Skip to main content
sharethis

คณะรณรงค์แก้อำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ พบพรรคก้าวไกลชวนโหวต 3 วาระแก้รัฐธรรมนูญ ม.272 ยกเลิกส.ว.เลือกนายกฯ ชี้กระแสประยุทธ์ตกต่ำ ส.ว.อย่าฝืนความต้องการประชาชน ล่าสุดมีประชาชนร่วมลงชื่อแล้ว 66,000 คน ด้านก้าวไกลรับพร้อมหนุนเต็มที่พร้อมเตือน ส.ว.ฟังเสียงประชาชน

1 ก.พ.2565 เวลา 13.00 น. ที่พรรคก้าวไกล คณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 272 นำโดย รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร, เมธา มาสขาว, ณัฐวุฒิ ธารสุนทร, กัณตพัฒน์ เตชะกมลสุข และรวิโชติ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เข้าพบแกนนำพรรคก้าวไกล เพื่อรณรงค์ให้ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ โดยมี ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ณัฐวุฒิ บัวประทุม ธีรัจชัย พันธุมาศ และรังสิมันต์ โรม ส.ส.ชองพรรคร่วมพูดคุย

สมชัย ศรีสุทธิยากร กล่าวว่า คณะฯ มีภารกิจเฉพาะหน้าคือการแก้ไขมาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี และต้องการให้พรรคก้าวไกล และพรรคการเมืองอื่นๆ สนับสนุน 2 เรื่องนี้คือ

1) การรณรงค์สื่อสารให้ประชาชนช่วยกันเข้าชื่อ ขณะนี้ มีประชาชนที่มาร่วมลงชื่อไปแล้วถึง 66,000 คน และเมื่อครบ 70,000 รายชื่อ คาดว่าในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ คณะฯ จะนำรายชื่อประชาชนทั้งหมดเข้าไปยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

2) เมื่อกฎหมายนี้เข้าสภา อยากเชิญชวนให้พรรคก้าวไกล สนับสนุนผ่านการอภิปรายและลงมติรับในทั้งสามวาระ ให้การเลือกนายกรัฐมนตรีในวันข้างหน้า เลือกกันในสภาโดยที่ ส.ว. ไม่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีก

ชัยธวัช ตุลาธน ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลพร้อมช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อในแคมเปญนี้ และเมื่อกฎหมายเข้าสู่สภา พรรคก้าวไกลก็พร้อมจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ พรรคก้าวไกลมีจุดยืนให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 272 มาตั้งแต่ต้น และที่ผ่านมาก็เคยร่วมผลักดันร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสู่สภา แต่เสียดายที่เสียงส่วนใหญ่ในสภาเวลานั้นยังฝืนความรู้สึกของประชาขน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองที่มีสำคัญ อาจจะเกิดการยุบสภาได้ภายในปีนี้ ประชาชนจำนวนมากกังวลว่า ตราบที่ยังมีกลไกการสืบทอดอำนาจของ ส.ว. อยู่ ก็จะเกิดการบิดเบือนเสียงของประชาชนได้ต่อไปอีกในวันข้างหน้า

ชัยธวัช ยังกล่าวอีกว่า ประชาชนส่วนใหญ่ย่อมเห็นด้วยแน่นอนกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปัญหาในเวลานี้น่าจะอยู่ที่ตัว ส.ว. เอง ที่น่าจะต้องรับฟังเสียงประชาชนมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การยอมรับ พล.อ.ประยุทธ์ตกต่ำขนาดนี้ ส.ว. ไม่ควรฝืนความต้องการของประชาชน และควรคิดได้ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปล่อยให้นายกรัฐมนตรีมาจากความยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง โดยพรรคก้าวไกลจะสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่

