Skip to main content
sharethis
กระทรวงสาธารณสุขชี้แจงประกาศมาตรการป้องกันการใช้ทรัพย์สินทางราชการ เป็นไปตามร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม แนะให้เจ้าหน้าที่ใช้วิจารณญาณตามความเหมาะสม ล่าสุดต้านกระแสไม่ไหวยกเลิกประกาศแล้ว
 
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมา ThaiPBS รายงานว่านายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรมป้องกัน ในฐานะรักษาราชการแทนหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวงสาธารณสุข (ศปท.) ระบุว่ากระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรื่องมาตรการป้องกันการใช้ทรัพย์สินทางราชการ เพื่อแสดงเจตจำนงสุจริตในการบริหารราชการและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวในตำแหน่งหน้าที่อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นแบบอย่างที่ดี ยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อความเชื่อมั่นศรัทธาต่อประชาชน โดยมุ่งหวังที่จะปรับเปลี่ยนแนวคิดของคนในหน่วยงานให้สามารถคิดแยกแยะว่า “เรื่องใดเป็นประโยชน์ส่วนตนและเรื่องใดเป็นประโยชน์ส่วนรวม”
 
ทั้งนี้ ในการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2560 ที่รับทราบร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. .... พร้อมมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำระเบียบว่าด้วยการอนุญาตให้ใช้ทรัพย์สิน สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือกำกับดูแล โดยให้พิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ. กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
 
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ไม่สร้างภาระให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขที่มีกว่า 400,000 คน รายละเอียดในประกาศที่ได้แจ้งไป บางข้ออาจทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความไม่สะดวกในการปฏิบัติงาน เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ ที่ใช้ทั้งติดต่อราชการและเรื่องส่วนตัว ซึ่งอยู่ในวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ถึงความเหมาะสม
 
ล่าสุดต้านกระแสไม่ไหวยกเลิกประกาศแล้ว
 
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมา สำนักข่าวไทย รายงานว่า นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าขณะนี้กำลังเร่งออกหนังสือเวียนยกเลิกประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการในประเด็นห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนตัวมาชาร์ตไฟในสถานที่ราชการ โดยจะให้มีการทำหนังสือถามความเห็นจากทุกฝ่ายว่าสามารถปฎิบัติได้หรือไม่ ส่วนที่มีการแจ้งประกาศนี้ก่อนนั้น ก็เพื่อต้องการบอกให้มีการระมัดระวังในการใช้ทรัพย์สินของทางราชการเป็นการแจ้งบอกไว้ก่อนล่วงหน้า   ไม่คิดว่าจะเกิดกระแสโจมตีอีกทั้งเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ยากจะปฏิบัติ   
 
นพ.เจษฎา กล่าวว่าที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือไปถึง ป.ป.ช. เพื่อขอดูรายละเอียดเกี่ยวกับระเบียบมาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ เช่น การห้ามชาร์ต โทรศัพท์ก็พบว่าเป็นเรื่องที่มีการชี้แจงทางวาจาในที่ประชุม แต่ตัวแทนที่เข้าร่วมประชุมกับ ป.ป.ช.เห็นว่า น่าจะใส่เรื่องดังกล่าวลงไปด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาภายในกระทรวงสาธารณสุขเอง พบปัญหาการร้องเรียน กรณีการใช้ทรัพย์สินราชการ ทั้งการเอารถยนต์มาจอดทิ้งไว้จนญาติหรือคนไข้ ไม่ได้ความสะดวกในการใช้บริการหรือการนำรถยนต์มาล้างในสถานที่ราชการ  ทั้งนี้หากร่างหนังสือเวียนเสร็จสิ้น จะนำไปเผยแพร่ทันที ทั้งแจ้งระดับหน่วยงานภายในกระทรวงสาธารณสุขรวมถึงสาธารณะ เพื่อให้ทราบว่าได้มีการเปลี่ยนระงับประกาศดังกล่าวแล้ว และสั่งให้มีการทบทวน เพราะเข้าใจยากแก่การปฏิบัติและอีกทั้งลักษณะงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานของกระทรวงสาธารณสุขเองมีความอ่อนไหว ต้องทำงานต่อเนื่องทั้งในเวลาและนอกเวลา เจตนาของประกาศแค่การให้ทราบกรอบระเบียบ เกิดการตระหนักเท่านั้น
 
เพิ่มเติมเนื้อหาเมื่อ 6 ม.ค. 2561 เวลา 18.25 น.

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net