Skip to main content
sharethis

ปิดฉากปี 2554 ชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็พบกับงานใหญ่ในแทบจะทันที เนื่องเพราะส่งท้ายปีเก่า 2554 ได้ไม่กี่วัน พอถึงวันที่ 4–5 มกราคม 2555 ก็จะมีการระดมพลคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากถึง 1,000 คน มาร่วมงาน “สมัชชาปฏิรูปเฉพาะประเด็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้” ด้วยจำนวนคนมากมายขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่งานนี้จะใช้งบประมาณสูงถึง 1 ล้านบาท คำถามก็คือว่า คนจำนวนนี้มาจากไหนกัน เมื่อดูถึงกลุ่มเป้าหมายที่ผู้จัดงานวางไว้ก็พบว่า ประกอบด้วย กลุ่มคนทำงานภาคประชาสังคมใน 3 จังหวัด กลุ่มผู้ได้รับการเยียวยาและครอบครัว กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และกลุ่มนักศึกษา นับว่าครอบคลุมกลุ่มคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกกลุ่ม ประเด็นหลักในการระดมพลคราวนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า “ชายแดนใต้ไม่ทอดทิ้งกัน” เนื้อหาของงานมีอยู่ 5 ประเด็นหลักๆ ประเด็นแรก รำลึก 8 ปีไฟใต้ ประเด็นต่อมา สำรวจทบทวนกระบวนการช่วยเหลือเยียวยาผู้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ การบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงหลายฉบับในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 และปัญหาการใช้ที่ดินและทรัพยากร ประเด็นที่สาม ร่วมกันประกาศข้อเสนอเชิงนโยบาย ให้ยกเลิกการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเด็นที่สี่ ประกาศปฏิญญาเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นและประชาสังคมชายแดนใต้ “การปฏิรูปโครงสร้างอำนาจเพื่อสร้างความเป็นธรรม ลดความเลื่อมล้ำ” ภายใต้กระบวนการสมัชชาปฏิรูป ประเด็นที่ห้า เป็นการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณชนทั่วประเทศ ในส่วนของรูปแบบ เริ่มต้นวันแรก วันที่ 4 มกราคม 2554 เปิดด้วยการรำลึก 8 ปีไฟใต้ ผ่านการแสดงโหมโรง ในรูปของละครและการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ตามด้วยปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ชายแดนใต้ไม่ทอดทิ้งกัน” โดยนายแพทย์ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป จากนั้นเข้าสู่กระบวนการ “ชายแดนใต้ไม่ทอดทิ้งกัน” ผ่านเสียงสะท้อนความรู้สึกจากผู้ได้รับผลกระทบต่อการได้รับการเยียวยา และบอกเล่าผลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยลม้าย มานะการ และอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ต่อด้วยการประกาศข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการใช้กฎหมายพิเศษ และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 จากสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ปิดท้ายวันแรกด้วยคำถาม เราคิดอย่างไรกับการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงหลากหลายฉบับในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านเวทีอภิปรายที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ไล่มาตั้งแต่พรเพ็ญ คงสกุลเกียรติ จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม อนุกูล อาแวปูเต๊ะ จากศูนย์ทนายความมุสลิม และตัวแทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีนายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป ประธานสมัชชาปฏิรูปเฉพาะประเด็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย เริ่มต้นวันที่สอง วันที่ 5 มกราคม 2554 ด้วยปาฐกถาพิเศษ “สิทธิเสรีภาพของประชาชนในศาสนาอิสลาม” โดยดร.อิสมาแอลลุตฟี จะปะกียา ต่อด้วยการแสดงอานาซีดกอมปัง เข้าสู่เนื้อหาการปฏิรูป ด้วยวีดีทัศน์ “ทำไมต้องกระจายอำนาจ” ตามด้วยการนำเสนอรูปแบบการกระจายอำนาจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตต์ภิรมย์ศรี จากนั้นเป็นการอภิปรายเรื่อง “ทางเลือกการกระจายอำนาจในรูปแบบพิเศษจังหวัดชายแดนใต้: มุมมองที่หลากหลาย” ผู้อภิปรายประกอบด้วย พงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมาหดไทย สวิง ตัยอุด ผู้อำนวยการสถาบันการจัดการทางสังคม ผศ.ดร.บุษบง ชัยเจริญวัฒนะ นายกสมาคมรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ภาคใต้ พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม จากภาคประชาสังคมชายแดนใต้ มีอาจารย์ฮาฟิส สาและ เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย ปิดท้ายด้วยการประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ จากนั้นตลอดปี 2555 กระบวนการปฏิรูป ก็จะเคลื่อนพลลงสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านการจัดเวทีระดมความเห็นจากชาวบ้านจำนวน 200 เวที ครอบคลุมทุกพื้นที่ และทุกกลุ่มคน ความคิดความเห็นที่ได้ทั้งหมด จะถูกนำมาประมวลวิเคราะห์และสังเคราะห์ จัดทำเป็นข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างการบริหารจัดการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันเป็นข้อเสนอที่จะถูกระดมขึ้นมาจากเสียงของคนในพื้นที่แท้ๆ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net