Skip to main content
sharethis

ปธ.กมธ.การอุตสาหกรรม ระบุผลตรวจสุขภาพคนงานโรงงานเก็บกากแคดเมียม จ.สมุทรสาคร 21 ราย พบค่าโลหะเกินมาตรฐาน 7 ราย ปชช.รอบโรงงาน ตรวจ 34 ราย เกินมาตรฐาน 17 ราย เผยดีเอสไอ เตรียมรับเป็นคดีพิเศษ เร่งหาผู้กระทำความผิดทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน

 

19 เม.ย. 2567 เว็บไซต์ พรรครวมไทยสร้างชาติ รายงานเมื่อ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ และประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังประชุม กมธ.ว่า กมธ.ได้พิจารณาเรื่องกากแคดเมียมที่ประชาชนและสังคมให้ความสนใจโดยเชิญ ปลัดกระทรวงการอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการความร่วมมือร่วมกับอีก 5 กระทรวงตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหากากแคดเมียม คือ สาธารณสุข ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ

อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ (ที่มา: เว็บไซต์ พรรครวมไทยสร้างชาติ)

อัครเดช เผยว่า ทราบจากรองสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครว่า จากการตรวจคนงานโรงงานเก็บสารแคดเมียมใน จ.สมุทรสาคร ตรวจเลือด 21 ราย พบความเข้มข้นสารโลหะในเลือด มีค่าเกินมาตรฐาน 7 คน ส่วนประชาชนรอบโรงงานตรวจ 34 คน เกินมาตรฐาน 17 คน

อัครเดช ย้ำว่า ตรงนี้เป็นความห่วงใย จึงขอให้ทางหน่วยงานไปสอบสวนโรค และติดตามประชาชนกลุ่มนี้ต่อไป แล้วให้ขยายผลตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนกลุ่มอื่น

เตรียมขนกากแคดเมียมกลับตาก

ประธาน กมธ.การอุตสาหกรรม ระบุว่า สิ่งที่ กมธ.เป็นห่วงคือการขนย้ายกากแคดเมียมทั้งหมด 12,400 กว่าตัน กลับไปจังหวัดตากให้เกิดความปลอดภัย โดย กมธ.ได้มีข้อเสนอว่าให้ใช้ดับเบิลบิ๊กแบคใส่กากแคดเมียม โดยมีพลาสติกปูที่พื้นแล้วขนย้ายโดยใส่ในตู้คอนเทนเนอร์ไปที่จังหวัดตาก เมื่อถึงที่หมาย ต้องไม่มีการดั้มลงบ่อฝังกลบ 7 บ่อ แต่ให้ใช้วิธียกถุงบิ๊กแบคลงไปในบ่อแทน เพื่อไม่ฟุ้งกระจาย และเสนอให้สร้างบ่อฝังกลบเพิ่มด้วย เพราะ 7 บ่อเดิมคงไม่เพียงพอ และเสนอให้ขนย้ายให้เร็วขึ้น ไม่ใช่เริ่มขนย้ายในวันที่ 7 พ.ค. 2567  โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอของบกลางจากนายกรัฐมนตรีเพื่อมาดำเนินการ

ทั้งนี้ สิ่งที่ กมธ.เป็นห่วงคือ การขนย้ายกากแคดเมียมทั้งหมด 12,400 กว่าตัน กลับไปจังหวัดตาก ให้เกิดความปลอดภัย กมธ.ได้มีข้อเสนอว่า ให้ใช้ดับเบิลบิ๊กแบคใส่กากแคดเมียม โดยมีพลาสติกปูที่พื้นแล้วขนย้ายโดยใส่ในตู้คอนเทนเนอร์ไปที่จังหวัดตาก เมื่อถึงที่หมาย ต้องไม่มีการดั้มลงบ่อฝังกลบ 7 บ่อ แต่ให้ใช้วิธียกถุงบิ๊กแบคลงไปในบ่อแทน เพื่อไม่ฟุ้งกระจาย และเสนอให้สร้างบ่อฝังกลบเพิ่มด้วย เพราะ 7 บ่อเดิมคงไม่เพียงพอ และเสนอให้ขนย้ายให้เร็วขึ้น ไม่ใช่เริ่มขนย้ายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอของบกลางจากนายกรัฐมนตรีเพื่อมาดำเนินการ

