Skip to main content
sharethis

ครช.ยื่นศาล รธน.พิจารณาไม่รับคำร้องวินิจฉัยของ กกต. กรณี 'พิธา' แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อ iTV และกรณีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ล้มล้างการปกครอง ประกาศจัดชุมนุม 19 ก.ค.นี้ เชิญ ปชช. แต่งดำ ฌาปนกิจ ส.ว.

 

18 ก.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก iLaw รายงานวันนี้ (18 ก.ค.) ณ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) เดินทางมายื่นหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กรณีหุ้นสื่อไอทีวีของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล และไม่รับคำร้องวินิจฉัยกรณีข้อกล่าวหาว่า การหาเสียงว่าจะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

การยื่นหนังสือเกิดขึ้นหลัง กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขาดคุณสมบัติลงรับสมัครเลือกตั้ง เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.0035 จากจำนวนหุ้นทั้งหมด และกรณีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของพุทธอิสระ ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พิธา และพรรคก้าวไกล หาเสียงเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการล้มล้างการปกครองหรือไม่ 

สำหรับกิจกรรมครั้งนี้มีผู้อภิปรายทั้งสิ้น 3 คนก่อนการยื่นหนังสือต่อตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญ  ได้แก่ ธนพร วิจันทร์ สมาชิกเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เป็นผู้ปราศรัยคนแรกในหัวข้อความกังวลต่อกระบวนการยุติธรรม ความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการหลังการเลือกนายกรัฐมนตรีในนัดแรกเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนของคำวินิจฉัยของ กกต. 
.
ต่อมา 'อู๋' จาก ครช. ปราศรัยในหัวข้อว่า การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 โดยสรุปว่า ข้อเสนอการแก้ไขกฎหมายจากทุกกลุ่มในสังคมต่างเห็นพ้องต้องกันว่ากฎหมายมาตรานี้มีปัญหาทั้งตามตัวอักษรตามกฎหมาย และการนำไปใช้ เนื่องจากมีความกว้างขวางไม่ชัดเจน รวมไปถึงการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน ตามหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลบริสุทธิ์จนกว่าจะมีการวินิจฉัย และไม่มีกระบวนการยุติธรรมที่ชัดเจนในทุกขั้นตอน จนอาจกระทบสถานะของพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ 

เพจเฟซบุ๊ก มติชน รายงานด้วยว่า บรรยากาศการยื่นหนังสือวันนี้ ที่หน้าอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีการจัดตำรวจและวางแนวรั้วเหล็กรอบอาคารปิดกั้นประตูทางเข้าออก ขณะเดียวกัน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สั่งเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูง หรือ จีโน่ และรถเติมน้ำ พร้อมรถบรรทุกควบคุมผู้ต้องหาขนาดใหญ่ 2 คัน มาจอดสแตนด์บายไว้ เพื่อรอรับมือสถานการณ์หากมีการชุมนุมวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีวาระการประชุมพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องกรณีที่ กกต. ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของ  พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรณีถือหุ้นไอทีวี และหากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว จะมีคำสั่งให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้ด้วยหรือไม่

หลังจากนั้น เป็นการยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยตัวแทน ครช. และธนพร ได้อ่านรายละเอียดในหนังสือ

ยื่นหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ

รายละเอียด

สมยศ พฤกษาเกษมสุข จากกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวว่าได้แจ้งนัดหมายการทำกิจกรรมทางการเมืองวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) เวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อผลักดันให้ ส.ว. โหวตตามเสียงข้างมากของประชาชน และมีกิจกรรมไฮไลท์เรียกว่า ฌาปนกิจศพ ส.ว. และขอให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมแต่งกายด้วยชุดดำ นอกจากนี้ ยังมีเวทีกิจกรรมการแสดงดนตรี และการปราศรัย เราจะศึกษารวบรวมข้อมูลหลักฐานว่า ส.ว. ได้อภิปรายในวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น เป็นการกระทำขัดต่อกฎหมาย หรือขัดต่อหลักการทำหน้าที่ของ ส.ว. ในการใช้มาตรา 112 ในการกดดัน และไม่โหวตให้ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ และจะไปยื่นต่อ ปปช. และศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำตลอดเดือน ก.ค. 

สมยศ กล่าวว่า หลังจากนี้ประกาศศึกกับองค์กรอิสระที่ขัดขวางกับประชาธิปไตย อาทิ กกต. หรือศาลรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในการชุมนุมและนำเสนอความคิดเห็นของประชาชน เราไม่ปล่อยให้องค์กรเหล่านี้กระทำตามอำเภอใจเพื่อตอบสนองต่อเผด็จการ เพราะฉะนั้น เราจะเดินหน้าไปการชุมนุมบนท้องถนนจะเป็นการใช้เสรีภาพการชุมนุมอย่างสงบสันติ นอกจากวันพรุ่งนี้แล้ว วันที่ 23 ก.ค.นี้ จะมีการนัดหมายสถานที่ และการจัดกิจกรรมโดยสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเดินขบวน 

สมยศ พฤกษาเกษมสุข

นอกจากนี้ สมยศ ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนแต่งกายด้วยชุดสีดำ ยาวตลอดเดือน ก.ค. เพื่อไว้อาลัยต่อกระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กระบวนการที่เหยียบหัวประชาชน กระบวนการที่ไม่เคารพเสรีภาพและผลประโยชน์ของประชาชนที่ได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยย้ำว่าจะปกป้องจนถึงที่สุด 

"เราจะไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของ 8 พรรครัฐบาลในการจัดตั้งฝ่ายเดียวแล้ว เป็นภาระหน้าที่ของประชาชนที่จะผลักดันให้เกิดกระบวนการประชาธิปไตย เรายังต้องขอเรียกร้อง 8 พรรคการเมืองให้เหนียวแน่น ให้ยืนหยัดไปด้วยกัน เพื่อกำจัดอำนาจเผด็จการ และก็เดินไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย" สมยศ กล่าวทิ้งท้าย
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net