ครม.ให้ต่อเวลาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 3 เดือนในสามจังหวัดชายแดนใต้ ถึง 19 ก.ค.67 ยกเว้น 15 อำเภอที่ให้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ตามข้อเสอนของ สมช.ที่ยกเหตุรุนแรง 42 จุดเมื่อวันที่ 22 มี.ค.57 ในการขอให้ ครม.ต่ออายุ 

9 เม.ย.2567 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลเผยแพร่ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ประชุมมติให้ขยายระยะเวลาการใช้ออกอีก  3 เดือนตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ถึง 19 ก.ค. 2567 เป็นการขยายระยะเวลาเป็นครั้งที่ 76 

ทั้งนี้ในรายงานระบุด้วยว่าให้ยกเว้นการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่ทั้งหมด 15 อำเภอด้วยได้แก่ ในจังหวัดนราธิวาส ให้ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน ในจังหวัดปัตตานี ให้ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และในจังหวัดยะลา ให้ยกเว้นอำเภอเบตง อำเภอรามัน อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง

ทั้งนี้การต่ออายุการใช้ครั้งนี้เป็นไปตามข้อเสนอของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยอ้างอิงจากรายงานปฏิบัติการของกองกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) ที่ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ยกสถิติเหตุการณ์ก่อเหตุรุนแรงในช่วงวันที่ 20 ม.ค.-22 มี.ค.2567  ว่าเกิดขึ้นทั้งหมด 11 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 7 ราย แต่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่เห็นว่าการก่อเหตุมีแนวโน้มลดลง

อย่างไรก็ตาม มีการระบุด้วยตาม ที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2567 เกิดการก่อเหตุรุนแรงพร้อมกัน 42 จุด สะท้อนว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีความสามารถและมีกำลังคนในการก่อเหตุได้พร้อมกันหลายพื้นที่และยังปรากฏข้อมูลว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเคลื่อนไหวลักลอบขนอาวุธและสารประกอบระเบิดเพื่อเตรียมการก่อเหตุในบางพื้นที่ต่อไปด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานป้องกัน ระงับและยับยั้งสถานการณ์ในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้มาตรการจับกุมและควบคุมตัวผู้กระทำความผิดเพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อคดีจนนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้จึงเสนอให้ต่อ ครม.ขยายเวลาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไป

ในรายงานระบุด้วยว่าพื้นที่ 15 อำเภอในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานีและยะลาที่ให้ยกเว้นการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินฯ นั้นยังคงมีการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อยู่ด้วย