Skip to main content
sharethis

กทม.ตรวจสุขภาพคนงานใกล้ชิดกากแคดเมียม โรงงานย่านบางซื่อ คาดทราบผลที่ชัดเจนหลังสงกรานต์ พร้อมตรวจพนักงานโรงงานใกล้เคียง และสมาชิกครอบครัวคนงานหากมีความกังวล ส่วนน้ำทั้งในและรอบโรงงานไม่พบการปนเปื้อนสารพิษ

 

11 เม.ย. 2567 มติชนออนไลน์ และ เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานเขตบางซื่อ รายงานวันนี้ (11 เม.ย.) สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครตรวจพบสารเคมีประเภทกากแคดเมียมภายใน บริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบสารเคมี จำนวน 190 ถุง น้ำหนักประมาณ 150 ตัน ซึ่งล่าสุด ขณะนี้สำนักงานเขตบางซื่อ ได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่อันตราย ห้ามอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการในพื้นที่ที่กำหนด เนื่องจากเป็นสารเคมีชนิดร้ายแรงและอันตรายต่อชีวิต นอกจากนี้ กทม.ยังจัดเจ้าหน้าที่ชุดตอบโต้ภาวะฉุกเฉินสารเคมีและวัตถุอันตราย พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักอนามัย เข้าดำเนินการในพื้นที่นั้น

ล่าสุดวันนี้ (11 เม.ย.) กรุงเทพมหานคร โดยศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง สำนักอนามัย ร่วมกับกรมควบคุมโรค จัดทีมสอบสวนโรคพร้อมตรวจสุขภาพ เลือด และปัสสาวะของคนงานในโรงเก็บของเก่าที่ค้นพบกากแคดเมียมในย่านบางซื่อ โดยมี ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมอนามัย สถาบันป้องกันและควบคุมโรคเขตเมือง ร่วมคณะตรวจเยี่ยม

ทวิดา ให้สัมภาษณ์กับสื่อเผยว่า เบื้องต้นมีการตรวจคนงาน 12 ราย ที่เป็นพนักงานของโรงงาน คาดว่าจะได้ผลที่ชัดเจนหลังจากช่วงสงกรานต์ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครบ่งบอกว่ามีอาการ 

ทวิดา กมลเวชช (ที่มา: เฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร)

กรณีของสมาชิกครอบครัวของพนักงานของโรงงานล้อโลหะไทยฯ ทั้ง 12 คน หากมีความกังวลเรื่องผลกระทบด้านสุขภาพ หรือกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่มองว่ามีข้อกังวล ก็จะมีการตรวจสุขภาพของสมาชิกครอบครัวพวกเขาด้วยในวันที่ 18 เม.ย.นี้  

ขณะที่อีก 10 รายไม่ได้เป็นพนักงานโรงงาน แต่เป็นพนักงานของโรงงานใกล้เคียง ไม่สะดวกมาตรวจที่ไม่สะดวกมาตรวจที่ศูนย์บริการสาธารณสุข ทาง กทม.จึงได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ไปตรวจให้ที่โรงงานให้ครบถ้วนต่อไป

รองผู้ว่าฯ กทม. ระบุต่อว่า เนื่องด้วยโรงงานล้อโลหะไทยฯ อยู่ติดกับพื้นที่จอดรถของพนักงานรักษาความสะอาดของกรุงเทพมหานครด้วย เพราะฉะนั้น พนักงานรักษาความสะอาด 17 คนก็ให้มาตรวจสุขภาพด้วย ซึ่งพวกเขาก็ต้องเดินทางผ่านเข้า-ออกตัวโรงงานนี้อยู่ด้วย

นอกจากนี้ ทวิดา ระบุว่า มีการตรวจดินและน้ำ 200 เมตรรอบโรงงานแล้ว เบื้องต้น ผลตรวจน้ำ 3 แหล่ง ได้แก่ น้ำในโรงงาน น้ำด้านหน้าโรงงาน และน้ำบริเวณรอบโรงงานรัศมี 200 เมตร ไม่พบสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำแน่นอน

“น้ำทิ้งไม่มีปัญหา น้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาไม่มีปัญหา แหล่งน้ำที่ออกจากโรงงานไม่มีปัญหา และน้ำดื่มสาธารณะที่คนงานได้ดื่มก็ไม่มี” ทวิดา กล่าว และระบุว่า ผลตรวจของดินจะมีการแจ้งอีกครั้ง เบื้องต้น คาดว่าผลการตรวจดินน่าจะได้ภายในเย็นวันนี้ (11 เม.ย.) และถ้าผลดินออกมาแล้ว คิดว่าประชาชนน่าจะสบายใจมากขึ้น

ส่วนกรณีที่มีประชาชนถามว่า ถ้าบ้านอยู่ใกล้บริเวณโรงงานต้องมีการป้องกันตัวอย่างไรบ้าง โดย ทวิดา ระบุว่า ถ้าเข้าไปในโรงงานที่ผลิตหนักๆ แน่นอนต้องมีฝุ่นที่ฟุ้งกระจายก็ต้องควรใส่หน้ากากป้องกันอยู่แล้วไม่ว่ากรณีใดก็ตาม แต่ถ้าในอุตสาหกรรมที่ผลิตโลหะหนัก หน้ากากก็ควรได้มาตรฐานป้องกัน เช่น หน้ากากN95 หน้ากากโรงงาน หน้ากากกันแก๊สอื่นๆ เป็นต้น

