Skip to main content
sharethis

ทนายชี้ปัญหาประกาศห้ามชุมนุมหน้าศาลฎีกาของ ตร.ว่าไม่ได้มีการปิดทางเข้าออกศาลฎีกาและยังเปิดทำการได้ อีกทั้งพ.ร.บ.ชุมนุมฯ ไม่ได้ให้อำนาจ ตร.คุมเนื้อหาบนป้ายเพื่อสั่งเลิกชุมนุมได้และ ตร.ต้องไปขอศาลพิจารณาว่าจะสั่งเลิกชุมนุมหรือไม่ก่อนด้วย

28 ก.พ.2566 หลังจากเช้าวันนี้ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม ไปอ่านประกาศห้ามชุมนุมโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 11 พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2558ที่อ้างถึงคำสั่งที่ประกาศไว้เมื่อววานนี้เรื่องให้แก้ไขการชุมนุมตามคำสั่งให้แก้ไขการชุมนุมโดยควบคุมผู้ชุมนุมที่อยู่บนผิวถนนกลับขึ้นมาอยู่บนทางเท้าและไม่ให้นำรถมาจอดในที่ห้ามจอดรวมถึงปลดป้ายผ้าที่มีข้อความหมิ่นประมาทผู้อื่นที่ติดอยู่บนรั้วศาลออกภายใน 7.00 น.วันนี้

พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แสดงความเห็นเกี่ยวกับประกาศดังกล่าวของตำรวจไว้หลายประเด็นโดยสรุปได้ว่า ทั้งในทางข้อเท็จจริงที่ว่าแม้จะมีการใช้ผิวถนนแต่ก็ไม่ได้ปิดขวางทางเข้าออกศาลฎีกา ไปจนถึงกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจแก่ตำรวจในการควบคุมเนื้อหาของการชุมนุมและไม่ใช่เหตุที่จะใช้อ้างให้เลิกชุมนุมได้

อีกทั้งยังมีขั้นตอนที่ตำรวจจะต้องดำเนินการไปขอให้ศาลออกคำบังคับให้เลิกการชมุนมและศาลจะต้องเรียกผู้จัดการชุมนุมไปให้ร่วมการไต่สวนก่อนออกคำบังคับเลิกชุมนุมด้วย และถ้าศาลเห็นว่าเป็นการชุมนุมจะไม่สั่งเลิกการชุมนุมก็ได้ แต่ถ้าศาลสั่งว่าให้เลิกการชุมนุมยังเหลือขั้นตอนที่ผู้จัดการชุมนุมจะอุทธรณ์คำบังคับดังกล่าวได้

ทนายความยังตั้งข้อสังเกตว่าการชุมนุมนี้เกิดขึ้นที่หน้าศาลและมีข้อเรียกร้องต่อศาล แต่เมื่อกฎหมายกำหนดให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ชุมนุมต่อหรือไม่ แล้วศาลจะคุ้มครองประชาชนที่พูดเรื่องที่ศาลไม่ต้องการฟังหรือไม่

1. ตำรวจอ้างอำนาจตามมาตรา 11 พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ซึ่งมาตรา 11 เป็นขั้นตอนในการแจ้งการชุมนุมและสรุปสาระสำคัญสำหรับการชุมนุม ซึ่งผู้ชุมนุมยืนหยุดขังแจ้งตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.66 หนึ่งเดือนมาแล้ว มันเลยระยะเวลาตามมาตรา 11 พ.ร.บ.ชุมนุมฯมาแล้ว

2. แม้จะเลยระยะเวลาการแจ้งการชุมนุมมาแล้ว แต่หน้าที่ในการดูแลการชุมนุมสาธารณะของตำรวจก็ยังมีอยู่ตลอด ซึ่งอาจจะประกาศให้แก้ไขการชุมนุมได้ ตรงนี้จะเป็นการใช้อำนาจตามมาตรา 21 (2) มีการประกาศให้แก้ไขเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ให้แก้ไขภายใน 7.00 น. ของวันที่ 28 ก.พ. โดยจนท.อ้างเหตุให้แก้ไขในกรณีของ มาตรา 8 (กีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงาน) / ผู้ชุมนุมลงมาบนพื้นผิวจราจร / มีป้ายข้อความหมิ่นประมาท

