Skip to main content
sharethis

'มาร์ค' ปัดรัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับ “ศิวรักษ์” ยันข้อมูลการบินไม่ใช่ความลับเป็นของเปิดเผย ถือเป็นเรื่องดีที่ได้อภัยโทษ "เรื่องจะได้จบลง" ลั่นหากทักษิณบินผ่านไทยอีก พร้อมจะจับกุมเพราะหนีคดี ขณะที่รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศ และเลขา "กษิต" โดดป้อง 'คำรบ' ทำตามกรอบการทูต รองโฆษกฯ กต. ยันหลังถูกขับออกกัมพูชาเจ้าตัวยังมาทำงานที่กระทรวงทุกวัน

 

กษัตริย์กัมพูชาให้อภัยโทษ “ศิวรักษ์” มาร์คถือเป็นเรื่องดีจะได้จบลง

สำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรี รายงานว่า เมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) เวลา 15.45 น. ที่เมืองทองธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวกษัตริย์กัมพูชาพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย หลังถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก 7 ปี ในข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเห็นมีข่าวเบื้องต้นอยู่ ถ้าเป็นจริงถือเป็นเรื่องดี ในที่สุดเรื่องจะได้จบลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าจะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปขยายผลหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือให้นายศิวรักษ์ได้รับอิสรภาพส่วนที่เหลือเป็นเรื่องข้อเท็จจริง ซึ่งรัฐบาลไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการนำคำพูดของนายศิวรักษ์ ซึ่งกล่าวหาว่านายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เป็นผู้ออกคำสั่ง อาจส่งผลกระทบต่อรัฐบาลได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะดูนายศิวรักษ์ยืนยันมาตลอดว่าสิ่งที่ทำไปนั้นไม่ได้นำความลับออกมา แต่เมื่อศาลได้ตัดสินว่าอาจกระทบกระเทือนต่อความปลอดภัยของพ.ต.ท.ทักษิณ เลยลงโทษ ส่วนนี้ถือเป็นดุลยพินิจของศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายศิวรักษ์ ยอมรับความผิดน่าจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายศิวรักษ์ คงยืนยันตามข้อเท็จจริงเดิม ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร

 

โบ้ยพ้นรัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้อง ตารางการบินเป็นข้อมูลเปิดเผย

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายศิวรักษ์ ได้เซ็นยอมรับผิดไปแล้ว ผลที่ตามมาย่อมกระทบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของศาล ส่วนรัฐบาลไทยขอยืนยันข้อเท็จจริงว่าไม่มีปัญหา รัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะไปเอาความลับหรืออะไรออกมา เพราะมันเป็นข้อมูลที่เปิดเผยอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะชี้แจงให้เกิดความเข้าใจได้อย่างไรในเมื่อเรื่องโยงใยถึงนายคำรบ ในเรื่องการล้วงข้อมูลความลับของกัมพูชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ไม่มีความลับอะไร เครื่องบินที่จะบินเข้ามาต้องแจ้งเราอยู่แล้ว

 

ปัดให้ “คำรบ” แจง เชื่อทุกคนมองเห็นความไม่ปกติของเรื่องที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ เรียกร้องให้นายคำรบ ออกมาร่วมรับผิดชอบ ตรงนี้จะชี้แจงอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันเป็นความคิดเห็น แต่ตนคิดว่าทุกคนพอจะมองออกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นมาอย่างไร เพราะเห็นความไม่ปกติหลายเรื่องอยู่แล้วในกรณีที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลที่จะชี้แจงในเรื่องนี้หรือไม่ โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับนานาชาติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่กังวลต่อการชี้แจง เพราะรัฐบาลไม่มีส่วนไปสร้างปัญหา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นคิดว่าไล่เรียงไปได้ว่าที่มาเป็นอย่างไร คิดว่านานาชาติเข้าใจดีว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ทำอะไรที่กระทบกระเทือนอยู่แล้ว และผมไม่คิดว่าจะมีผลอะไรตามมา แต่มันอาจมีคนบางคนอยากเอาไปเล่นการเมือง ซึ่งผมคิดว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร”

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการปล่อยตัวจะทำให้ไทยกับกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จริงๆ ขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลไทยดำเนินการ ไม่ได้มีประเด็นปัญหาเพิ่มเติม สิ่งที่เราจำเป็นต้องทบทวนก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องแสดงออกต่อการตัดสินใจของกัมพูชา ส่วนเรื่องนายศิวรักษ์ ถือว่าจบไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า แม้จะมีการปล่อยตัวนายศิวรักษ์แล้ว ท่าทีต่อกัมพูชา เรายังยืนยันในจุดยืนเดิมใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราไม่ใช่ฝ่ายที่มีปัญหา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ต้นเหตุไม่ได้มาจากเรื่องนายศิวรักษ์ แต่เป็นเรื่องอื่นเป็นเรื่องเฉพาะที่เกิดขึ้น เราไม่ได้เป็นฝ่ายที่ไปขยายประเด็น เพราะฉะนั้นทุกเรื่องรัฐบาลไทยยังยืนยันว่าต้องการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และไม่ไปก้าวล่วงในส่วนของกัมพูชา แต่อะไรที่จำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนคนไทย เราจำเป็นต้องมีความเข้มแข็ง

 

ลั่นหากทักษิณบินผ่านไทย พร้อมจะจับกุมเพราะหนีคดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมากัมพูชาอีกครั้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาหรือไม่ เพราะข่าวมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแต่ถ้ามา เราก็ดำเนินการตามปกติ ตามอำนาจหน้าที่และสิทธิที่พึงกระทำตามกฎหมาย