(ที่มา: เฟซบุ๊ก สำนักงานเขตบางซื่อ)

แนะวิธีป้องกันเบื้องต้น

ไทยพีบีเอส รายงานวันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.49 น. นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ซึ่งวันนี้ได้ลงพื้นที่ลงพื้นที่เฝ้าระวังสุขภาพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากกากแคดเมียม กล่าวว่า กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักอนามัย เร่งค้นหาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตรวจคัดกรองสุขภาพ และตรวจหาสารแคดเมียมในปัสสาวะของประชาชนเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่ เช่น ความรู้ทั่วไป อันตราย และวิธีการป้องกัน รวมถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกากแคดเมียมส่วนใหญ่เก็บไว้ในถุงบิ๊กแบ็กในโรงงานมิดชิด ประชาชน ทั่วไป จึงมีความเสี่ยงน้อยที่จะสัมผัสหากไม่ได้ทำงานในโรงงาน หรือเตาหลอมโลหะ แต่จะสัมผัสจากการฟุ้งกระจาย ไปติดตามพื้นบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งฟุ้งไปไม่ไกล ซึ่งประชาชนในพื้นที่สามารถป้องกันตัวเองได้

เบื้องต้น แนะนำปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ใช้การดูดฝุ่นหรือผ้าชุบน้ำเช็ด ทำความสะอาดแทนการกวาดบ้าน และหมั่นล้างมือบ่อยๆ ก่อนรับประทานอาหารและดื่มน้ำ ประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงควรสังเกตอาการตนเองหรือหากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ระคายเคืองหลอดลม มีประวัติเข้าใกล้พื้นที่เสี่ยง ขอให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติเสี่ยงทันที

ถุงกากแคดเมียม ในโรงงานล้อโลหะไทยฯ (ที่มา: เฟซบุ๊ก ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย)

ส.ก.บางซื่อ ก้าวไกล แจงปม นามสกุลเดียวกับ เจ้าของโรงงานย่านบางซื่อ

วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.21 น. เพจเฟซบุ๊กสาธารณะของ ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ พรรคก้าวไกล ได้ชี้แจงปม นามสกุลเดียวกับ เจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย เจ้าของโรงงานย่านบางซื่อที่พบกากแคดเมียมในโรงงานนั้นเป็นสมาชิกครอบครัว โดยมีศักดิ์เป็น 'อา' ของเธอ 

ภัทราภรณ์ ชี้แจงยืนยันว่า แม้ว่าอากงของเธอจะทำธุรกิจกงสี หรือค้าของเก่า แต่พ่อของเธอได้แยกตัวออกจากธุรกิจกงสีมาอยู่ที่นนทบุรี เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ขณะที่เธอเองได้ลาออกจากบริษัทของพ่อมากว่า 5 ปีแล้ว จึงยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องธุรกิจค้าของเก่าย่านบางซื่อ หรือสมุทรสาคร

ภัทราภรณ์ ระบุว่า เธอตั้งใจมาเป็น ส.ก. เพราะต้องการให้เขตบางซื่อที่อยู่ตั้งแต่กิดนั้นดีขึ้น ไม่ได้ต้องการเอื้อประโยชน์หรือปกป้องเครือญาติและครอบครัว หากใครทำงานในสำนักงานเขตบางซื่อ และ กทม. ก็น่าจะทราบดี ที่เธอไปลงพื้นที่วันนี้ (11 เม.ย.) เพราะเป็นการทำงานปกติที่ทำมาอยู่ตลอดในเขตในฐานะ ส.ก.อยู่แล้ว เธอเชื่อในความโปร่งใส ตรงไปตรงมา ชัดเจน ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นพ่อ แม่ ครอบครัว หรือญาติกันก็ตาม เมื่อคนเท่ากันก็ต้องเท่ากันในการบังคับใช้กฏหมายทุกมาตรา

ส.ก.บางซื่อ หนุนกฎหมาย PRTR

ส.ก.บางซื่อ ระบุต่อว่า เธอสนับสนุนให้มีการออก พ.ร.บ. รายงานการปลดปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม หรือ PRTR ที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการรายงาน ติดตาม ตรวจสอบ สารมลพิษอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพื่อปกป้องและส่งเสริมพัฒนาความปลอดภัยสาธารณะ

"เนอส (ผู้สื่อข่าว - ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย) คงไม่สามารถเปลี่ยนนามสกุลหรือเลือกจะเป็นญาติ-ตัดญาติกับใครได้ และเธอเลือกทำงานพิสูจน์ตัวเองมา 2 ปีแล้ว จึงขอชี้แจงไว้ตรงนี้ว่าเธอไม่เคยและจะไม่มีการใช้อำนาจมาเอื้อประโยชน์หรือปกป้องใครอย่างแน่นอน

"สุดท้ายนี้ เนอสขอย้ำให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามความถูกต้องของกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันทุกคน" โพสต์ระบุ 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net