3.แน่นอนว่าเมื่อมีการชุมนุม ต้องมีการใช้พื้นที่ ในสถานที่ ที่กลุ่มเป้าหมายสามารถ "เห็นและได้ยิน" เสียงที่ผู้ชุมนุมต้องการสื่อสาร อาจมีการใช้พื้นที่ผิวจราจรบ้าง แต่ผู้ชุมนุมไม่ได้กีดขวางทางเข้าออกของศาลฎีกา ศาลฎีกาและหน่วยงานรัฐยังสามารถเปิดทำการได้โดยปกติ ตรงนี้ข้อเท็จจริงไม่ถือว่ากีดขวางทางเข้าออก ไม่ได้รบกวนการปฏิบัติงาน และการใช้พื้นผิวจราจรบ้างแต่ไม่ได้ปิดถนนเพราะเหตุสภาพการชุมนุมที่มีคนมาร่วมมากเป็นบางช่วงเวลาก็ย่อมทำได้

4. ในส่วนของป้ายข้อความต้องบอกว่า พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ นั้นดูแล "การใช้พื้นที่สาธารณะ" ไม่ได้ควบคุมไปถึง "เนื้อหา" ของการชุมนุม ป้ายประท้วงเป็นเรื่องทั่วไป เป็นเรื่องธรรมดาสามัญของการชุมนุม หากตำรวจเห็นว่าข้อความนั้นผิดกฎหมายเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาทใคร ตำรวจสามารถดำเนินการในเรื่องหมิ่นประมาทได้เลย แต่ไม่ใช่เหตุที่นำมากล่าวอ้างเพื่อสั่งให้เลิกการชุมนุม

5.การชุมนุมหน้าศาลฎีกานั้นยังเป็นการชุมนุมโดยสงบ ที่ต้องได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ ตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญ และตามข้อ 21 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองอยู่

6.ตอนนี้เลยระยะ 11.00 น.ตามประกาศให้เลิกการชุมนุมในวันที่ 28 ก.พ.แล้ว โดยขั้นตอนตามกฎหมาย จนท.ต้องไปยื่นคำร้องต่อศาล ให้ศาลออก "คำบังคับ" ให้เลิกการชุมนุม ซึ่งตรงนี้ศาลต้องออกหมายเรียกให้ผู้จัดการชุมนุมไปร่วมการไต่สวนการออกคำบังคับนี้ด้วย

7. หากศาลเห็นว่าการชุมนุมนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบก็จะยกคำร้องของตร. แต่หากศาลเห็นว่าผู้ชุมนุม ชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมายก็จะออกคำบังคับให้เลิกการชุมนุม / ผู้ชุมนุมยังมีสิทธิอุทธรณ์ได้ตามาตรา 22

8.กรณีผู้ชุมนุมไม่ออกตามคำสั่งศาล เจ้าหน้าที่ต้อง "ประกาศพื้นที่ควบคุม" กำหนดระยะเวลาให้ออกจากพื้นที่ชุมนุม ตามมาตรา 23

9.ถ้าพ้นระยะเวลากำหนดให้ออกจากพื้นที่ควบคุม เจ้าหน้าที่จึงจะมีอำนาจดำเนินการใช้เลิกการชุมนุม

10. เราว่าคดีนี้น่าสนใจมาก เพราะผู้ชุมนุม ชุมนุมหน้าศาล เรียกร้องต่อศาล ในขณะเดียวกันกลไก พ.ร.บ.ชุมนุมฯก็ออกแบบมาให้ศาลคุ้มครองเสรีภาพของผู้ชุมนุม ออกแบบให้ศาลถ่วงดุลกับตำรวจ แล้วศาลจะคุ้มครองประชาชนให้พูดในสิ่งที่ศาลไม่ต้องการฟังหรือเปล่า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net