถึงกิจการ Start up จึงสนใจและเข้าไปฟังด้วยในงานดังกล่าวพร้อมกับเพื่อนของเธอ โดยเธอใส่เสื้อคลุมแขนยาวที่มีสัญลักษณ์บริเวณกลางหลัง พร้อมตัวหนังสือว่า “ผู้พิทักษ์ทรราช” และ “หาแดกกับเยี่ยว เที่ยวจับคนคิดต่าง” โดยไม่ได้ตั้งใจจะไปแสดงออกทางการเมือง เพียงแต่เป็นเสื้อของเพื่อนนักกิจกรรมรายหนึ่ง ที่เธอนำมาใส่ในวันที่มีอากาศเย็น

ระหว่างที่แพรยืนถ่ายภาพกิจกรรมในงาน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ เข้ามาเดินติดตามในระยะประชิดตัวอยู่สักพักหนึ่ง จนแพรรู้สึกตัวจึงพยายามบอกให้เจ้าหน้าที่หยุดเดินตาม แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธและบอกว่า “เดินไปด้วยกัน ถ้าไม่อยากให้ตาม ก็ออกไป”

นอกจากนี้ยังพูดอีกว่า “จะไปทำอะไร ให้รู้นะว่าทำอะไรอยู่” และยังเดินตาม พร้อมกับมีกลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบประมาณ 6-7 นาย เข้ามาเพิ่ม จนเธอรู้สึกตกใจมากเนื่องจากตนเองเป็นเพียงนักศึกษาและไม่ได้คิดจะเข้ามาสร้างความเดือดร้อนในงาน 

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเดินติดตามแพรอยู่อีกประมาณ 5-10 นาที เธอจึงตัดสินใจขับรถกลับออกมาทันที เนื่องจากรู้สึกถูกคุกคามและรู้สึกไม่ปลอดภัย

อดีตนักศึกษา ป.โท ถูกตำรวจกักตัวไว้ เกรงจะไปชูสามนิ้วถ่ายรูปต่อหน้านายกฯ 

ขณะที่อีกรายหนึ่ง “นนทวัฒน์” เคยศึกษาปริญญาโทที่คณะแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ยังเรียนไม่จบ เปิดเผยว่าตนทราบว่านายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาพบปะนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ในเรื่อง Soft Power จึงสนใจที่จะมาติดตามรับฟัง รวมทั้งอยากลองแสดงออกทางการเมืองผ่านการชูสามนิ้ว และถ่ายรูปในบริเวณงาน เพราะอยากเปรียบเทียบกับยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยมีการจับกุมผู้ชูสามนิ้วต่อหน้า

ระหว่างเดินทางเข้าไปในงาน ก่อนคณะของนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึง พบว่าเขาได้ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบประมาณ 3-4 นาย กันออกมา โดยขอตรวจค้นกระเป๋า ก่อนจะเชิญไปท้ายรถกระบะ ไม่ให้เข้าไปในงาน โดยเขาได้พยายามถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ไว้ เจ้าหน้าที่ได้พยายามให้ลบรูปภาพ พร้อมพาไปข้างหลังรถ และยึดกระเป๋าไว้ก่อน โดยขู่ว่าเดี๋ยวจะเอารถคุกมาควบคุมตัวนะ ก่อนให้รอคอยอยู่ตรงนั้น โดยอ้างว่าเขาจะมาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย

จนกิจกรรมนายกฯ พบนักศึกษาดำเนินไปและเสร็จสิ้นลง ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้ให้เขาเดินทางกลับได้ เหมือนกับถูกกักตัวไว้ก่อน โดยไม่ได้มีการอ้างกฎหมายอะไรในการกักตัวเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่กล้าขัดขืนอะไร และไม่ได้เข้าไปในงานอีก

“แค่คิดว่านายกฯ เศรษฐาจะใจดีกว่าลุงตู่ แต่สุดท้ายก็เป็นเหมือนเดิม” นนทวัฒน์ให้ความเห็น

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 มีนักศึกษาหญิงของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่รายหนึ่ง ที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง ถูกชายนอกเครื่องแบบ 2 คน ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ นำรูปภาพของเธอไปสอบถามหาตัวถึงหอพัก โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ไม่ได้พบเธอแต่อย่างใด จึงคาดว่าเกี่ยวข้องกับการเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ของนายกรัฐมนตรี

รวมทั้งมีกรณีของวัชรภัทร ธรรมจักร แกนนำนักศึกษาที่เคยทำกิจกรรมกับกลุ่มประชาคมมอชอ ถูกตำรวจติดตามประกบระหว่างนายกรัฐมนตรีเข้ามาในมหาวิทยาลัย และขอร้องไม่ให้เข้าไปในงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net