ต่อข้อถามว่า หากเครื่องบินบินผ่านน่านฟ้าไทยจะส่งเครื่องบินเอฟ 16 บินประกบและจับกุมตัวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ถ้าผ่านมายังน่านฟ้าไทย เราก็ต้องพยายามที่จะจับกุม เพราะเป็นคนที่หนีคดี”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ไปถึงกัมพูชา ไทยจะยื่นหนังสือขอตัวมาดำเนินคดีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น่าจะทำแบบนั้น

 

รองโฆษกฯ กต.ป้อง “คำรบ” ยันมารายงานตัวที่กระทรวงทุกวัน

ขณะที่นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องของนางสิมารักษ์ที่ขอไม่รับความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศว่า ทางกระทรวงยังคงพร้อมให้ความร่วมมือช่วยเหลือต่อไปเต็มที่ โดย น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุลยังอยู่กับมารดานายศิวรักษ์ตลอด แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับครอบครัวนายศิวรักษ์จะตัดสินใจอย่างไร หากต้องการให้รัฐบาลยื่นขอพระราชทานอภัยโทษคู่ขนานกับพรรคเพื่อไทยกระทรวงการต่างประเทศก็ยินดีดำเนินการ

"ตามขั้นตอนขอพระราชทานอภัยโทษตามหลักการแล้ว เมื่อนายศิวรักษ์หรือครอบครัวทำหนังสือเรียบร้อยแล้ว ทางเรือนจำจะยื่นต่อไปยังกระทรวงยุติธรรมกัมพูชา จากนั้นส่งต่อไปยังรัฐบาลเพื่อเสนอความเห็นกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ ต่อไป"

เมื่อถามว่า นางสิมารักษ์เรียกร้องให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอก ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย แสดงความรับผิดชอบ นายธานีกล่าวว่า เข้าใจในความรู้สึกของความเป็นแม่ แต่ในส่วนของนายคำรบถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ปกติตามกรอบนักการทูต จึงไม่จำเป็นต้องออกมาชี้แจงอะไรเพิ่มเติม และเห็นว่าควรต้องพิจารณาด้วยว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุใด ปัจจุบันหลังจากนายคำรบกลับมาถึงไทย ก็ได้เข้ามารายงานตัวที่กระทรวงและทำงานอยู่ทุกวัน

 

“ชวนนท์” ป้อง “คำรบ” ทำตามกรอบการทูต ยันรัฐบาลไม่ได้ทำให้ศิวรักษ์ตกระกำลำบาก

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) ถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศและนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอก ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ตกเป็นเป้าถูกเรียกร้องให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าสิ่งที่นายคำรบดำเนินการเป็นการดำเนินการตามปกติไม่ได้ทำอะไร ผิดกฎหมายของกัมพูชา ทำตามกรอบเจ้าหน้าที่การทูต ไม่ได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่ขัดต่อหลักกฎหมาย หรือจะเป็นการใช้ความพยายามเกินหน้าที่ในการเข้าถึงข้อมูล และบอกอีกว่า รัฐบาลอธิบายเรื่องนี้ได้

“คำพิพากษาเป็นเรื่องระหว่างศาลและคุณศิวรักษ์ เราก็ยอมรับคำพิพากษาและคุณศิวรักษ์ก็ยอมรับผิดไปแล้ว ก็ขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว ก็จบไปแล้ว ในส่วนรัฐบาลเราก็ยืนยันไม่ได้มีส่วนหนึ่งส่วนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำให้คุณศิวรักษ์ตกระกำลำบากเพราะเราไม่ได้มีคำสั่งจากกระทรวงฯ และคุณคำรบก็เล่าให้เราฟังทุกอย่างว่าดำเนินการทุกอย่างตามปกติตามหน้าที่”

นายชวนนท์ บอกอีกว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติแต่เป็นการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ทั่วไป ที่มีการหาข้อมูลประกอบการทำงานของเจ้าหน้าที่สถานทูตทุกท่านเป็นเรื่องปกติ

ส่วนเรื่องที่นางสิมารักษ์ระบุว่านายคำรบมีส่วนทำให้ลูกชายของตนถูก ดำเนินคดีนั้น นายชวนนท์ให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องความอัดอั้นจากหัวอกของคนเป็นแม่ แต่จนถึงตอนนี้นางสิมารักษ์คงสบายใจขึ้นแล้ว และคำพิพากษาของศาลกัมพูชา ไม่ได้มีอะไรพาดพิงกระทรวงการต่างประเทศ

“ผมคิดว่าการที่คุณศิวรักษ์ให้การในศาลและสิ่งที่คุณคำรบดำเนินการก็ เป็นเรื่องที่ตรงกัน ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ดูแล้วเป็นการโจรกรรม หรือเป็นเรื่องนำข้อมูลที่เป็นภัยต่อความมั่นคง แต่อย่างไรก็ดี ผมยืนยันนะครับว่า เมื่อมีการตัดสินของศาล ก็เป็นเรื่องระหว่างศาลกัมพูชาที่พิจารณาการดำเนินการของคุณศิวรักษ์ ซึ่งเราก็ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวไม่เข้าไปวิจารณ์ แล้วก็ยอมรับในคำตัดสินของศาลรวมทั้งขั้นตอนขอพระราชทานอภัยโทษซึ่งก็ลงเอย ด้วยดีครับ” นายชวนนท์กล่าว

โดยเลขานุการการต่างประเทศของไทยเปิดเผยอีกว่า การที่นายศิวรักษ์ได้รับอิสรภาพก็ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายและไม่ควรจะนำมาโยง เป็นเรื่องการเมือง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net