วรภพ ส.ส. ก้าวไกล เสนอรัฐบาลต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพเจรจาพูดคุยปรับโครงสร้างหนี้ ออกแบบนำเจ้าหนี้นอกระบบเข้าสู่ในระบบ ชี้ คนกู้นอกระบบเพราะเข้าถึงในระบบไม่ได้ เสนอ ให้นำข้อมูลผู้ประกอบการรายย่อยในแอปเป๋าตังเข้าระบบสามารถขอกู้สินเชื่อในระบบได้ จะช่วยลูกหนี้นอกระบบได้เป็นล้านคน

1 ก.ย. 2565 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอร่างพ.ร.บ.ล้มละลาย ลุกขึ้นอภิปรายกรณีปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวพันที่กำลังลุกลามในสังคมไทย เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสิน และเมื่อเข้าถึงการกู้ยืมในระบบไม่ได้ จึงหันไปหาช่องทางพิเศษ อย่างการกู้หนี้นอกระบบ

วรภพ กล่าวว่า “ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรง โดยเฉพาะการปรับสินเชื่อปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงการเจรจากับเจ้าหนี้นอกระบบ และค่างวดสำหรับดอกเบี้ยที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดควรนำไปหักลบกับเงินต้น ถึงจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ที่เป็นธรรมกับลูกหนี้และเจ้าหนี้นอกระบบ”

“มีการบูรณาการร่วมกันของระหว่างหน่วยงาน ผมคิดว่าหน่วยงานที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยลูกหนี้ได้คือกลุ่มสรรพากรครับ ถ้ามีการทำงานร่วมกัน การเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ระบบมันถึงจะเกิดขึ้น นี่คือขั้นแรกในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และลูกหนี้ที่เป็นหนี้นอกระบบปัญหามักจะไม่ได้มีแค่หนี้นอกระบบครั้งเดียว เค้าจะมีสินเชื่อในระบบอยู่ด้วย นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมสภาแห่งนี้ถึงควรจะต้องรีบผ่านร่างพ.ร.บ.ล้มละลาย ช่วยให้บุคคลธรรมดาสามารถฟื้นฟูหนี้สินเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ทุกรายพร้อมกัน” วรภพ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีหลักการสำคัญที่ทางวรภพ ได้เคยเสนอเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ไว้ก่อนหน้า หากมีการปรับโครงสร้างหนี้ จะสามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ทุกรายได้พร้อมกัน จะช่วยลดภาระค่างวดของลูกหนี้ในบางเวลาที่ลูกหนี้มีปัญหาสภาพคล่องได้ไม่ต้องถูกไล่ฟ้องยึดทรัพย์สินยึดบ้าน ยึดเครื่องมือทำมาหากิน ไม่ต้องวิ่งเจรจากับเจ้าหนี้ทีละราย

วรภพยังได้เสนอให้รัฐบาลเตรียมมาตรการรองรับ ปัญหาลูกหนี้นอกระบบเช่น เตรียมวงเงิน 10,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อของธนาคารออมสินเพื่อรองรับลูกหนี้ บวกกับช่องทางในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ที่ให้บูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน อาจจะเป็นรูปแบบ One stop service ที่สำนักนายกก็ได้เช่นกัน เพราะว่าสำนักนายกพ่วงหลากหลายหน่วยงาน หลากหลายกระทรวงที่เป็นทั้งเจ้าหนี้กับประชาชน

“ต่อมาคือวิธีการป้องกันครับถ้าเราอยากจะลดปัญหาหนี้นอกระบบ เราจะต้องเพิ่มโอกาสให้เขาขอสินเชื่อในระบบ 80 เปอร์เซ็นต์ ของคนที่เป็นหนี้นอกระบบ เขาเริ่มจากเงินจำนวนน้อย มีการวิจัยมาแล้วว่าแค่ 20,000 บาทเท่านั้น ถ้าเรามีเงินทุนฉุกเฉินกู้ผ่านแอปเป๋าตังกดปุ๊บได้ปั๊บ ผมคิดว่าอันเนี่ยจะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบได้อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง คือเป็นล้านคน ให้ไม่ต้องตกไปอยู่ในวงจรหนี้นอกระบบตั้งแต่เริ่ม” วรภพ กล่าว

 

วรภพยังเสนอให้มีการนำข้อมูลของผู้ประกอบการรายย่อยในแอปลิเคชั่นเป๋าตัง สามารถใช้ขอกู้สินเชื่อได้ ทำให้เขาเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ และปลดล็อกพิโกไฟแนนซ์ เพื่อให้เจ้าหนี้นอกระบบมาอยู่ในระบบให้เขาจดทะเบียนเป็นพิโกไฟแนนซ์ เพื่อปลดล็อกให้กลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบ พร้อมทั้งมีซอฟต์โลนให้กับพิโกไฟแนนซ์เหล่านี้จะทำให้ลูกหนี้เข้าถึงสินเชื่อในระบบได้มากขึ้น