Skip to main content
sharethis

ข้อสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาสนามเล็ก ประจำปี 2566 ตั้งโจทย์ ส.ส. ถือหุ้นสื่อต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ คล้ายกรณี ‘พิธา’ ธงคำตอบเฉลย ถือหุ้นสื่อ ไม่ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3)

 

31 ส.ค. 2566 มติชน รายงานว่า มีการเเชร์ข้อสอบพร้อมธงคำตอบในการทดสอบความรู้เพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตุลาการในตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษา ประจำปี พ.ศ. 2566 (สนามเล็ก) วิชา กฎหมายรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา

คำถามข้อ 3 ถามว่า นายหนึ่งและนายสองต่างสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งประจำจังหวัดหนึ่ง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดดังกล่าวประกาศรายชื่อ นายหนึ่งและนายสองเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ต่อมามีการตรวจสอบแล้ว เห็นว่านายหนึ่งและนายสองไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากนายหนึ่งเป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอนเตอร์เทนเม้นท์ ส่วนนายสองถือหุ้นของบริษัทโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสถานีวิทยุโทรทัศน์ และวิทยุกระจายเสียง อันเป็นกิจการสื่อสารมวลชนใด ๆ

ข้อเท็จจริงปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้หยุดประกอบกิจการ สถานีวิทยุโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง และไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ มาตั้งแต่ ก่อนนายหนึ่งเข้าเป็นหุ้นส่วน เพราะไม่ได้รับการต่อใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ส่วนนายสองถือหุ้นของบริษัทโฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 100 หุ้น มูลค่า 1,000 บาท จากจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด 10,000,000 หุ้น มูลค่า 100,000,000 บาท โดยบริษัทโฮลดิ้ง จำกัด ประกอบกิจการให้คำปรึกษา บริหารงาน และเป็นผู้ถือหุ้น ของบริษัทย่อยในเครือหลายบริษัท รวมทั้งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทสื่อหนังสือพิมพ์ จำกัด บริษัทย่อย ซึ่งประกอบกิจการสื่อหนังสือพิมพ์รายวัน อันเป็นกิจการหนังสือพิมพ์ จำนวนร้อยละ 90 ของจำนวนหุ้นของบริษัทสื่อหนังสือพิมพ์ จำกัด ให้วินิจฉัยว่า นายหนึ่งและนายสองเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็น ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคำตอบข้อ 3 ระบุว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 98 บัญญัติว่า “บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส…. (3) เป็น เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ” ดังนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จึงต้องไม่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ

สำหรับนายหนึ่ง เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ไม่ได้รับการต่อใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และได้หยุดประกอบกิจการสถานีวิทยุโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง รวมทั้งไม่มี รายได้จากการประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ ตั้งแต่ก่อนนายหนึ่งเข้าเป็นหุ้นส่วนแล้ว นายหนึ่งจึงมิได้เป็น เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด 1 อันเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับ เลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 98 (3) (เทียบคำสั่ง ศาลฎีกาที่ ลต สสข 39/2566)

ส่วนนายสอง ข้อเท็จจริงปรากฎว่าบริษัทโฮลดิ้ง จำกัด ประกอบกิจการให้คำปรึกษา บริหารงาน และเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทย่อยในเครือ โดยเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทสื่อหนังสือพิมพ์จำกัด บริษัทย่อยซึ่งประกอบกิจการสื่อหนังสือพิมพ์รายวัน อันเป็นกิจการหนังสือพิมพ์ จำนวนร้อยละ 90 ของจำนวนหุ้นของบริษัทสื่อหนังสือพิมพ์ จำกัด แสดงว่า บริษัทโฮลดิ้ง จำกัด มีความเกี่ยวข้อง กับการประกอบกิจการของบริษัทสื่อหนังสือพิมพ์ จำกัด ตามความเป็นจริง ย่อมถือได้ว่า กิจการของ บริษัทโฮลดิ้ง จำกัด อยู่ในความหมายของคำว่าหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) ด้วย แต่โดยที่บทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล มีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันมิให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อาศัยความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ เผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์หรือโทษแก่บุคคลในทางการเมือง การจำกัดสิทธิผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพราะเหตุเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ จึงต้องตีความโดยเคร่งครัด ไม่เป็นการเพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่ เหตุ และต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ดังกล่าวด้วย การที่นายสองถือหุ้นของบริษัทโฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 100 หุ้น มูลค่า 1,000 บาท จากจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด 10,000,000 หุ้น มูลค่า 100,000,000 บาท ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก นายสองซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเพียง 100 หุ้น ย่อมไม่มีอำนาจสั่งการ ให้บริษัทโฮลดิ้ง จำกัด เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่นายสองหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครอื่น เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งของนายสองตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญได้ นายสองจึงไม่เป็นบุคคลต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) (เทียบคำสั่งศาลฎีกาที่ ลต สสข 24/2566)

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net