19 ธ.ค. 52 - มีรายงานข่าวว่าแรงงานพม่าจำนวนกว่า 2,000 คน ได้มาชุมนุมประท้วงหยุดงานภายในโรงงานท็อปฟร์อมบราเซีย แม่สอด จำกัด (โรงงานผลิตเสื้อชั้นในของผู้หญิง) เลขที่ 192 / 142 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จ.ตาก โดยหยุดงานออกมารวมตัวกันบริเวณลานหน้าโรงงาน เนื่องจาก ไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน ได้ทำร้ายญาติแรงงานหญิงชาวพม่าคนหนึ่งในโรงงาน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน   และหนีไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมียวดี พม่า ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด 1 คน ขณะที่อีก 1 คน สูญหายไป ในระหว่างการชุมนุมประท้วงนั้น พ.ต.อ.พศวัต แตงจุ้ย ผกก.สภ.แม่สอด และแกนนำหมู่บ้านไปเจรจากับตัวแทนแรงงานพม่า   โดยฝ่ายแรงงานพม่าต้องการให้เอาญาติแรงงานที่สูญหายไปมาให้ดูว่า ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ถ้าไม่นำมาจะชุมนุมประท้วงต่อไป

 

รายงานข่าวแจ้งว่า การชุมนุมประท้วงดังกล่าวได้เริ่มมาตั้งแต่ตอนดึกคืนที่ผ่านมา และยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้ โดยมี เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รวมทั้ง อส. ต้องใช้กำลังราว 500 นาย เข้าไปควบคุมสถานการณ์

 

เวลาประมาณ 17.00 น. สำนักข่าวเนชั่น รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้นำตัวนายวอ ญาติแรงงานพม่าในโรงงานท๊อปฟร์อมบราเซีย แม่สอด จำกัด ซึ่งแรงงานพม่าเข้าใจว่า สูญหายไป และอาจจะถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตไปให้ญาติๆ และเพื่อนแรงงานดูที่ สภ.แม่สอด หลังจากที่แรงงานพม่ากว่า 2,000 คน ชุมนุมประท้วงหยุดงานภายในโรงงานตั้งแต่เช้า และสลายตัวไปช่วงบ่าย

 

โดยนายวอ กล่าวว่า ได้นำแผ่นซีดีเพลงไปกับ นายกอลา เพื่อไปให้พี่สาวนายกอลา แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ยอม และ มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น จนไปสู่การทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนเองได้รับบาดเจ็บ จึงได้หลบหนีไปหลังจากเกิดเหตุ

 

สำหรับการติดตามตามจับกุมยามรักษาความปลอดภัยของบริษัทนั้น ทางตำรวจ สภ.แม่สอด ได้จับกุมยามรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอด ทั้งหมด 4 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย หลังจากที่กลุ่มตัวแทนแรงงานพม่า ได้เห็นตัวนายวอ แล้ว ต่างมีความพอใจ และรับปากที่จะไปบอกกับเพื่อนๆแรงงานที่โรงงาน เพื่อไม่ต้องชุมนุมประท้วงอีกต่อไป

จากนั้นในเวลาประมาณ 17.50 น. สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์รายงานว่า แรงงานต่างด้าวชาวพม่า ที่ปิดโรงงานประท้วงที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ยอมสลายการชุมนุมแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันจะติดตามจับกุมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงานที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายภายใน 3 วัน และติดตามหาตัวแรงงานพม่าที่สูญหายไป ให้ได้โดยเร็ว ขณะที่เจ้าของโรงงานได้ยินยอมเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดเก่า ทั้งหมด และปรับเปลี่ยนระเบียบกฎเกณฑ์การเข้า-ออก โรงงาน รวมทั้งยินยอมเพิ่มเงินสวัสดิการให้แก่แรงงานต่างด้าวชาวพม่าด้วย

 

ทั้งนี้เวบไซต์แนวหน้า ได้รายงานว่านายพงษ์ศักดิ์ เปล่งแสง ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน และโฆษกระทรวงแรงงาน ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีที่แรงงานต่างด้าวชาวพม่ากว่า 2.000 คน ชุมนุมประท้วงหยุดงานอยู่บริเวณหน้าโรงงานท็อปฟอร์ม อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า เรื่องดังกล่าวยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับที่แรงงานต่างด้าวไม่พอใจในเรื่อง การพิสูจน์สัญชาติ แต่เป็นเรื่องที่เกิดจากเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของบริษัททะเลาะกับญาติของ แรงงานต่างด้าวและเกิดการทำร้ายกันขึ้น จนแรงงานต่างด้าวไม่พอใจและชุมนุมประท้วงจนบานปลาย ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะให้ตรวจสอบรายละเอียดของสาเหตุที่แท้จริงว่าการชุมนุม ประท้วงมีสาเหตุอื่น เช่น การจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม การกดขี่แรงงานด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แรงงานที่ประท้วงนั้นเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนความเสียหายที่แรงงานต่างด้าวทำลายทรัพย์สินของนายจ้างนั้นก็คงต้อง ดำเนินการตามกฎหมายของประเทศไทย

 

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงแรงงานจะร่วมมือกับนายจ้างสถานประกอบการและชุมชนรอบข้างใช้กระบวนการ สร้างความไว้วางใจให้กับแรงงานต่างด้าว เนื่องจากแรงงานต่างด้าวไม่ให้เกิดความกังวลใจในเรื่องความปลอดภัยของชีวิต และความมั่นคงในการทำงาน เมื่อเกิดการรับรู้ข้อมูลที่สับสน ซึ่งอาจก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงและลุกลามได้ ทั้งนี้ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนี เข้าเมือง หรื กบร.ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ เพื่อนำแนวทางดังกล่าวไปใช้ในการป้องกันเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของแรงงาน ต่างด้าว