6 นักกิจกรรมและนักศึกษา ผู้ต้องหาคดีหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ ปมวินิจฉัยประยุทธ์ 8 ปี เข้ารายงานตัวกกับอัยการเชียงใหม่ รออัยการนานจึงจัดแสดงเพอร์ฟอร์แมนซ์ อาร์ต จนมีปากเสียงกับตำรวจบอก “นี่คือสถานที่ราชการ ห้ามชุมนุม”
23 มิ.ย.2566 ความคืบหน้าคดีหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ จากที่ 6 นักกิจกรรมและนักศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ถูกฟ้อง ข้อหา “ร่วมกันดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี” จากการจัดกิจกรรมประท้วงเชิงสัญลักษณ์กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 30 ก.ย.65 มีมติเสียงข้างมากให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญนั้น
ล่าสุดวานนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.30 น. ผู้ต้องหาเดินทางถึงสำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ตามวันเวลานัดหมาย
จากนั้นเวลา 11.43 น. ผู้ต้องหา 3 คน แสดงเพอร์ฟอร์แมนซ์ อาร์ต (Performance art) เพื่อยืนยันในหลักการว่า 1. ยืนยันว่าการวิพากษ์วิจารณ์ศาลไม่ผิด เป็นเสรีภาพที่ประชาชนทุกคนทำได้ 2. ถ้าอัยการส่งฟ้อง เท่ากับว่าอัยการเองก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบเผด็จการปิดปากประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แม้ผู้ต้องหามารายงานตรงเวลานัดหมายคือ เวลา 10.30 น. แต่จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.50 น. ผู้ต้องหาร่ายกวีว่า รอมา 8 ปี ออกคดีปิดปากประชาชนแล้วยังให้มารอเป็นชั่วโมง
รายงานยังระบุว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาแจ้งกับผู้ต้องหาว่ากำลังสร้างความวุ่นวาย เป็นการชุมนุมในสถานที่ราชการ และให้ตำรวจแจ้งผ่านเครื่องขยายเสียงประกาศว่า “นี่คือสถานที่ราชการ ห้ามชุมนุม” และด้านผู้ต้องหายืนยันว่านี่ไม่ใช่การชุมนุม แต่มารอรายงานตัวอัยการ รอมาเป็นชั่วโมงแล้ว
ต่อมาเวลา 12.08 น. อัยการเรียกรายงานตัวเซ็นเอกสาร ขณะที่ตำรวจใช้มือถือและกล้องบันทึกภาพผู้ต้องหาตลอดเวลา ทำให้เกิดปากเสียงระหว่างผู้ต้องหาที่ต้องการใช้สิทธิปกป้องตัวเองจากการคุกคาม โดยพูดกับตำรวจว่า ไม่ให้บันทึกภาพตัวเองกับตำรวจที่ให้เหตุผลว่าต้องทำตามหน้าที่
รายงานข่าวระบุอีกว่า ภายหลังผู้ต้องหาเซ็นเอกสารรายงานตัวกับอัยการและลงจากสำนักอัยการยังปรากฏเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบุคคลคาดว่าเป็นนอกเครื่องแบบใช้มือถือบันทึกภาพอีกครั้ง ทำให้เกิดการโต้เถียงกันอีก
จากนั้นเวลา 12.25 น. ผู้ต้องหาทำความสะอาดสถานที่และเดินทางกลับ ก่อนทิ้งท้ายด้วยเสียงตะโกนว่า “อัยการ พิสูจน์ตัวเองมาว่าไม่ใช่ขี้ข้าเผด็จการ” และตำรวจนอกเครื่องแบบตามถ่ายภาพจนออกรถไปจากสำนักงานอัยการเชียงใหม่
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)