ผบ.ทบ.ยันลบคำว่า 'ปฏิวัติ' แน่นอน แนะนักข่าวลบออกจากพจนานุกรมด้วย เหตุเป็นคำที่ผุดความคิดที่ขัดแย้ง และมันควรจะไม่มีแล้ว ระบุหาก 'ก้าวไกล' เป็นรัฐมีสิทธิทำตามนโยบายเพราะเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ส่วนทหารมีสิทธิทำข้อมูลชี้แจงเหตุจำเป็นที่จะต้องมีการเกณฑ์ทหาร

11 พ.ค.2566 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า วันนี้ (11 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลายสำนักพร้อมกันซึ่งประเด็นคำถามหนึ่งของผู้สื่อข่าวถึงหากพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลและมีนโยบายยกเลิกการบังคับเกณฑ์นั้น ผบ.ทบ. กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร อยู่ที่ว่าใครจะเข้ามาเขาก็มีสิทธิในการที่จะปฏิบัติตามนโยบายเขา

"ในส่วนของทหารเองเราก็มีสิทธิทำข้อมูลชี้แจงว่าความจำเป็นในการมีทหารหรือความจำเป็นที่จะต้องมีการเกณฑ์ทหารอยู่นั้นมีความจำเป็นอย่างไร" พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว

ต่อคำถามเรื่องความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยืนยันว่าไม่ห่วง

"เชื่อว่าเรามีบทเรียนมามากแล้วในอดีต ถ้าทุกคนมาถึงจุดนี้ การเมืองในระบบประชาธิปไตยก็ต้องเดินไป แต่ทุกคนต้องมีสติว่าอะไรควรไม่ควรสำหรับบ้านเมืองเรา บ้านเมืองเราต้องการอะไร ต้องการความสงบเรียบร้อยบ้านเมืองจะได้เจริญเศรษฐกิจจะได้ดี ถ้าเราคิดแต่ว่าจะขัดแย้ง ก่อความวุ่นวาย บ้านเมืองเราก็จะเป็นอย่างไร คนส่วนใหญ่จะได้รับความเดือนร้อนอะไร มันเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกันไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่จะต้องกังวลแต่ทุกคนควรมีสติ" พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว พร้อมย้ำว่าบ้านเมืองจะเรียบร้อยหรือไม่ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน

"ผมยืนยันได้ก็คือในเรื่องของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผมบอกว่าติดลบเป็นศูนย์ ผมยืนยันเรื่องนี้แน่นอนสำหรับตัวผม" ผบ.ทบ.กล่าว

ต่อคำถามย้ำเรื่องไม่มีปฏิวัติใช่หรือไม่นั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ "คำพวกนี้ผมบอกนักข่าวว่าไม่ควรพูดไม่ควรถามไม่เขียนถึงนะ มันจะเป็นการผุดความคิดที่ขัดแย้ง มันควรจะไม่มีแล้ว อันนี้ควรลบไปจากพจนานุกรมของผู้สื่อข่าวได้แล้ว"

ต่อคำถามเรื่องคำนี้ควรลบไปจากพจนานุกรมของกองทัพด้วยหรือไม่นั้น  พล.อ.ณรงค์พันธ์ พยักหน้า พร้อม ตอบว่า "สำหรับผมนะลบแน่นอน”

นอกจากนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยังเชิญชวนให้กำลังพลไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เพราะเป็นหน้าที่ในการสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กองทัพบกโดยผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นได้เน้นย้ำมาตลอด นอกจากนี้ยังใช้สื่อของกองทัพบกในทุกช่องทาง เพื่อสื่อสารกับกำลังพลและครอบครัวให้ออกไปใช้สิทธิ เพราะหน้าที่ของพลเมืองที่ดีคือการไปเลือกตั้ง ไปใช้สิทธิของตัวเองให้ดีที่สุด

ต่อคำถามที่แนวทางปฏิบัติของกำลังพลในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า เรื่องแนวทางการปฏิบัติแล้ว ก็ให้ระมัดระวังอย่าทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะในด้านใด ซึ่งในวันที่ 12 พ.ค. ถือเป็นวันราชการวันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ก็จะเน้นย้ำกันอีกครั้ง โดยเฉพาะข้อกฎหมายเช่นกัน เช่น การสวมเสื้อมีชื่อพรรคการเมืองเข้าไปในพื้นที่หน่วยเลือกตั้ง รวมถึงหลังเวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค. งดการหาเสียง