มวลชนกลุ่มคณะราษฎรเริ่มรวมตัวที่แยกปทุมวันและของคณะหลอมรวมประชาชนที่แยกราชประสงค์ เพื่อแสดงความไม่พอใจคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ประยุทธ์ยังไม่หมดวาระการเป็นนายกฯ ราษฎรนัดรวมตัวอีกที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิพรุ่งนี้ 4 โมงเย็น

“ราษฎร” จัดกิจกรรม “รวมพลฟังผลชี้ชะตาประยุทธ์” ที่ Skywalk แยกปทุมวัน มีการปราศรัยและแถลงการณ์ให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

"ปูน ทะลุฟ้า" นัดชุมนุมไล่ประยุทธ์ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันที่ 1 ต.ค. 65 เวลา 16.00 น.

30 ก.ย. 2565 ประชาชนรวมตัวกันแสดงออกหลังจากเมื่อเวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มอ่านคำวินิจฉัยการครบวาระ 8 ปีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทร์ จันทร์โอชา และมีคำวินิจฉัยว่าให้เริ่มนับการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2560 ทำให้ประยุทธ์ยังคงดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไปได้

สำหรับกิจกรรมที่กรุงเทพมีการนัดวันนี้มีสองแห่งทั้งที่สกายวอล์คแยกปทุมวันของคณะราษฎรและแยกราชประสงค์ของคณะหลอมรวมประชาชน 

มวลชนรวมตัวกันที่สกายวอล์คแยกปทุมวันหลายสิบคนตั้งแต่เวลา 14.00 น. ก่อนเวลานัดหมายในเวลา 16.00 น. โดยในบริเวณดังกล่าวมีตำรวจนำแผงรั้วเหล็กมาวางกั้นเป็นช่องทางเข้าออกทางเดียว

ธัชพงษ์ แกดำ

15.30 น. ธัชพงษ์ แกดำ หรือบอย ประกาศเชิญชวนคนที่ไม่พอใจคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้มารวมตัวกันที่สกายวอล์คปทุมวันเวลา 16.00 น. เพราะการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญให้ประยุทธ์เป็นนายกฯ เถื่อนต่อถือว่าคำวินิจฉัยของศาลเถื่อนด้วย

“วันนี้ชัดเจนแล้วว่าเราไม่สามารถเชื่อและศรัทธากระบวนการยุติธรรมได้ทั้งองคาพยพ” ธัชพงษ์กล่าวชักชวนคนให้มาร่วมเพื่อแสดงออกว่าไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและหลังจากนี้จะมีการประกาศสถานที่นัดชุมนุมในวันพรุ่งนี้ด้วย

ธนพร วิจันทร์ หรือไหมจากเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กล่าวว่าที่คณะราษฎรมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ และ 1 ในข้อเรียกร้องคือประยุทธ์ต้องออกไป แต่ ณ วันนี้ประยุทธ์ก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งพวกเราก็จะยังต้องขับไล่ต่อไปและไม่ย่อท้อเพราะประเทศนี้เป็นของราษฎรไม่ใช่ของศาลหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

“พวกเราขอพิพากษาว่าประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ 24 สิงหามาแล้ว พวกคุณป็นนายกฯ เถื่อน คณะรัฐมนตรีก็เถื่อนที่นั่งบริหารประเทศตอนนี้” ธนพรกล่าวก่อนเริ่มอ่านแถลงการณ์

เนื้อในแถลงการณ์ระบุว่าศาลรัฐธรรมนูญและรัฐบาลสมประโยชน์กันเพื่อรักษาอำนาจและระบอบเผด็จการไว้ จึงไม่สามารถยอมรับคำวินิจฉัย และสถานะนายกฯ ของประยุทธ์สิ้นลงตั้งแต่ 24 ส.ค.2565 ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 และเป็นนายกฯเถื่อนมานับตั้งแต่วันนั้น คณะรัฐมนตรีที่ขึ้นกับนายกฯ เถื่อนก็เป็นคณะรัฐมนตรีนอกกฎหมายไม่ใช่คณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 การออกประกาศคำสั่งและนโยบายที่เกิดขึ้นของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ย่อมปราศจากอำนาจรองรับตามกฎหมาย “เราราษฎรขอปฏิเสธความชอบธรรมในอำนาจทั้งปวงของคณะรัฐมนตรีชุดนี้”

ในแถลงการณ์ยังเชิญชวนประชาชนชาวไทยผู้เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบอำนาจนิยมโดยการแต่งชุดดำเป็นเวลา 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 1 – 7 ต.ค.2565 เพื่อแสดงออกการไม่ยอมรับระบอบชนชั้นนำอำนาจนิยมนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในที่ชุมนุมมีผู้ชุมนุมถือป้ายข้อความในกระดาษ A4 ต่อว่าศาลด้วย

จากนั้นเวลา 17.00 น. เวทีสกายวอล์คปทุมวันประกาศยุติการชุมนุมและนัดหมายชุมนุมใหม่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิพรุ่งนี้(1 ต.ค.) เวลา 16.00 น.

มวลชนที่สกายวอล์คปทุมวันชูสามนิ้วหลังการประกาศยุติการชุมนุม 

นอกจากที่สกายวอล์คแยกปทุมวันแล้ว Mob Data Thailand รายงานถึงกิจกรรมที่แยกราชประสงค์ของคณะหลอมรวมประชาชนมีการนำป้ายไวนิล “หยุด 8 ปี ประยุทธ์” ขึ้นแขวนที่สะพานลอยบนถนนราชดำริหน้าห้างเซนทรัลเวิล์ดและมีการใช้รถโมบายล์แทนเวทีปราศรัยและมีการเปิดเสียงการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้กับมวลชนที่มารวมตัวกันฟัง