ส.ว.กลุ่ม ผบ.เหล่าทัพและปลัดกระทรวงกลาโหมลาประชุมสภาวาระโหวตนายกฯ พรุ่งนี้ อ้างติดภารกิจที่มีนัดแล้วล่วงหน้าพร้อมส่งจดหมายลาถึงประธานวุฒิสภาแล้ว ก่อนหน้านี้เคยประกาศงดออกเสียงโหวตนายกฯ ตั้งแต่หลังเลือกตั้งเพียง 2 วัน

12 ก.ค.2566 สำนักข่าวหลายแห่งรายงานถึงกรณีที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ ที่มีสถานะเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามตำแหน่งลาประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกลจะถูกเสนอชื่อเป็นคนแรกในการลงคะแนน

ข่าวสดออนไลน์รายงานถึง พล.ร.อ.เชิงชาย เชิงชมแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้ตนมีภารกิจไปร่วมงาน พิธีรำลึก รศ.112 ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเย็น มีการยิงปืนเสือหมอบ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และเป็นกำหนดนัดล่วงหน้าที่งานจะมีขึ้นทุกปีและปีนี้จะจัดยิ่งใหญ่พอสมควรเนื่องจากครบรอบ 130 ปีของเหตุการณ์นี้ จึงได้มีการยื่นใบลาไปยังประธานวุฒิสภาแล้ว

ผบ.ทร.ยังได้กล่าวถึงมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยทางน้ำในพื้นที่รัฐสภาที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือนั้น ได้มีการจัดตั้งกองอำนวยการร่วมรัฐสภา และเตรียมการการอพยพ ดูแลความปลอดภัย สมาชิกรัฐสภา เจ้าหน้าที่ประจำสภา หากต้องมีการเคลื่อนย้ายทางน้ำ ซึ่งได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว แต่ก็คาดการณ์ว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง จนถึงขั้นต้องใช้แผนการเคลื่อนย้ายทางน้ำ และยังยึดการเคลื่อนย้ายทางบกเป็นหลัก

พล.ร.อ.เชิงชายตอบคำถามสื่อด้วยว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดไม่ได้ให้นโยบายอะไร ไม่ได้มีการตกลงหรืออะไรทั้งสิ้น ส่วน ผบ.เหล่าทัพ จะเข้าประชุมรัฐสภาพร้อมกันหรือไม่นั้น ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะพิจารณาด้วยตัวเอง

ผบ.ทร.ตอบคำถามเรื่องจุดยืนในเรื่องที่จะไม่เลือกพรรคมีนโยบายแก้ไข ม. 112 หรือไม่นั้นเขาไม่มีความเห็นในเรื่องนี้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าการโหวตนายกฯ ตามกฎหมายจะต้องใช้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งจาก 2 สภารวมกันคือ 750 เสียง มากกว่ากึ่งหนึ่งก็คือ 376 เสียงขึ้นไป ใครได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งจึงได้เป็นนายกฯ อย่างไรก็ตามสมาชิกสภาที่ลาประชุมจะยังคงถูกนับรวมเป็น 1 เสียงของสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดในขณะนั้น

นอกจากนั้น วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายความมั่นคงของบางกอกโพสต์รายงานในช่องยูทูปของตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

1. พล.อ. สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม มีติดรับแขกต่างประเทศและติดติดประชุม
2. พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เดินทางไปที่ จ.พิษณุโลกเพื่อตรวจเยี่ยมหน่วยทหารพัฒนาและงานของกองบัญชาการกองทัพไทย
3. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่อยู่ในช่วงลงพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 ภาคอีสานและพรุ่งนี้ไปพื้นที่ภาคเหนือของกองทัพภาคที่ 3
4. พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ไปประชุมที่ประเทศอังกฤษและจะเดินทางกลับมาในวันที่ 16 ก.ค.นี้

อย่างไรก็ตามหลังการเลือกตั้งเพียง 2 วัน ส.ว.ในกลุ่ม ผบ.เหล่าทัพออกมาแสดงท่าทีต่อเรื่องการโหวตนายกฯ มากก่อนแล้วว่า จะงดออกเสียงโหวตเลือกนายกฯ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหากาวางตัวไม่เป็นกลางทางการเมือง ในฐานะที่กองทัพเป็นหน่วยงานรัฐ

ทั้งนี้วาสนาได้อธิบายต่อคำถามที่ว่า ส.ว.กลุ่มนี้จึงไม่มาทำหน้าที่ด้วยว่า ผบ.เหล่าทัพนั้นเป็น ส.ว.โดยตำแหน่งและยังได้ประกาศไม่รับเงินเดือนในฐานะ ส.ว.แล้วแต่ยังต้องทำหน้าที่ตามที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ จึงอาจยังต้องดูต่อไปว่าหากมีการโหวตรอบที่ 2-3 ตามมา ผบ.เหล่าทัพจะไม่มาทุกครั้งเลยหรือไม่ แต่มีรายงานว่าก็ให้เป็นไปตามสถานการณ์ว่าผบ.เหล่าทัพคนใดติดภารกิจก็ไปทำภารกิจ แต่ถ้าเข้าประชุมได้ก็มา แต่สำหรับครั้งแรก ผบ.เหล่าทัพก็จะลาประชุมด้วยภารกิจต่างๆ ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนของ ส.ว.กลุ่มนี้

วาสนายังระบุด้วยว่า ผบ.เหล่าทัพเหล่านี้กำลังจะเกษียณอายุในวันที่ 30 ก.ย.นี้ส่วน ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 ต.ค. และยังมีภารกิจจะต้องจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารอยู่ โดยที่ขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชายังเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์อยู่ก็จะต้องอยู่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายจะยังเป็นไปตามกำหนดการคือ ผบ.เหล่าทัพจะต้องส่งบัญชีรายชื่อสุดท้ายภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้และคาดว่าจะมีการโปรดเกล้าแต่งตั้งภายในเดือนสิงหาคม

วาสนายังระบุด้วยว่าตามที่มีการคาดการณ์ถึงคนที่จะมาเป็น ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่จะมี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ขึ้นมาเป็น ผบ.ทสส. พล.อ.เจริญชัย หินเทา จากสายทหารเสือราชินีจะขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. ส่วนผบ.ทร. คาดว่าจะมีพล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ขึ้นมารับตำแหน่งต่อ สำหรับ ผบ.ทอ. ก็ยังจะเป็นพล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ ที่ขณะนี้ยังเป็นเสนาธิการทหารอากาศอยู่หรืออาจจะเป็นพล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร หรือไม่เนื่องจากแคนดิเดตของ ทอ.มีอยู่หลายคน