Skip to main content
sharethis

ส.ส.ก้าวไกลเดินหน้ายื่นร่างกฎหมาย 9 ฉบับ ‘ปลดล็อกท้องถิ่น-ป้องกันทุจริต-ความหลากหลาย’ เข้าสภาทั้งกฎหมายกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น, ร่างพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงร่างสมรสเท่าเทียมที่พิจารณาค้างอยู่เพื่อยืนยันก่อนหลุดออกจากสภา และกฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ที่เคยถูกตีตกเอากลับเข้ามาใหม่หลังแก้แล้ว

9 ส.ค. 2566 ฝ่ายสื่อสารของพรรคก้าวไกลรายงานว่า ที่รัฐสภา เกียกกาย ส.ส.ของพรรคยื่นชุดร่างกฎหมายจำนวน 3 ชุดเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งกฎหมายปลดล็อกท้องถิ่น 4 ฉบับ ชุดกฎหมายป้องกันการทุจริต 2 ฉบับ และชุดกฎหมายโอบรับความหลากหลาย 3 ฉบับรวมทั้งจำนวน 9 ฉบับ โดยในวันนี้มีตัวแทนของประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้รับ

พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมแถลงข่าวเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว

พริษฐ์กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเตรียมชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศไว้ทั้งหมด 14 ชุด สอดคล้องกับ 300 นโยบายที่พรรคได้เสนอต่อประชาชน โดยเมื่อ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ยื่นต่อสภาไปแล้วจำนวน 2 ชุด ได้แก่ ชุดกฎหมายปฏิรูปกองทัพ และชุดกฎหมายปิดช่องทุนผูกขาด รวม 7 ร่าง

สำหรับความคืบหน้าของร่างที่ยื่นไปก่อนหน้านี้ ได้รับแจ้งว่าจำนวน 2 จาก 7 ร่าง อาจถูกวินิจฉัยว่าเป็นร่าง พ.ร.บ. เกี่ยวด้วยการเงิน ที่ต้องส่งให้นายกฯ รับรองก่อนบรรจุเข้าระเบียบวาระ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหาร ที่จะนำไปสู่การยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร และ ร่าง พ.ร.บ. ยกเลิก พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ที่จะนำไปสู่การยุบ กอ.รมน. แม้ ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคนเคยแสดงออกก่อนหน้านี้ว่าไม่เห็นด้วยกับกลไกนี้ แต่หากพยายามทำความเข้าใจเจตนาของกลไกนี้ จะเห็นว่าเจตนาหลักคือการเขียนกติกาเพื่อไม่ให้สภาผ่านกฎหมายที่ไปผูกมัดฝ่ายบริหารเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ

เมื่อคำนึงถึงเจตนาดังกล่าว จึงหวังว่าจะไม่มีเหตุผลใดๆ ที่นายกฯ ไม่รับรอง 2 ร่างดังกล่าว ด้วย 2 เหตุผล เหตุผลที่หนึ่งคือเนื้อหาสาระ ไม่ได้มีอะไรผูกมัดการจัดสรรงบประมาณของฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะเป็นร่างเสนอให้ยุบ กอ.รมน. ซึ่งน่าจะเป็นการลดภาระงบประมาณของฝ่ายบริหารด้วยซ้ำ ส่วนร่างยกเลิกเกณฑ์ทหาร ก็ไม่แน่ชัดว่าจะเพิ่มภาระงบประมาณเสมอไป เพราะแม้มีมาตราที่ขอให้ฝ่ายบริหารทบทวนค่าตอบแทน สวัสดิการของพลทหารให้สอดคล้องกับค่าครองชีพและภาระงานมากขึ้น แต่อีกข้อเสนอหนึ่งคือการลดจำนวนกำลังพลที่กองทัพขอเกินกว่าที่จำเป็นในการรักษาความมั่นคง จึงไม่ปรากฏชัดว่าการยกเลิกเกณฑ์ทหารจะเป็นการเพิ่มภาระงบประมาณ

เหตุผลที่สอง หากพิจารณาจังหวะในการยื่นร่าง แม้ขณะนี้นายกฯ รักษาการอาจมีอำนาจเชิงกฎหมายในการตีความว่าจะรับรองร่าง พ.ร.บ. การเงินเหล่านี้หรือไม่ แต่ตนหวังว่าจะไม่ใช้อำนาจดังกล่าวไปผูกมัดหรือขัดขวางเจตจำนงของรัฐบาลใหม่ และหากนายกฯ รักษาการกังวลว่าสภาจะผ่านกฎหมายที่ผูกมัดรัฐบาลใหม่หรือไม่ ก็ขอคลายข้อกังวลนี้ด้วยการชี้แจงว่าท้ายสุดแล้ว ไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ต้องประกอบไปด้วยพรรคการเมืองที่มีตัวแทนในสภาอยู่แล้ว หากกฎหมายนี้ถูกพิจารณาในสภา ส.ส. ของแต่ละพรรคก็สามารถใช้ดุลพินิจตัดสินใจก่อนลงมติได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับกฎหมายและนโยบายดังกล่าวหากเข้ามาเป็นรัฐบาล ดังนั้น จึงหวังว่านายกฯ รักษาการจะไม่ใช้อำนาจดังกล่าวในการขัดขวางร่างกฎหมาย 2 ฉบับนี้

พริษฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนวันนี้ พรรคก้าวไกลเดินหน้าเสนอชุดกฎหมายเพิ่มอีก 3 ชุด จำนวน 9 ร่าง ประกอบด้วย ชุดปลดล็อกท้องถิ่น 4 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ร่าง พ.ร.บ. การขนส่งทางบก, ร่าง พ.ร.บ. ถนน, ร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ ชุดป้องกันการทุจริต 2 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ พ.ร.บ. และ ร่าง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน และชุดโอบรับความหลากหลาย 3 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือร่างสมรสเท่าเทียม, ร่าง พ.ร.บ. การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ และร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง

ด้านธัญวัจน์ ในฐานะผู้เสนอร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ชัดเจน ส่งผลให้การตั้ง ครม. ไม่เป็นไปตามกรอบเวลาที่ควรจะเป็น และส่งผลให้ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมที่ค้างพิจารณาจากสภาชุดที่แล้ว และต้องยืนยันภายใน 60 วันหลังจากที่มีการเปิดสมัยประชุมสภาคือภายในต้นเดือนกันยายนนี้ หากไม่มีการยืนยันเสนอร่างสมรสเท่าเทียมก็จะทำให้ร่างตกไป ดังนั้นการยื่นกฎหมายในวันนี้ จึงเป็นการทำคู่ขนานเพื่อลดความเสี่ยงจากการเมืองที่ไม่แน่นอน

ขณะที่มานพ ในฐานะประธานเครือข่ายชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ในสภาชุดแล้วพรรคได้เสนอร่างกฎหมายและถูกตีความว่าเป็นร่างการเงิน ทำให้ในสมัยสภานี้ พรรคก้าวไกลได้แก้ไขปรับปรุงและเสนอกฎหมายต่อรัฐสภาอีกครั้ง ขณะที่เลาฟั้ง กล่าวว่า เนื่องในวันที่ 9 สิงหาคม เป็นวันชนเผ่าพื้นเมืองสากล จึงถือโอกาสสำคัญนี้เสนอร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง โดยกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเข้าถึงโอกาสของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net