Skip to main content
sharethis

‘ก้าวไกล’ ยื่นกฎหมายแก้ พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน เพิ่มอำนาจลูกบ้านในโครงการจัดสรรตั้งนิติบุคคลได้ แก้ปัญหาสาธารณูปโภคขาดการดูแล พร้อมเสนอร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ยกระดับสิทธิลูกหนี้บุคคลธรรมดาฟื้นฟูฐานะ หวังแก้วิกฤติหนี้สินครัวเรือน ‘วรภพ’ ฝากเศรษฐา-รมว.ยุติธรรม ดันเรื่องนี้ให้เป็นจริง 

6 ก.ย. 2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (6 ก.ย.) ที่รัฐสภา ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย กันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ สส.กรุงเทพฯ (มีนบุรี สะพานสูง) และ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กรุงเทพฯ (สายไหม) แถลงข่าวการยื่นร่าง พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร 

ณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลต้องการทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องถนน ทางเท้า ไฟส่องสว่าง ที่แม้รัฐบาลมีอำนาจฝ่ายบริหาร ก็ไม่สามารถทำได้หากไม่แก้ไขกฎหมายผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ  

จึงเป็นที่มาให้พรรคก้าวไกลเสนอยื่นร่าง พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน มาตรา 44 (1) และ 44/1 จุดประสงค์เพื่อเพิ่มอำนาจให้ลูกบ้านในโครงการจัดสรร ที่ปัจจุบันกว่า 80% ไม่มีนิติบุคคล ทำให้ไม่มีการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคของโครงการ คืนอำนาจให้ประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรร สามารถตั้งนิติบุคคลเพื่อบำรุงรักษาสาธารณูปโภคของตัวเองได้ โดยไม่ต้องร้องขอจากเจ้าของโครงการเมื่อพ้นกรอบระยะเวลาที่กำหนดในร่าง พ.ร.บ. ไปแล้ว 

โดยหลังจากนี้ ร่างจะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชนตามมาตรา 77 และบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว 

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลอยู่ในกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อให้หน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการปรับปรุงที่ดินเอกชนนอก พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินได้ทั่วทั้งประเทศ 

ด้านกันต์พงษ์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีพื้นที่หมู่บ้านจัดสรรจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินฉบับเดิมนั้น มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 และมีการแก้ไขเมื่อปี 2558 สิ่งที่เกิดขึ้นคือปัญหาสาธารณูปโภค ขยะ พื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งไม่ได้รับการแก้ไขหรือจัดการ เจ้าของโครงการไม่ได้เข้ามาดูแล พรรคก้าวไกลจึงต้องการผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาทุกข์ให้ประชาชน

ขณะที่ ศศินันท์ กล่าวว่า นอกจากปัญหานิติบุคคล ยังมีกรณีที่ดินชุมชน ที่ไม่สามารถพัฒนาแก้ไขสาธารณูปโภคได้ เนื่องจากติดปัญหาถนนที่ไม่ได้ยกให้เป็นสาธารณะ แม้ถนนเส้นนั้นจะใช้สัญจรกันทุกวัน จนทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นถนนสาธารณะ แต่ในความเป็นจริง เป็นทางสาธารณะเพียงครึ่งเดียว ที่เหลือเป็นที่ดินของเอกชน ทำให้บางครั้งประชาชนต้องควักเงินเรี่ยไรซ่อมแซมถนนเอง ทั้งที่ควรเป็นรัฐเข้าไปดูแล แต่ติดปัญหาข้อกฎหมาย จึงเป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฎรที่ต้องประสานแก้ไขปัญหานี้

เสนอร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ยกระดับสิทธิลูกหนี้บุคคลธรรมดาฟื้นฟูฐานะ หวังแก้วิกฤติหนี้สินครัวเรือน ‘วรภพ’ ฝากเศรษฐา-รมว.ยุติธรรม ดันเรื่องนี้ให้เป็นจริง 

วันเดียวกัน วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ แถลงข่าวยื่นร่าง พ.ร.บ. ล้มละลาย เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่า ปัจจุบันปัญหาหนี้สินครัวเรือนอยู่ในขั้นวิกฤต ร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาลระบุว่าหนี้สินครัวเรือนพุ่งเกิน 90% ของจีดีพี การแก้ปัญหาหนี้สินจึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย

พรรคก้าวไกลจึงเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ล้มละลาย เพื่อเพื่อป้องกันการล้มละลายโดยไม่จำเป็น ช่วยแก้ไขปัญหาของลูกหนี้ ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย (SME) และที่เป็นบุคคลธรรมดา ให้สามารถหาทางออกได้

โดยสาระสำคัญของร่างกฎหมายนี้ คือให้ลูกหนี้ SME สามารถยื่นขอฟื้นฟูกิจการได้สะดวกขึ้น ขณะเดียวกัน เพิ่มสิทธิให้ลูกหนี้บุคคลธรรมดา ยื่นขอฟื้นฟูฐานะหรือยื่นขอฟื้นฟูหนี้สินได้เหมือนลูกหนี้ธุรกิจ 

สิทธิในการฟื้นฟูกิจการหรือสิทธิฟื้นฟูฐานะนั้น คือการให้ลูกหนี้สามารถขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ทุกรายพร้อมกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถูกฟ้องล้มละลายก่อน จากเดิมลูกหนี้ต้องวิ่งเจรจากับเจ้าหนี้แต่ละราย ทำให้ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ โดยเรื่องนี้เป็นสิทธิสากล หลายประเทศที่พัฒนาแล้วมีการรับรอง เพราะจะทำให้ลูกหนี้มีทางออกและหลุดพ้นจากวงจรหนี้สิน  ขณะเดียวกัน เป็นการหาทางออกที่เป็นธรรมกับเจ้าหนี้ทุกรายด้วย 

วรภพย้ำอีกว่า เรื่องนี้มีความจำเป็น โดยเฉพาะหลังวิกฤตโควิด ที่เป็นวิกฤตของบุคคลรายย่อย ควรมีการยกระดับสิทธิของลูกหนี้ โดยหน่วยงานหลักที่ดูแลกฎหมายฉบับนี้คือกรมบังคับคดี ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ฉบับนี้ เป็นร่างที่ค้างมาจากสภาสมัยที่แล้ว กมธ. พิจารณาเสร็จสิ้นและส่งเข้าสู่สภาฯ แต่เนื่องจากหมดสมัยสภาชุดที่ 25 เสียก่อน วันนี้พรรคก้าวไกลจึงต้องผลักดันต่อไป 

“หวังว่าสภาผู้แทนฯ ชุดที่ 26 ครม.ชุดใหม่ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะสนับสนุนผลักดันให้ร่างกฎหมายนี้ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของพี่น้องประชาชน ตามที่มีในร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาล” วรภพกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net