เมธา มาสขาว กล่าวว่า วันนี้คณะรณรงค์เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 272 เห็นว่า การยกเลิกอำ นาจ ส.ว.ในการโหวตนายกฯ นั้นเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันและทำได้ง่ายที่สุดในช่วงเวลาที่มีอยู่ เนื่องจากข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในหลายปีที่ผ่านมา ถูกต่อต้านโดยโครงสร้างอำนาจนิยมของ คสช. ที่ส่งต่อให้ ส.ว.ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการเลือกนายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศ จนทำให้พล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจผิดว่าตนเองมาจากเสียงข้างมากของประชาชน นี่คือจุดที่ทำลายระบบรัฐสภาตั้งแต่แรกหลังการเลือกตั้ง 2562 ทำให้เจตจำนงของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยโดยระบบรัฐสภา ไม่สามารถเป็นจริงได้ ดังนั้นเบื้องต้นจะต้องยุติวงจรอุบาทว์นี้ เพื่อยุติระบอบอำนาจนิยม โดยรณรงค์ให้มีการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้และร่วมกันเรียกร้องให้ส.ว.สนับสนุน เพราะที่ผ่านมา ส.ว.เคยยกมือสนับสนุนญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านและของพรรคประชาธิปัตย์ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ จำนวน 50 กว่าคนแล้ว

เมธาระบุว่า วันนี้พรรคก้าวไกลก็มีเจตนารมณ์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่องหลายมาตรา ดังนั้นไม่ต้องถามจุดยืนของพรรคก้าวไกลเหมือนพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่จะร่วมกันทำอย่างไรเพื่อรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจังหลังจากยื่นรัฐสภาเมื่อครบ 70,000 รายชื่อแล้ว โดยเว็บไซต์จะดำเนินการเปิดรับการลงรายชื่อต่อไปเพื่อให้กระแสสังคมช่วยกดดันรัฐสภาอีกทาง

เมธากล่าวต่อว่า ตนวิตกกังวลกับพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่าว่า เมื่อก่อนเคยมีหลักการร่วมกันในการต่อต้านส.ว.โหวตนายกฯ เพราะไม่ได้มาจากประชาชนซึ่งทำให้ พรรคการเมืองเสียงข้างน้อยในสภาได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อสืบทอดอำนาจ แต่ถึงเวลานี้ยังไม่ได้ออกมาร่วมเคลื่อนไหวแสดงเจตนารมณ์เช่นนี้อย่างจริงจังเหมือนเช่นเมื่อปี 2562 ตนจึงอยากเรียกร้องไปยังพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะร่วมกันผลักดันให้ระบบรัฐสภากลับมาสู่ประชาธิปไตย โดยการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้อย่างจริงจังและเรียกร้องไปยังส.ว.ทุกท่าน ซึ่งต้องใช้ 1 ใน 3 ของ ส.ว.ทั้งหมด ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่าเราจะขับเคลื่อนประชาธิปไตยให้เดินหน้าต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก ด้วยหลุมพรางระบอบอำนาจนิยมที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์อีกต่อไป

เมธายังกล่าวให้กำลังใจพรรคการเมืองต่างๆ เดินหน้าร่วมกันต่อไป เนื่องจากถ้ายื่นสภาไปแล้ว หากนายกฯ ยุบสภาเสียก่อน ร่างกฎหมายนี้ก็ยังคงค้างอยู่เพื่อรอรัฐสภาสมัยหน้าพิจารณา ไม่ได้อันตธานหายไปเลย ทราบว่าทุกฝ่ายก็อยากให้มีการยุบสภา และนายกฯ อาจเลือกหนทางยุบสภาก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยหน้า เพื่อหนีความอับอายและพ่ายแพ้ในการโหวตไม่ไว้วางใจและรักษาเกียรติยศไว้ด้วยการยุบสภา แต่คนอย่างประยุทธ์ไม่เหลือเกียรติยศอยู่แล้ว จึงสมควรลาออกเพื่อให้กระบวนการแก้ไขปัญหาต่างๆเดินหน้าไปในเวลาที่เหลืออยู่ อย่าให้ถึงกับต้องมีปืนมาจี้คอให้ลงจากอำนาจเลย เพราะผลการเลือกตั้งในเขตทหารที่ผ่านมา ปรากฏชัดเจนว่านายทหารรุ่นใหม่เป็นนายทหารประชาธิปไตย เป็นทหารอาชีพ ไม่ใช่ทหารการเมืองที่เป็นกลุ่มเสนาพาณิชย์หากินกับผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง จนทำให้กองทัพเสื่อมเสียจนถึงทุกวันนี้

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net