Skip to main content
sharethis
  • ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษชน เผยยอดผู้ถูกคุมขังในเรือนจำจากการแสดงออกทางการเมือง โดยไม่ได้รับการประกันตัว ขณะนี้อย่างน้อย 11 คน ส่วนคดี ม.112 เดือนเมษา 65เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 คดี ทำให้ยอดรวมเพิ่มไปกว่า 204 คดีแล้ว ในรอบ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา
  • 'พลเมืองโต้กลับ' กลับมาจัด#ยืนหยุดขัง รอบที่ 3 เรียกร้องสิทธิการประกันตัว เริ่ม 6 พ.ค.นี้
  • 'ส.ส.ก้าวไกล' ชี้ ถอนประกัน ใบปอ - เนติพร ตอกย้ำ ม. 112 คือ 'คดีนโยบาย' ใช้เล่นงานผู้เห็นต่างโดยไม่สนหลักความยุติธรรม

4 พ.ค.2565 เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษชน รายงานว่า จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน วันที่ 3 พ.ค. มีผู้ถูกคุมขังในเรือนจำจากการแสดงออกทางการเมือง หรือมีมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยไม่ได้รับการประกันตัว จำนวนอย่างน้อย 11 คน โดยการคุมขังบุคคลเหล่านี้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อตั้งแต่ต้นกลางเดือน มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า เดือนเมษายน 2565 ความเคลื่อนไหวเรื่องการดำเนินคดีทางการเมืองยังเป็นอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะคดีมาตรา 112 ที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 คดี ทำให้ยอดรวมเพิ่มไปกว่า 204 คดีแล้ว ในรอบ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ขณะที่การดำเนินคดีและการสั่งฟ้องคดีข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง ก็ยังดำเนินต่อไป แม้จะมีแนวโน้มที่ศาลจะยกฟ้องและอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีจำนวนหนึ่งแล้ว

 

'พลเมืองโต้กลับ' กลับมาจัด #ยืนหยุดขัง รอบที่ 3 เรียกร้องสิทธิการประกันตัว เริ่ม 6 พ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.07 น. พลเมืองโต้กลับ Resistant Citizen โพสต์เชิญชวนราษฎรที่เห็นว่าบ้านเมืองนี้ไม่มีความยุติธรรมมาร่วมกิจกรรม #ยืนหยุดขัง รอบที่ 3 เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับผู้บริสุทธิ์ ด้วยการ เดิน ยืน นั่ง นอน อ่านหนังสือ ร้องเพลง ฯลฯ ที่ลานอากง หน้าศาลฎีกา ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 6 พ.ค.นี้ เวลา 17.30 – 18.42 น. เป็นเวลา 1.12 ชั่วโมง ทุกวัน(ตามแต่ที่ท่านสะดวก) จนกว่าเพื่อนของเราจะได้รับสิทธิการประกันตัวกลับคืนมา

'ก้าวไกล' ชี้ ถอนประกัน ใบปอ - เนติพร ตอกย้ำ ม. 112 คือ 'คดีนโยบาย' ใช้เล่นงานผู้เห็นต่างโดยไม่สนหลักความยุติธรรม

ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า ต่อกรณีที่ เมื่อวานนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งเพิกถอนประกัน ใบปอ และ เนติพร นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับความมั่นคง ในคดีทำโพลเรื่องขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 โดยให้เหตุผลว่ากระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวด้วยการเข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย หรือเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ เกี่ยวกับการไปทำโพลเหตุการณ์ชาวบ้านถูกสำนักงานทรัพย์สินฯไล่ที่นั้น

สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.จังหวัดนครปฐม และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การเพิกถอนประกันตัวด้วยเหตุผลเช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำว่า คดีตามมาตรา 112 เป็นคดีนโยบายเพื่อเอาไว้เล่นงานผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยไม่สนใจหลักความยุติธรรม ซึ่งจะเห็นว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการนำคดี ม. 112 ไปใช้จับกุมคุมตัวนักกิจกรรมการเมืองอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เหล่านั้น เป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การไปปล้นชิงฆ่าฟันใคร กระทั่งไม่ใช่คดีล่วงละเมิดคุกคามทางเพศที่ยังได้รับสิทธิประกันตัวเพื่อไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมอย่างครบถ้วน

"แต่พอเป็น คดี 112 กลับอ้างว่าเป็นคดีร้ายแรง จึงไม่ต้องสนใจหลักการยุติธรรมที่ต้องสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำตัดสินว่ามีความผิด ไม่ต้องสนใจสิทธิประกันตัว ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่กลับพยายามหาเหตุในการเอาพวกเขาเข้าไปอยู่ในเรือนจำอยู่ร่ำไป"

สุทธวรรณ กล่าวว่า กฎหมายใดก็ตามที่เป็นเหมือนใบเบิกทางให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจอย่างไรก็ได้เพื่อยึดเอาสิทธิเสรีภาพของประชาชนไปอย่างไม่มีเหตุผลและหลักการองรับ กฎหมายนั้นย่อมสมควรถูกแก้ไขหรือยกเลิก เพราะการใช้กฎหมายเพื่อเป็นเครื่องมือเล่นงานกันเช่นนี้ นอกจากไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการยุติธรรม ยิ่งเป็นเหตุให้เสื่อมศรัทธาลงไปเรื่อยๆแล้ว ยังไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อประชาชนอีกด้วย

"ประเทศที่มีอารยธรรมไม่มีประเทศใดกักขังคนหนุ่มสาวไว้ในคุกเพียงเพราะพวกเขาคิดและตั้งคำถาม เพราะหมายถึงการกักขังอนาคตของตัวเองไว้ด้วยความมืดบอด การเพิกถอนประกันในครั้งนี้ แม้ด้วยอำนาจศาลอาจปิดปากผู้คนไว้ด้วยความกลัว แต่คงไม่อาจห้ามความกังขาสงสัยถึงความสมเหตุสมผลของคำสั่งได้"

สุทธวรรณ กล่าวว่า หลายคดีตาม ม. 112 ที่มีการสั่งขังเสมือนตัดสินความผิดของเขาไปแล้ว แม้บางคดีทนแรงกดดันทางสังคมไม่ไหวยอมให้ประกันตัวออกมา ก็จะอ้างว่าทำผิดเงื่อนไขเพื่อนำพวกเขากลับเข้าไปใหม่ เหมือนกลายเป็นใบชี้วัดผลงาน การันตีความก้าวหน้าของตัวเองบนซากศพของกระบวนการยุติธรรม 

จากข้อมูลของทนาย กรณีของ ใบปอ คือบทบาทของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจปัญหาของสังคมที่มากกว่าในห้องเรียน ในฐานะนักศึกษาที่กำลังเรียนด้านสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา การลงไปทำโพลสำรวจความเห็นเรื่องการอยู่อาศัยของผู้คนไม่ว่าเจ้าของที่ดินจะเป็นใครถือเป็นเรื่องปกติ ย่อมมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และไม่ได้เกิดความวุ่นวายหรือทะเลาะเบาะแว้งกับใคร แต่ศาลไต่สวนแล้วกลับเห็นว่า การที่ไปทำโพลดังกล่าว อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวาย ผิดเงื่อนไขของศาล เพราะมีคนที่ไม่เห็นด้วยและเทิดทูนสถาบันฯ จึงมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว ซึ่งการใช้ดุลพินิจมีคำสั่งแบบนี้ออกมาย่อมเกิดเป็นข้อกังขาในใจผู้คนจำนวนมากอย่างแน่นอน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net