“ผมเชื่อว่าท่านนายกฯ จะเห็นด้วยเพราะท่านนายกฯ เป็นห่วงประชาชนเช่นกัน หากให้เอกชนดำเนินการเองคงล่าช้า เพราะกลัวจะเสียค่าใช้จ่าย หลังจากนั้นค่อยไปฟ้องเรียกค่าดำเนินการจากผู้ประกอบการที่ทำการละเมิดกฎหมาย ให้มารับผิดชอบค่าใช้จ่าย เพราะในกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่า สามารถเรียกร้องได้” อัครเดช กล่าว

กระทรวงทรัพย์ฯ แจงไม่พบแคดเมียมปนเปื้อนน้ำ

ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชี้แจงเรื่องการตรวจสภาพอากาศและน้ำ พบว่า บริเวณโดยรอบโรงงานไม่พบสารปนเปื้อนแคดเมียมเกิดค่ามาตรฐาน กมธ.จึงขอให้ทางจังหวัดไปตรวจเพิ่มเติมแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่ต่อเนื่องจากท่อระบายน้ำในโรงงานทั้ง 3 แห่งว่าน้ำในสระและสัตว์น้ำมีสารปนเปื้อนหรือไม่แล้วให้รายงานผลให้ กมธ.ทราบภายใน 7 วัน จังหวัดสมุทรสาครจะเร่งดำเนินการให้แล้วแจ้งผลให้ประชาชนได้ทราบต่อไป

กมธ.การอุตสาหกรรม (ที่มา: เว็บไซต์ พรรครวมไทยสร้างชาติ)

ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ละเมิดกฎหมาย ทางปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งคณะทำงานมีหัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนย้ายกากแคดเมียมดังกล่าวแล้ว โดยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมย้ำว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดโดยไม่เกรงกลัวใคร

ขณะที่ในส่วนผู้ประกอบการปลายทาง ทางอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ชี้แจงว่ามีการละเมิด พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.วัตุอันตราย อธิบดีกรมโรงงานจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไปส่วนต้นทางที่ปล่อยกากแคดเมียมออกมา ทางตัวแทนสำนักงานนโยบายสิ่งแวดล้อมแจ้งว่า ใบอนุญาตมี 2 ใบ คือใบอนุญาตประกอบโลหะกรรม ซึ่งหมดอายุไปแล้ว และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือ รง.4 ได้รับอนุญาต เพราะอีไอเอ ระบุว่าการฝังในบ่อคอนกรีตอย่างถาวร ห้ามขุดขึ้นมาเด็ดขาด แต่เมื่อมีการละเมิดกฎหมาย จะต้องไปดูว่ามีการละเมิดกฎหมายเหมืองแร่ข้อไหน ส่วนใบ รง.4 ที่ยังไม่หมดอายุ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบอำนาจให้อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ ไปดูว่าจะไปดำเนินคดีในข้อหาอะไรได้บ้าง

นอกจากนั้น ผู้แทนของอธิบดีดีเอสไอ ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดีเอสไอรับเข้ามาเป็นคดีพิเศษแล้ว จะมีการโอนสำนวนจาก บก.ปทส.มาให้ดีเอสไอดำเนินคดีแทน ซึ่งจะมีการประชุมกันในเร็วๆ นี้ โดยจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และผู้ประกอบการต้นทางและปลายทางอย่างเร่งด่วน

อัครเดช กล่าวย้ำว่า กมธ.ได้ขอให้เร่งประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ประชาชนคลายความกังวล ให้ชี้แจงขั้นตอนในการเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมว่า ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ในส่วน กมธ.จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สบายใจ และตนเข้าใจว่าการขนกากแคดเมียมกลับไปจ.ตาก ประชาชนคงไม่ต่อต้านถ้าได้ข้อมูลชัดเจน โดยภาครัฐลงไปทำความเข้าใจให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และขอให้ประชาชนได้ฟังข้อมูลจากส่วนราชการ อย่าฟังข้อมูลจากข่าวลือหรือผู้ไม่หวังดีลงไปปั่นกระแสให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net