Skip to main content
sharethis

รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมจีน หลี่ฉางฟู ได้พบปะหารือกับ พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกของไทย เพื่อขยายความร่วมมือทางการทหารภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกเพื่อรับมือ "ปัญหาด้านความมั่นคง" โดยประกาศว่ากองทัพไทยและจีนมีแผนการจะซ้อมรบร่วมกันภายในปี 2566 นี้ด้วย

สื่อเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ไทย ได้เข้าพบปะหารือกับ หลี่ฉางฟู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของจีนที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยที่จีนเปิดเผยว่าพวกเขาพร้อมที่จะขยายความร่วมมือด้านการทหารและการรักษาเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกร่วมกันกับไทย อีกทั้งยังมีแผนการที่จะซ้อมรบร่วมกันกับกองทัพไทยในปีนี้ (2566)

หลี่ฉางฟู กล่าวว่า "ทางการจีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประเทศไทยในการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันของผู้นำของทั้งสองประเทศ ... และเพื่อที่จะทำให้ความร่วมมือระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศเกิดผลลัพธ์มากกว่านี้"

การพบปะระหว่างผู้นำทางการทหารของทั้งสองประเทศนี้มีขึ้นหลังจากที่ 7 เดือน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีนได้พบปะหารือนอกรอบกับ นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการประชุมด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ที่กรุงเทพฯ

ในการพบปะหารือครั้งหลังสุดนี้ หลี่ เปิดเผยว่าแผนการส่วนหนึ่งของเขาคือการจัดให้มีการซ้อมรบร่วมกันระหว่างสองประเทศ โดยใช้ชื่อพิธีการซ้อมรบว่า "การจู่โจม 2023" และ "สันติภาพและมิตรภาพ 2023"

หลี่ระบุว่า จากที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในตอนนี้กำลังเผชิญกับ "ปัญหาด้านความมั่นคง" ทำให้จีนพร้อมใจจะร่วมมือกับไทยในการ "รักษาเสถียรภาพของภูมิภาค" เอาไว้ และเพื่อทำให้แน่ใจว่าจะสามารถธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงในภูมิภาคอย่างยั่งยืนได้ หลี่บอกอีกว่ามี "แรงส่งที่ดี" ในเรื่องของการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างไทยกับจีน

"ปัญหาด้านความมั่นคง" ที่หลี่พูดถึงนี้ เขาเคยพูดเอาไว้ในปาฐกถาเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ในที่การประชุม "แชงกรีลาไดอะล็อก" ที่สิงคโปร์ต่อหน้าผู้ชมจากนานาชาติ หลี่บอกว่าปัญหาดังกล่าวหมายถึงความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น

หลี่กล่าวไว้ในที่ประชุมแชงกรีลาไดอะล็อกว่ามี "บางประเทศ" ที่เพิ่มความตึงเครียดในด้านการแข่งขันทางอาวุธยุทโธปกรณ์ในเอเชีย และทั้งจีนละสหรัฐฯ ควรจะหาข้อตกลงร่วมกันในช่วงที่มีการยกระดับความตึงเครียดเช่นนี้

ในบทวิเคราะห์ของสถาบันโลวี ซึ่งเป็นองค์กรคลังสมองอิสระในออสเตรเลียระบุว่า การปาฐกถาของหลี่ที่แชงกรีลาไดอะล็อกเป็นตัวส่งผลกระตุ้นให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เพิ่มมากขึ้นเสียเอง อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนความกระหายสงครามของจีนและเป็นการเสียโอกาสในการที่ผู้นำระดับสูงของทั้งจีนและสหรัฐฯ จะนั่งโต๊ะเจรจากันนอกรอบ

แถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมจีนระบุเอาไว้ว่า พล.อ. ณรงค์พันธ์ ได้กล่าวไว้ในงานประชุมเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่า ทางการไทย "รู้สึกยินดีและให้การสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อบทบาทของจีนในการรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค" นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่าไทยและจีนเป็นสหาย คู่หู ญาติมิตร และเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน จากความร่วมมือที่เห็นผลในด้านการค้า, วัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนของบุคคลระดับสูง

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน พ.ย. 2565 สีจิ้นผิงและประยุทธ์ ได้ลงนามแผนการความร่วมมือด้านการส่งเสริมโครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ซึ่งเป็นโครงการพื้นฐานข้ามประเทศของจีน นอกจากนี้จีนยังให้สัญญาว่าจะสร้างความมั่งคั่งและความปลอดภัยให้กับภูมืภาคเพื่อให้เป็นผลดีต่อจีนและรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนเป็นครั้งที่ 50 เมื่อวันที่ 1-6 มิ.ย. ซึ่งชาวจีนแผ่นดินใหญ่รู้จักพระองค์ในฐานะ "มิตรต่างชาติ" ของจีน โดยในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งดังกล่าวได้มีการเข้าเฝ้าจากทูตระดับสูงของจีน หวังอี้ ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน โดยได้มีการหารือถึงเรื่องการส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างไทยกับจีน

 

เรียบเรียงจาก

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net