Skip to main content
sharethis

ศิวะกุมาร คณปติ นักลงทุนมาเลเซียซึ่งเคยทำงานพีอาร์ให้ "ฮุนเซน" ผู้นำกัมพูชา เข้าซื้อกิจการ "พนมเปญโพสต์" สื่ออิสระภาคภาษาอังกฤษหัวสุดท้าย ตามด้วยการไล่ออกบรรณาธิการ และการลาออกของพนักงานอีก 4 ราย หลังจากพวกเขาปฏิเสธไม่ลบข่าวขายกิจการพนมเปญโพสต์ออกจากเว็บ

การเทคโอเวอร์สื่อเกิดขึ้นก่อนท่ามกลางการยุบพรรคฝ่ายค้าน ยุติการดำเนินงานของพรรคเล็ก กรุยทางให้กับพรรครัฐบาลของฮุนเซนก่อนจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะที่เมื่อกันยายนปีก่อน "แคมโบเดียเดลี" ประกาศปิดตัว หลังรัฐบาลเรียกภาษีย้อนหลัง 6.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

8 พ.ค. 2561 จากที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือเรื่องการขายทอดสื่อฉบับนี้ แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา "พนมเฟญโพสต์" ก็รายงานว่าเจ้าของเดิมของพวกเขาคือ บิลล์ คลอกห์ ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจเหมืองแร่ชาวออสเตรเลียประกาศขายพนมเฟญโพสต์ต่อให้กับศิวะกุมาร คณปติ ผู้อำนวยการบริหารของบริษัท 'เอเชียพีอาร์' ที่มีฐานในมาเลเซีย โดยอ้างอิงจากแถลงการณ์ของคลอกห์ ผู้ที่เป็นเจ้าของสื่อแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2551

โดยที่คลอกห์แถลงว่าศิวะกุมารเป็น "นักหนังสือพิมพ์ผู้เป็นที่นับถือ โดยมีปูมหลังเป็นนักข่าวที่มีประสบการณ์ และเป็นตัวแทนกลุ่มการลงทุนที่เข้มแข็งในมาเลเซีย"

ก่อนหน้าที่จะมีการขายทอดสื่อฉบับนี้เคยมีกรณีที่เจ้าหน้าที่สรรพากรฟ้องคดีภาษีต่ออดีตซีอีโอชาวออสเตรเลีย ทำให้ผู้สังเกตการณ์บางคนเสนอว่าการเทคโอเวอร์รอบนี้เป็นกรณีกลั่นแกล้งสื่อ คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นกับ "แคมโบเดียเดลี" ซึ่งถูกอ้างเรื่องภาษีย้อนหลังแบบไม่เป็นธรรมกว่า 6.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จึงมีการประกาศปิดตัวไปก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2560

กรณีของพนมเฟญโพสต์ คลอกห์ระบุว่ามีการชำระข้อพิพาทในด้านกฎหมายภาษีแล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสัญญาการขายสื่อ

เจ้าของคนใหม่ "ศิวะกุมาร" เป็นผู้อำนวยการบริหารของเอเชียพีอาร์ ซึ่งเคยมีประวัติที่ฮุนเซนเคยใช้บริการเป็นลูกค้าในการ "ทำให้เขาเข้าสู่ตำแหน่งทางรัฐบาล" จากข้อมูลเว็บไซต์ของเอเชียพีอาร์เอง นอกจากนี้ยังเคยดูแลพิธีเซ็นสัญญาระหว่าง มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในยุคนั้น กับฮุนเซนซึ่งในตอนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีร่วมและสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ด้วย

ศิวะกุมารเคยเรียนด้านวารสารศาสตร์มาก่อนจริงจากมหาวิทยาลัย และเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและหัวหน้าบรรณาธิการของอีสต์เทิร์นไทม์นิวส์ในมาเลเซีย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับ อับดุล ทาอิบ มาห์มูด ผู้ว่าการรัฐซาราวัค ซึ่งทาอิบเคยมีเรื่องอื้อฉาวจากปากคำของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เปิดเผยว่าซาราวัคสูญเสียผืนป่าไปร้อยละ 90 ในช่วงที่ทาอิบอยู่ในอำนาจและจากข้อมูลลับของสหรัฐฯ ที่รั่วไหลออกมาระบุว่าผู้นำรัฐคนนี้ "มีการทุจริตสูง" แบบเดียวกับที่เอ็นจีโออย่างโกลบอลวิตเนสส์เคยวิจารณ์ไว้

