Skip to main content
sharethis

สปสช. - ธนาคารกรุงไทย ชวนประชาชนไทยตรวจสอบสิทธิและจองคิวรับบริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค 22 รายการตามช่วงวัยได้ง่ายๆ บนมือถือ ผ่านเมนู “กระเป๋าสุขภาพ” ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง ย้ำดูแลสุขภาพไว้ก่อนดีกว่ารอให้ป่วยแล้วค่อยมารักษา 

17 ก.ย. 2566 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แจ้งข่าวว่า นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่า เรื่องนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของการดูแลสุขภาพประชาชนไทยทุกคนภายใต้หลักการป้องกันก่อนเจ็บป่วย เพราะ สปสช. มีความเชื่อและมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าการป้องกันดีกว่ารอให้เจ็บป่วย เพราะถ้าสามารถค้นพบได้ก่อน ค่ารักษาหรือว่าค่าดูแลจะถูกมากๆ ดีกว่ารอให้เจ็บป่วยแล้วมีค่ารักษาที่แพง อีกทั้งมีการคำนวนว่าหากสามารถสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคได้ดี จะช่วยลดจำนวนผู้ที่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลได้ 25% ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ทำให้ค่าใช้การในการรักษาพยาบาลลดลง 

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า การสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะครอบคลุมคนไทยทุกคนทุกสิทธิ โดยปัจจุบันมี 22 รายการ แยกตามกลุ่มวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดก็มีการให้บริการวัคซีนที่จำเป็น อาหารเสริม เมื่อโตขึ้นมาเป็นวัยผู้ใหญ่ส่วนมากมักจะมีโรคที่เรียกว่าเป็นโรคเรื้อรัง ดังนั้นจึงมีบริการคัดกรอง ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การคัดกรองมะเร็งบางอย่าง เช่น การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสำหรับผู้หญิง การคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ในกรณีตั้งครรภ์ก็มีการตรวจการตั้งครรภ์ การตรวจหลังคลอดรวมถึงการให้ยาเสริมธาตุเหล็กป้องกันโลหิตจาง บริการป้องกันการขาด ไอโอดีน ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก รวมทั้งการตรวจสุขภาพจิตก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค และเมื่อสูงวัยมากขึ้นก็มีการดูว่ามีปัญหาทางอารมณ์หรือไม่อย่างไรเพื่อจะได้เข้าไปดูแลรักษา เป็นต้น 

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า บริการที่กล่าวมาข้างต้นมี ประชาชนสามารถตรวจสอบรายการส่งเสริมสุขภาพตามช่วงวัยของตัวเองและนัดหมายเข้ารับบริการได้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยเมื่อเข้าไปในแอปฯเป๋าตังแล้ว จะมีเมนูที่เรียกว่ากระเป๋าสุขภาพ เมื่อกดเข้าไปหลังจากลงทะเบียนแล้ว ไปที่เมนูสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค ก็สามารถดูว่าผู้ใช้งานรายนั้นอยู่ในกลุ่มอายุช่วงวัยไหน สามารถกดเข้าไปดูว่ามีสิทธิประโยชน์อะไรที่เหมาะกับวัยของตน และเมื่อกดเลือกบริการที่ต้องการแล้ว แอปฯจะแสดงข้อมูลหน่วยบริการที่อยู่ใกล้บ้านให้เลือก เมื่อกดเลือกหน่วยบริการแล้วก็เข้าไปจองคิว เมื่อถึงเวลาก็สามารถเข้าไปรับบริการได้เลย เชื่อว่าเครื่องมือนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค และขอเชิญให้ลองเข้ามาใช้บริการผ่านแอปฯเป๋าตังให้มากขึ้น 

ด้าน นายธวัชชัย ชีวานนท์ หัวหน้าผู้บริหาร Product & Business Solution ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยเชื่อว่าการเอาเรื่องของสิทธิป้องกันสุขภาพหรือการอำนวยความสะดวกในการใช้บริการ ให้เข้ามาอยู่บนมือถือจะมีประโยชน์กับคนไทย ซึ่งกรุงไทยได้ทำงานร่วมกับ สปสช. มาตั้งแต่ปี 2563 ในการพัฒนาบริการต่างๆ เพื่อช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งในการใช้งานกระเป๋าสุขภาพในแอปฯเป๋าตังนั้นมีกระบวน 2 ส่วนหลักๆ อันดับแรกคือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังเข้ามาติดตั้งในสมาร์ทโฟนก่อน ขั้นตอนที่ 2 คือการยืนยันตัวตน หลังจากยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วก็สามารถใช้งานได้เลย 

นายธวัชชัย กล่าวว่า ในส่วนของฟังก์ชันต่างๆในกระเป๋าสุขภาพนั้น นอกจากสิ่งที่ นพ.จเด็จ กล่าวไปแล้ว ยังมีบันทึกประวัติการรักษาต่างๆ ซึ่งจะมีประโยชน์เวลาไปเข้าโรงพยาบาล หรือในกรณีที่เจ็บป่วยก็สามารถให้ข้อมูลให้กับผู้ดูแลได้ และในส่วนของการนัดหมาย ผู้ใช้งานจะทราบว่ามีการนัดหมายเข้ารับบริการที่ไหน และมีการเตือนเมื่อถึงเวลานัดหมาย และที่สำคัญจะมีสิ่งที่เรียกว่า Health ID ลักษณะเหมือน QR Code ที่อยู่ในตัวกระเป๋าสุขภาพ โดยตัว QR Code นี้สามารถใช้แทนบัตรประชาชนได้เวลาเข้ารับบริการ 

และส่วนสุดท้ายจะเป็นความร่วมมือระหว่างกระเป๋าสุขภาพกับทางหน่วยงานอื่นๆ เช่น กระทรวง DES ในการที่จะทำสิ่งที่เรียกว่า Health Link ก็คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของคนไข้ได้ในกรณีที่จะต้องมีการเจ็บป่วยรักษาแล้วไปรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่ใช่โรงพยาบาลหลักของตนนั่นเอง  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net