Skip to main content
sharethis

ส่องพัฒนาการบ้านพักในค่ายของ พลเอกประยุทธ์ ตั้งแต่ปี 52-66 หลังโฆษกกลาโหมออกมาโต้ สส.ก้าวไกลที่ต้องการเข้าถ่ายทำ พร้อมสวนว่า ท่านเป็นองคมนตรีในปัจจุบัน เกรงว่าจะไม่งาม

พื้นที่ ร.1 รอ.ที่คาดว่าเป็นบ้านพักในค่ายของ พลเอกประยุทธ์ ตั้งแต่ปี 52 ถึง 66 ผ่าน Google Earth 

23 ม.ค.2567 จาก จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร สอบถามมายังกระทรวงกลาโหม ว่าจะขอเข้าถ่ายทำบ้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและสนามกอล์ฟ กานตรันต์ (สนามงู) ที่สนามบินดอนเมือง รวมทั้งเรื่องที่พักอาศัยของข้าราชการได้หรือไม่นั้น จนเกิดการตอบโต้ จากจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง ออกมาโต้ว่า การไปถ่ายบ้านผู้ใหญ่บ้านเมืองที่ท่านเป็นองคมนตรีในปัจจุบัน เกรงว่าจะไม่งาม เช่นเดียวกับ ธนกร วังบุญคงชนะ สส.และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ  ว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะ พลเอกประยุทธ์ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหลังได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรีแล้ว นั้น

อย่างไรก็ตามบ้านพักในค่ายทหารกรมทหารราบที่ 1 หรือ ร.1 รอ. ของ พลเอกประยุทธ์ เคยมีประเด็นมาช่วงปี 63 สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านขณะนั้น นำ 55 ส.ส.ฝ่ายค้านร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยการเป็นนายกฯ ของ พลเอกประยุทธ์ ต้องสิ้นสุดลงอาจเป็นการกระทำขัดกันแห่งผลประโยชน์ เนื่องจากยังอยู่บ้านพักทหารทั้งที่ไม่มีสิทธิ์การพักอาศัย เพราะเกษียณอายุราชการไปแล้ว อาจเป็นการกระทำขัดกันแห่งผลประโยชน์ จนต่อมาศาลรัฐธรรมนูญ ชี้มติเอกฉันท์ โดยไม่เสียค่าน้ำค่าไฟ ไม่เป็นความผิด เพราะถือเป็นสิทธิที่กองทัพบก จะจัดให้ อดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูง ซึ่งทำคุณประโยชน์ให้กับกองทัพบก และประเทศชาติ

ภาพพลเอกประยุทธ์กับบ้านพักที่โพสต์ลง https://www.instagram.com/prayutofficial/ ช่วงปี 2561-2562 

มติชนออนไลน์เคยรายงานโดยอ้างถึง หนังสือ ลับ ลวง พราง 5 ศึกชิงอำนาจ ผ่าแผนปฏิวัติเลือด ของ วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง ตีพิมพ์เมื่อเดือนเมษายน ปี 2555 ในช่วงที่ พลเอกประยุทธ์ ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. โดยมี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ ความตอนหนึ่งในหนังสือระบุว่า 

ร.1 รอ.แห่งนี้ เคยเป็นที่พักกบดานของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในระหว่างสู้ศึกกับคนเสื้อแดง จนทำให้เกิดภาพของรัฐบาลที่เกิดในค่ายทหาร แถมยังต้องหนีซุกค่ายทหารอีกด้วย

เนื่องจากดูสถานการณ์บ้านเมืองแล้ว คงมีเรื่องวุ่นรออยู่เบื้องหน้า ประกอบกับบ้านพักที่ พลเอกประยุทธ์ อยู่มาตั้งแต่เป็นแม่ทัพที่ 1 นั้นก็คับแคบ เพราะเป็นบ้านระดับพันโท แม้จะมีการปรับขยายต่อเติมอย่างไรก็ทำอะไรไม่ได้มาก

ที่สำคัญ ชัยภูมิของบ้านหลังนี้ไม่ดี เนื่องจากรายล้อมไปด้วยตึกสูง ทั้งที่เป็นแฟลตพักของทหารในหน่วย และตึกสูงภายนอกหน่วย

ลำพังตึกสูงภายในไม่มีปัญหา เพราะทีมรปภ. สามารถขึ้นไปดูแลได้ แต่ตึกด้านนอกทหารไปดูแลไม่ได้

แม้ต่อมามีการกั้นพื้นที่ไม่ให้เป็นทางผ่าน และสร้างรั้วกัน หากใครแล่นรถมาถึงหน้าบ้าน พลเอกประยุทธ์ ก็ต้องมาบ้านหลังนี้เท่านั้น การจะผ่านมาสังเกตการณ์ จะเป็นที่ผิดสังเกต เพราะปลายซอยถูกทำให้เป็นทางตันต้องกลับรถออกเพื่อการรปภ.

