Skip to main content
sharethis

“ภูมิธรรม” ปฎิเสธเรื่องปรับ ครม. ดึง ปชป.ร่วมรัฐบาล 314 เสียงที่มีอยู่ก็ทำงานได้คุยกันดีอยู่ ไม่ใช่เรื่องต้องคิด อย่าไปคิดเรื่องจะเอามาเพื่อต่อรองพรรคร่วม “อนุทิน” ตอบ “เฉลิมชัย” เป็นเพื่อน หากคิดแต่เรื่องต่อรองก็ไม่ใช่รัฐบาลแล้ว เสียง สส.รัฐบาลตอนนี้มั่นคงดีไม่มีใครต่อรองกับใคร

12 ธ.ค.2566 มติชนออนไลน์รายงานถึงประเด็นท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลต่อกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ และมีข่าวลือว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมเป็นรัฐบาล โดยมีทั้ง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ตอบคำถามสื่อถึงประเด็นนี้

ภูมิธรรมตอบคำถามนักข่าวถึงประเด็นที่จะว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องที่พรรค ปชป.มีการแต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่ ส่วน ครม.ก็ทำงานต่อไปอย่างเต็มที่  พรรคร่วมรัฐบาลทำงานร่วมกันด้วยดีและคุยกันดี สส.314 เสียงขณะนี้ทำงานได้ จะเอาใครมาเพิ่มหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิด

รมว.พาณิชย์ยังตอบถึงประเด็นเรื่องที่ ปชป. จะเข้ามาเป็นพรรคอะไหล่ให้กับรัฐบาลหรือไม่ด้วยว่า ต้องไปถามคนพูดเพราะตนไม่เข้าใจว่าคนพูดหมายถึงอะไร แต่วันนี้ไม่ต้องคิดเรื่องนี้เพราะทำงานอย่างเต็มที่แล้ว มีความสัมพันธ์ที่ดีและเชื่อว่าความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดสามารถทำงานได้ด้วยดีต่างพึ่งพากันและกัน

นอกจากนั้นภูมิธรรมได้ตอบคำถามนักข่าวเรื่องพรรคเพื่อไทยจะผลักดันนโยบายง่ายขึ้นเพราะพรรคร่วมรัฐบาลไม่กล้ากดดันอีกด้วยว่า อย่าไปคิดแบบนั้นพรรคร่วมรัฐบาลทำงานกันดีอยู่แล้วคุยกันได้ ยึดเรื่องเหตุผลปัญหาของประเทศและประชาชน ดังนั้นการทำงานจึงมีความเห็นแตกต่างกันได้และหาข้อสรุปได้

ส่วนอนุทินตอบคำถามนักข่าวถึงเรื่องพรรค ปชป. มีผู้บริหารชุดใหม่แล้วจะทำให้พรรคเพื่อไทยมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นถ้ามีการดึงมาร่วมรัฐบาลด้วย โดยเขาตอบว่าเฉลิมชัยเป็นเพื่อนของตนหากคิดแต่เรื่องต่อรองนั่นไม่ใช่รัฐบาลแล้ว ตอนนี้มี สส.314 เสียงแล้วมีความมั่นคงไม่มีใครต่อรองอะไรทำงานเต็มที่ดีกว่า ต่างคนต่างทำงานผลงานก็เกิดกับรัฐบาล ถ้ามีคำว่าต่อรองเข้ามาก็ถือว่าไม่ใช่พวกเดียว ซึ่งเขาเองไม่ได้กังวลในเรื่องนี้

'ชวน' ย้อนถาม 'เดชอิศม์' ดอดคุย 'ทักษิณ' ไม่อายบ้างเหรอ

ทั้งนี้ประเด็นข่าวลือเรื่อง สส.พรรคประชาธิปัตย์เริ่มมีมาตั้งแต่ช่วงที่มีการโหวตเลือกนายกฯ ในเดือนสิงหาคม และหลังจาก สส.ของ ปชป. 16 คน จาก 20 คนมีการโหวตสวนมติพรรคมาโหวตให้เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ชวน หลีกภัย ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคได้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 24  ส.ค.2566 ว่ามีความพยายามของกลุ่ม ส.ส.ในพรรคที่อยากไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอีกทั้งยังมีการบินไปเจรจากับทักษิณ ชินวัตริที่ฮ่องกงด้วย และมีคนที่แสดงตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรคมีเพียงแกนนำกลุ่ม ส.ส. 16 คน เช่น เดชอิศม์ ขาวทอง ชัยชนะ เดชเดโช และ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่

 นอกจากนั้นเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.2566) นราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค (ตามภารกิจ) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ไปปให้สัมภาษณ์ในรายการ “แนวหน้าTalk” ของสำนักข่าวแนวหน้าถึงเรื่องการเลือกผู้บริหารชุดใหม่โดยในระหว่างการสัมภาษณ์มีการตอบคำถามถึงประเด็นข้อห่วงกังวลเรื่องจุดยืนของพรรคจากที่เคยมีข่าวว่านักการเมืองในกลุ่มของเฉลิมชัยเคยเดินทางไปพบทักษิณ โดยเขาตอบว่าเรื่องทำนองนี้ก็เคยมีในอดีตแต่ไม่ได้ถูกเปิดเผย

นราพัฒน์ยกตัวอย่างที่เคยเกิดการเจรจาเพื่อร่วมรัฐบาลทั้งในยุคพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์) หรือยุคสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เคยมีการไปเจรจาดึงกลุ่มของเนวิน ชิดชอบมา ซึ่งเขาเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องการเมืองพูดคุยเจรจากันได้ และที่ผ่านมา ปชป.ก็ทำงานได้เป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ไม่ได้มีสูตรสำเร็จว่าเลือกตั้งแล้วคนนี้เป็นรัฐบาลคนนี้เป็นฝ่ายค้าน แต่อยู่ที่เงื่อนไขในการพูดคุย หากเป็นประโยชน์กับประชาชนและหลักการแนวทางไปด้วยกันได้ การไปร่วมรัฐบาลประยุทธิ์ก็ไปร่วมภายใต้เงื่อนไข การไปร่วมรัฐบาลกับใครจึงไม่ใช่ประเด็น แต่ที่เป็นประเด็นเพราะผู้สนับสนุนพรรคมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net