ทิชา ณ นคร เล่าประสบการณ์การทำงานด้านเยาวชนกับพระองค์ภาฯ รวมถึงกรณี “คนเกินเจ้า” นำราชวงศ์ไปหากินในนามความจงรักภักดี เห็นด้วยแก้ ม.112 เพื่อปกป้องสถาบันฯ ไม่ให้ราชวงศ์ถูกนำไปแสวงประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรม

23 มิ.ย. 66 ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. เล่าประสบการณ์การทำงานด้านเยาวชนกับพระองค์ภาฯ รวมถึงกรณีที่มีกลุ่ม “คนเกินเจ้า” ซึ่งเป็นกลุ่มที่  "เข้ามาหากินกับความจงรักภักดี" และบางทีก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าจงรักภักดีหรือซ่อนผลประโยชน์ไว้ข้างใน ทำให้ราชวงศ์เป็นสถาบันที่ถูกนำไปแสวงหาประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรม เห็นด้วยกับการแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อปกป้องสถาบัน

โพสต์ดังกล่าวมีข้อความดังนี้

คนเกินเจ้า มีจริง มีเยอะ มีหลายระดับ และบางคนพิสูจน์ไม่ได้ว่าจงรักภักดีต่อราชวงศ์หรือซ่อนผลประโยชน์ไว้ข้างใน

“หรือจริงๆ คือ เทาๆ ดำๆ นั่นแหละ แต่เข้ามาหากินกับความจงรักภักดี เพราะมีคนซื้อ”

ส่วนตัวเคยพบ เคยคุยกับพระองค์ภา หนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของราชวงศ์ไทยหลายครั้ง และพระองค์ภายังมาเยี่ยมบ้านกาญจนาฯ แบบส่วนตัวอีก 5-6 ครั้ง

ในหลายครั้งนั้นได้ร่วมทานข้าว ทานกาแฟ ในพื้นที่ส่วนตัว เวลาส่วนตัวอันยาวนาน ซึ่งอบอวลด้วยความเป็นมิตร เป็นกันเอง ถกเถียง แซวขำๆ และหัวเราะได้อย่างเปิดเผย แต่บางครั้งก็มีความเป็นทางการจนอึดอัด เพราะทิชาไม่ชิน ไม่ใช่เพราะพระองค์ภากดดันหรือกระทำการใดๆ ให้อึดอัด  หนึ่งในความเป็นทางการนั้นก็คือพระองค์ภาชวนและชวนหลายครั้ง ไปทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนจิตรลดา (น่าจะมีนัยะในใจ) กับคณะผู้บริหารโรงเรียนฯ ซึ่งไม่ใช่ความชอบส่วนตัวของทิชาและอยากเลี่ยงมากๆ  แต่เกรงใจและเห็นความตั้งใจดีของพระองค์ภา

วันนั้นพระองค์ภาลงทุนเป็นผู้เปิดคำถาม เพื่อให้ทิชาได้เล่าโน้น เล่านี่ที่เป็นประสบการณ์ที่พระองค์ภารับทราบ จดจำ เช่น กรณีเล็กกับใหญ่ การไปกินหมูกระทะของเยาวชนหลังคำพิพากษาในบ้านกาญจนาฯ ฯลฯ ให้คณะผู้บริหารโรงเรียนฟัง

รวมถึงชวนไปทานอาหารค่ำกับพระองค์โสมที่วังเทเวศร์ (ท่านทำสตูแกะให้ทาน) และพระองค์ภายังขอติดตาม แลกเปลี่ยน update ทางไลน์ของป้า ในคดีเยาวชนในข่าวที่ดังมาก ด้วยทัศนะที่น้อมรับได้อย่างสนิทใจ

ที่เล่าไม่ใช่เพื่อจะบอกว่าตนเองสำคัญ ชัดเจนกว่านั้นคือไม่เคยคิดจะต่อ จะเชื่อม จะใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์นั้นแม้แต่น้อย และเมื่อใดเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยงด้วยซ้ำ แต่ในขณะเดียวกันราชวงศ์ก็กลายเป็นสถาบันที่ถูกนำไปแสวงประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรมจากนักแสวงประโยชน์ทั้งระดับสูงและพวกเทา ดำ ในนามแห่งความจงรักภักดี

ด้วยหลายเหตุผลจึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเฉพาะบนเป้าหมายเพื่อปกป้องสถาบันและต้องมาพร้อมการปิดฝาโลงขบวนการล่าแม่มดหรือคนเกินเจ้าให้ได้ เมื่อนั้นสันติสุขจะบังเกิด …