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่ให้ตัวเอง โดยเลือกพื้นที่ใน ร.1 รอ.ที่เดิม แต่ย้ายกระเถิบเข้ามายังด้านหน้าหน่วยริมบึงเพื่อให้มีลมถ่ายเทได้สะดวกและฮวงจุ้ยดีขึ้น เพราะหน้าติดน้ำไว้ก่อน

อาศัยจังหวะที่ พลเอกไพศาล กตัญญ รองผบ.ทบ. เกษียณราชการแล้วย้ายออกไป พลเอกประยุทธ์ ก็ยึดครองแทน

ทั้งอาจมีเรื่องปัญหาขั้วอำนาจ จู่ๆ เมื่อปลายปี 2553 พลเอกประยุทธ์ได้ “ขอคืนพื้นที่” บ้านพักของ “บิ๊กตุ้ย” พลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ.ที่รั้วติดกันคืน เพื่อจะมาขยายพื้นที่และสร้างบ้านของเขาเอง เนื่องจากมีรายงานเข้าหูว่า พลเอกชัยสิทธิ์ ใช้บ้านหลังนี้เป็นที่ประชุมพบปะกันทางการเมืองอยู่เนืองๆ

พลเอกชัยสิทธิ์ ยึดครองมา 5 ปี หลังเกษียณแบบไม่ยอมย้ายออก แต่ไม่มีใครกล้าไล่เนื่องจากให้เกียรติอดีต ผบ.ทบ. แถม พลเอกชัยสิทธิ์ ยังอ้างว่า มีอดีตผบ.ทบ. หลายคนที่ยังไม่ยอมออกจากบ้านหลวง ตั้งแต่ ป๋าเปรม พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ยึดบ้านสี่เสาเทเวศร์มานานกว่า 30 ปี , “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ที่ยังอยู่ในบ้าน ร.1 รอ. โดยยึดเป็นที่ตั้งสำนักงานมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดแบบถาวร, “บิ๊กบัง” พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. ก็ยังอยู่บ้านพักใน ร.11 รอ.บางเขน ตั้งแต่เกษียณไปหลายปีแล้ว

ตามระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติ จะให้เวลาในการเตรียมย้ายออกจากบ้านหลังเกษียณราว 6 เดือน หรือ 1 ปีเท่านั้น ที่เหลือเป็นเรื่องของสปิริต เพราะพล.อ.อนุพงษ์ อดีตผบ.ทบ.ก็ยังอยู่ในบ้าน ร.1 รอ.มาเป็นปีแล้ว

จนที่สุด พลเอกชัยสิทธิ์ ก็ย้ายออกไปอยู่บ้านส่วนตัวย่านรังสิตด้วยใจเจ็บแค้น

พลเอกประยุทธ์ จึงเดินหน้าสร้างบ้านพักหลังใหม่บนเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับการสร้างคฤหาสน์หลังใหญ่ที่จะเป็นทั้งบ้านพัก ห้องประชุมใหญ่ ห้องประชุมลับ ห้องรับรอง ห้องจัดเลี้ยง วอร์รูมและเซฟเฮาส์ที่พร้อมสรรพ และทันสมัย ในแบบประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมจากที่ไหนในโลกได้เลย พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องการพื้นที่บ้าน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ที่ยึดครองอยู่ราว 1 ไร่คืน เพื่อที่จะทลายรั้วและทุบบ้านทิ้ง แล้วสร้างใหม่เต็มพื้นที่นั่นเอง

ก่อนลงจากตำแหน่งนายกฯ 'ประยุทธ์' ยันไม่ออก ระบุใครอยากไล่ให้ไปแก้กฎ-ระเบียบกองทัพบก ถ้าเปลี่ยนได้ก็พร้อมออก

เมื่อ 22 มิ.ย. 2566 ข่าวสดออนไลน์ รายงานด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ว่าหลังพ้นจากอำนาจนายกฯ จะย้ายออกจากบ้านพักภายใน ร.1 ทม.รอ. หรือไม่ โดย พลเอกประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า เป็นเรื่องของกติกาเดิมอยู่แล้ว ถ้าจะแก้ไขก็ต้องไปแก้กฎกระทรวง มันเป็นระเบียบของกองทัพบก ฉะนั้นการที่เขาจะดูแลผู้บังคับบัญชา มันเป็นกติกาเหมือนเดิม ถ้าอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป ตนก็พร้อมออก

ต่อคำถามที่ว่าอยู่ได้ในฐานะอดีต ผบ.ทบ. ใช่หรือไม่นั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตั้งแต่อดีตผบ.ทบ. จนวันนี้มาเป็นนายกฯ หลายประเทศเขาก็ดูแลแบบนี้ มีทหารประเทศไหนเขาไล่คนเก่าไหม เขาก็มีรปภ.ดูแลต่อ ประเทศไทยไม่ได้หรือต้องเท่าเทียม ก็แล้วแต่ ตนเคารพกติกา

ขณะนั้นพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ออกจากบ้านพัก พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ระเบียบว่าอย่างไรก็ไปแก้ระเบียบ วันนี้ตนอยู่ ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยตนด้วย เข้าใจไหม บ้านตนก็มี ไม่ใช่ไม่มี แต่มันไม่ปลอดภัย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net