Skip to main content
sharethis

จนท.พิสูจน์วิถีกระสุนเก็บหลักฐานในสนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ขณะที่ไพบูลย์-รสนา-คำนูณ ลงพื้นที่หลังเหตุปะทะ เจอตำรวจโห่ โดย 'ไพบูลย์' ยืนยันกระสุนลูกซอง 124 นัดของตำรวจไม่มีการนำมาใช้ ด้าน ทบ. ชี้แจงคลิปที่มีการแชร์ เป็นเหตุการณ์ทหารรักษาอาวุธให้ตำรวจเพื่อกันผู้นำไปใช้ในทางมิชอบ

เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดเคลียร์สนามไทย-ญี่ปุ่นดินแดง และสอบวิถีกระสุน

27 ธ.ค. 2556 - สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า เมื่อเวลา 09.43 น. พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ.10 นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เข้าตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน พื้นที่โดยรอบอาคารศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ถนนมิตรไมตรี จากเหตุการปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท.เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ยังตรวจสอบวิถีกระสุนที่ทำให้เจัาหนัาที่และประชาชนได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการบาดเจ็บในรูปแบบอื่นๆ ของทุกฝ่าย เพื่อเป็นข้อมูลภาพรวม หารอยนิ้วมือและหลักฐานอื่นที่สำคัญเพื่อใข้เป็นข้อมูลการปัองกันเหตุในอนาคต เบื้องต้น เจ้าหนัาที่พบปลอกกระสุนขนาด.38 หัวตะกั่ว 2 ลูก เชื่อว่าเมื่อตรวจสอบต่อไปจะพบหลักฐานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามหลักสากล มีเพียงกระสุนยางและอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนที่ใช้ดูแลสถาการณ์

พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ยังกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตนั้น จากการชันสูตรพบว่ากระสุนที่ใช้เป็นชนิด .32 หัวตะกั่ว ทิศทางจากด้านหน้าเข้าทางไหลขวาเฉียงไปทางด้านซ้าย ลักษณะจากบนลงล่าง 45 องศา ตัดเส้นเลือดใหญ่บริเวณหัวใจและพบเศษกระสุนฝังในหัวใจ โดยผู้บังคับบัญชารู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

ขณะที่มีตัวแทนพรรคการเมือง 5 พรรค เดินทางมายังสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อรอสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประกอบด้วย พรรคมหาชน พรรคเพื่อประชาชน พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคพัฒนาคุณภาพชีวิต และพรรคพลังชล โดยไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัว ส่วนการจราจรเป็นไปตามปกติ

 

ไพบูลย์ - รสนา - คำนูณ สำรวจบ้าง เจอตำรวจโห่ไล่

ในช่วงบ่าย สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน พร้อมด้วย น.ส.รสนา โตสิตระกูล นายคำนูณ สิทธิสมาน เดินทางไปยังศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงเพื่อตรวจพื้นที่ ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่ม คปท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างที่ กกต. ดำเนินการจับสลากหมายเลขประจำพรรคการเมือง ในการรับสมัคร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ โดยมี พ.ต.อ.วัลลพ จำนงค์อาษา รองผู้บังคับการตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชน ได้นำตรวจความเสียหายทั้งสถานที่ ทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ รวมถึงรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่บริเวณโดยรอบ ซึ่งระหว่างการเดินตรวจสอบความเสียหายพื้นที่โดยรอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาประจำภายในศูนเยาวชนฯ ได้ส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ กลุ่ม 40 ส.ว. ซึ่ง พันตำรวจเอก วัลลพ ต้องเข้ามาห้ามปราม

ทั้งนี้ในไทยรัฐออนไลน์ มีการรายงานคลิปช่วงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการตรวจพื้นที่เสร็จเรียบร้อย นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนเองลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวาน (26 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ในฐานะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้ตรวจสอบรถเก็บอาวุธ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ยืนยันว่าไม่ได้นำมาใช้ในเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุม ทั้งนี้ทางกรรมาธิการ มีมติจะพิจารณาเหตุปะทะโดยรวม ตั้งแต่ฝ่ายนโยบายรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้บังคับบัญชาที่ควบคุมรถขนอาวุธที่ถูกยึด พร้อมทั้งเข้าใจการทำหน้าที่ของตำรวจโดยจะนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวล โดยกรรมาธิการจะมุ่งตรวจสอบไปที่ผู้สั่งการ โดยจะมีการประชุมในวันที่ 6 ม.ค. 57 เวลา 10.00 น.

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบเห็นกระสุนปืนลูกซอง 124 นัด ที่เป็นกระสุนจริงอยู่ในรถเก็บอาวุธ ซึ่งทางตำรวจยืนยันว่า ไม่ได้ใช้ในเหตุการณ์วานนี้ ซึ่งตนเองเห็นด้วยกับทางตำรวจ เนื่องจากวานนี้ไม่พบการใช้ปืนลูกซอง ส่วนกระสุนชนิดอื่นที่ปรากฏนั้นตนเองไม่เห็นอาวุธ แต่จะมีการตรวจสอบต่อไป ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

ทบ. ชี้แจงคลิปทหารรักษาอาวุธให้ตำรวจกันผู้นำไปใช้ในทางมิชอบ

วันเดียวกัน ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเจ้าหน้าที่ทหารมีการเก็บอาวุธต่างๆ ออกจากรถตำรวจว่า จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อ 26 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา เมื่อสถานการณ์การปะทะเริ่มรุนแรงมากขึ้น จนสุดท้ายกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถผ่านเข้ามาในบริเวณสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง จนถึงอาคารกีฬาเวสน์ 1 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับตัวอาคารสถานที่ และมีจัดตั้งจุดดูแลเจ้าหน้าที่ และช่วยเหลือประชาชนอยู่บริเวณด้านใน เพื่อเป็นการลดการเผชิญหน้ากัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตัดสินใจถอนกำลังออกจากบริเวณดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คับขันและเร่งรีบ เจ้าหน้าที่ตำรวจมิได้นำเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับควบคุมฝูงชนบางส่วนไป โดยเฉพาะในส่วนที่เก็บไว้บนรถจึงได้ทิ้งไว้ภายในพื้นที่ ซึ่งมีประชาชนบางส่วนพบเห็นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารที่รักษาความปลอดภัยอยู่ภายใน โดยเจ้าหน้าที่ทหารเห็นว่า เป็นอุปกรณ์ของราชการและบางส่วนอาจเป็นวัตถุอันตรายต่ออาคารสถานที่หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดได้ และเกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้อาจมีผู้หนึ่งผู้ใดแอบเข้ามาเก็บและนำไปใช้ในทางมิชอบได้ เพื่อความปลอดภัยต่อส่วนรวมจึงจำเป็นต้องเก็บรวบรวมเพื่อดำเนินการส่งคืนให้ทางตำรวจต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้ส่งคืนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ไมเคิล ยอน นักเขียนและบล็อกเกอร์ชาวสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ภาพและเขียนคำบรรยายภาพอ้างว่า "กองทัพไทยร่วมมือกับผู้ประท้วงต่อต้านตำรวจวันนี้" และระบุว่า "กองทัพไทยได้แสดงอาวุธและกระสุนที่ยึดมาได้จากตำรวจบ่ายนี้ กองทัพไม่ได้ต่อสู้กับตำรวจตรงๆ แต่พวกเขาไม่เข้าช่วยในขณะที่ตำรวจถูกโจมตี เพียงแต่ออกมาอยู่ห่างๆ" นอกจากนี้ยังมีการแชร์คลิปในสื่อออนไลน์อื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามต่อมามีการปฏิเสธข่าวจากกองทัพบกดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net