ถึงแม้ในถ้อยแถลงจากฝ่ายศิวะกุมารจะอ้างว่าการซื้อสื่อของเขาเป็นไปโดย "ไม่ได้ละเมิดกฎหมายและข้อบังคับใดๆ ของกัมพูชา" แต่ เอ็ด เลกาสปี ผู้อำนวยการบริหารของสมาคมสื่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ SEAPA ก็บอกว่ามันน่าเป็นห่วงที่เจ้าของคนใหม่ของพนมเฟญโพสต์มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลมาเลเซียและกัมพูชา เพราะสื่อมาเลเซียและเจ้าของสื่อมาเลเซียเองก็มักจะไม่ค่อยมีความอิสระอยู่แล้ว เลกาสปีหวังว่ากองบรรณาธิการของพนมเฟญโพสต์จะยังคงความอิสระในการทำงานไว้ได้

โดยล่าสุด SEAPA เปิดเผยอีกว่า ไค กิมซอง บรรณาธิการพนมเปญโพสต์ถูกไล่ออกแล้ว และมีกองบรรณาธิการอย่างน้อย 4 รายขอลาออก หลังฝ่ายบริหารกลุ่มใหม่ของเจ้าของใหม่เข้ามาทำหน้าที่

อนึ่งในบีบีซีระบุว่าการไล่บรรณาธิการ และการลาออกของพนักงาน เกิดขึ้นหลังจากที่กองบรรณาธิการถูกสั่งให้นำรายงานข่าวเกี่ยวกับการขายพนมเปญโพสต์ออกจากเว็บไซต์ โดยอดีตบรรณาธิการเศรษฐกิจพนมเปญโพสต์ Brendan O'Byrne ผู้เขียนข่าวชิ้นดังกล่าว ทวิตระบุด้วยว่านอกจากเขาปฏิเสธการปลดรายงานข่าวนี้แล้ว เขายังยื่นข้อเสนอขอลาออกจากพนมเปญโพสต์ด้วย

 

 

สถานการณ์ทางการเมืองกัมพูชาในตอนนี้มีการพยายามกีดกันพรรคฝ่ายค้านใหญ่และรังแกพรรคเล็กที่ไม่อยู่ข้างรัฐบาล โดยมีการยุบพรรคฝ่ายค้านหลักอย่างพรรคสงเคราะห์ชาติ (CNRP) ไปแล้ว และมีพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ อย่างพรรค "Candlelight Party" ที่ตัดสินใจยุติการดำเนินการ ทำให้กัมพูชาเข้าใกล้สภาพพรรคการเมืองใหญ่พรรคเดียวที่ครอบงำการเมืองกัมพูชามานับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองปี 2536

นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศการรังแกสื่อวิทยุต่างๆ จนทำให้ปิดตัวไปหลายรายสร้างสูญญากาศให้กับสื่ออิสระในกัมพูชา

ลุค ฮันต์ จากสมาคมสื่อต่างประเทศในกัมพูชากล่าวว่าการสูญเสียสื่อภาษาอังกฤษสำคัญสองแห่งในช่วงระยะเวลาไม่ห่างกันถือเป็นเรื่องน่าเศร้าที่สะท้อนให้เห็นบรรยากาศสื่อในปัจจุบันของกัมพูชา รวมถึงชื่นชมสื่อพนมเฟญโพสต์ตั้งแต่ในอดีตว่าเคยเป็นสื่อที่ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงที่กัมพูชายังเป็นรัฐล้มเหลว แต่มีความกล้าหาญและไม่เอนเอียง นักข่าวทำงานด้วยใจจริง ถือว่ามีส่วนสร้างสังคมกัมพูชาอย่างมหาศาล

เรียบเรียงจาก

Phnom Penh Post sold to Malaysian investor, Phnom Penh Post, 06-05-2018

Phnom Penh Post, Cambodia's last independent newspaper, sold to Malaysian 'covert' spin doctor, ABC News, 07-05-2018

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net