ศาลอาญาพิพากษาจำคุก ‘ณัฐชนน-เบนจา-สมยศ’ คดีดูหมิ่นศาลเหตุเรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องขังคดีการเมืองที่หน้าศาลอาญาเมื่อ 30 เม.ย.64 แต่ศาลไม่รอการลงโทษจำคุกสมยศ ส่วน “ณัฐชนน-เบนจา” โดนลงโทษรอบสองทั้งที่ก่อนหน้าเคยโดนลงโทษคดีละเมิดอำนาจศาลจากเหตุเดียวกันนี้ไปก่อนแล้ว

17 ต.ค.2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานทาง X ว่าวันนี้ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีนัดฟังคำพิพากษาคดีของ เบนจา อะปัญ, ณัฐชนน ไพโรจน์ และสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่พวกเขาถูกดำเนินคดีจากการทำกิจกรรมและปราศรัยที่หน้าศาลอาญา รัชดาฯ เมื่อ 30 เม.ย.2564 เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้กับผู้ต้องขังทางการเมืองในคดีมาตรา 112 ที่ถูกคุมขังระหว่างคดียังไม่สิ้นสุด

คดีนี้อัยการฟ้องทั้ง  3 คนด้วย 5 ข้อหา ได้แก่ ดูหมิ่นศาล, ร่วมกันมั่วสุมก่อความวุ่นวาย, ไม่เลิกมั่วสุมเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต อัยการระบุว่า คำปราศรัยและการกระทำของจำเลยเป็นการดูหมิ่น เหยียดหยาม ว่าศาลหรือผู้พิพากษาที่มีคําสั่งยกคําร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังคดี 112 ใช้ดุลยพินิจพิจารณาคดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีดังกล่าวได้รับความเสียหาย

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าศาลมีคำพิพากษาจำคุกเบนจาและณัฐชนนคนละ 1 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 30,100 บาทแต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ ส่วน สมยศศาลพิพากษาลงโทษจำคุกรวม 1 ปี  8 เดือน กับ 40 วัน โดยไม่รอการลงโทษ เนื่องจากศาลเห็นว่าคำปราศรัยของจำเลยเข้าข่ายตำหนิ และด้อยค่าการใช้ดุลยพินิจศาล ไม่ใช่การวิจารณ์โดยสุจริต

16.36 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลศูนย์ทนายความฯ แจ้งว่าขณะนี้มีการยื่นประกันตัวสมยศระหว่างอุทธรณ์คดีไปแล้ว แต่ยังรอฟังผลคำสั่งของศาลอยู่ว่าจะให้ประกันหรือไม่

ศูนย์ทนายความฯ รายงานเพิ่มเติมว่าเมื่อเวลา 16.51 น. ศาลได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมวางหลักประกัน 100,000 บาท พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดี "สมยศ" เคยได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวในชั้นพิจารณา ไม่ปรากฏพฤติการณ์หลบหนี

ทั้งนี้ข้อความที่อัยการนำมาฟ้องเป็นคดีของทั้งสามคนได้แก่

ณัฐชนน (จําเลยที่ 1) ได้พูดหรือปราศรัยมีใจความบางช่วงว่า “ตอนนี้ เรามองว่าระบบความอยุติธรรมของไทย เป็นระบอบยุติธรรมที่มีความด่างพร้อย สมควรแก่การตั้งคําถามแก่สังคมเป็นอย่างยิ่ง รบกวนมวลชนนั่งลงนิดนึงครับ เพื่อนบอกมา ดังนั้น วันนี้คุณแม่สุ ได้โกนหัวประท้วงให้กับระบบความยุติธรรม ที่ไม่ให้ประกันเพื่อนๆ ของเราทุกคน”

“พวกเราต่อสู้กับกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม สู้คนที่มีอํานาจ ความเลื่อมล้ำในสังคม และระบอบเฮงซวยในประเทศนี้ พวกเราทุกคนในที่นี้เป็นประจักษ์พยานและเห็นได้ชัดว่า ณ ศาลอาญา รัชดาแห่งนี้ หมดความชอบธรรมที่จะตัดสินคดีใดๆ และหมดความชอบธรรมไร้ซึ่งความยุติธรรมไปแล้ว”

ด้านเบนจา (จําเลยที่ 2) ได้พูดหรือปราศรัยมีใจความบางช่วงว่า “การที่มีการฝากขังระหว่างพิจารณาคดีผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีที่เกี่ยวพันทางการเมือง ทั้งนี้พวกเค้าทั้งหมดยังถูกปฏิเสธสิทธิในการประกันตัวของผู้ต้องหาในระหว่างการดําเนินคดี และถูกฝากขังมาจนถึงวันนี้ ตอนนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคงอาจกล่าวได้ว่านี่คืออยุติธรรมและจุดต่ำตมที่สุดของการใช้กฎหมาย เพราะกลายเป็นว่ากฎหมายเหล่านี้ที่ควรจะมีบรรทัดฐานในการใช้ ไม่ว่ามาตราใด กลับกลายเป็นเครื่องมือในการปิดปากของผู้เห็นต่างทางการเมืองอย่างเห็นได้ชัด”

สมยศ (จำเลยที่ 3) ได้พูดหรือปราศรัยมีใจความบางช่วงว่า “ในเมื่อเราถูกคุมขัง ดังนั้น เราจึงบอกว่าถ้าเดินหน้าไปเนี่ยคําว่ายุติธรรม กระบวนการพิจารณาในศาลจะสู่กระบวนการของเรา เราจะเดินหน้าไปไม่ได้ เพราะเราถูกขัง เราจะสู้คดีอะไรละครับ ผมก็แถลงต่อศาลว่า ผมจะสู้คดียังไง ฝ่ายพวกผมเป็นราษฎร…”

“ผมอยากให้น้ำตาของแม่เพนกวิน กลายเป็นน้ำกรดไปรดหัวใจผู้พิพากษาทั้งหมด ให้รับรู้ถึงความยุติธรรมมันหมายถึงอะไร..”

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าเบนจาและณัฐชนนเคยถูกดำเนินคดีจากกิจกรรมครั้งเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2564 นี้มาก่อนแล้ว 1 ครั้งโดยชวัลนาถ ทองสม ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา เป็นผู้กล่าวหาพวกด้วยข้อหาละเมิดอำนาจศาล และในคดีนี้ศาลชั้นต้นเคยมีคำพิพากษาจำคุกณัฐชนน 2 เดือน และให้ปรับเบนจา เป็นเงินจำนวน 500 บาท ต่อมาศาลอุทธรณ์ลดโทษจำคุกของณัฐชนนลงมาเหลือเป็นการกักขัง 15 วันแทน