Skip to main content
sharethis

'สำนักข่าวชายขอบ' เผยตำรวจปล่อยตัว 5 ชาวบางกลอยหลังถูกปรักปรำว่าเป็นชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากมีญาติพี่น้องยืนยันได้ว่าคือญาติและเป็นชาวบ้านกะเหรี่ยงดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในเขตอุทยานฯ แก่งกระจาน ทั้งนี้หลังยุทธการตะนาวศรีปี 2554 เผาชุมชนต่างแตกกระจาย บางส่วนหลบซ่อนปักหลักอยู่ถิ่นเดิม-ชาวบ้านยังหวังได้กลับคืนป่าใหญ่

สำนักข่าวชายขอบ รายงานเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2567 ว่าความคืบหน้ากรณีที่ เพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยแพร่ข้อมูลและภาพถ่ายระบุว่า “อุทยานฯ แก่งกระจานจับ 5 ชาวเมียนมาลองแพหลบหนีเข้าเมือง” และสื่อมวลชนหลายสำนักนำเรื่องดังกล่าวมานำเสนอต่อ อย่างไรก็ตามเมื่อมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ชาวบ้านทั้ง 5 คนที่ถูกจับกุมเป็นชาวบ้านบางกลอยที่อาศัยอยู่ในป่าใหญ่ใจแผ่นดิน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมที่ตั้งชุมชนกันมายาวนานก่อนประกาศเขตอุทยานฯแก่งกระจาน

ล่าสุดนายนิรันดร์ พงษ์เทพ ผู้ใหญ่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนพร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้นำชาวบ้านทั้ง 5 คน ส่งให้ สภ.แก่งกระจาน โดยหลังจากตำรวจทำการสอบสวนเสร็จ ได้ปล่อยตัวชาวบ้านทั้งหมด และไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากมีญาติพี่น้องในหมู่บ้านสามารถยืนยันได้ว่า ทั้ง 5 คนคือญาติและเป็นชาวบ้านกะเหรี่ยงดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในเขตอุทยานฯ แก่งกระจาน 

“พวกเขาไม่ใช่ชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองตามข่าวที่ปรากฏ หลังจากอุทยานตรวจสอบแต่ไม่ได้ทำบันทึกจับกุม แล้วส่งต่อให้ฝ่ายปกครอง ทางตำรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จก็ปล่อยตัวทันที เพราะพวกเขาเป็นชาวบ้านกะเหรี่ยงในพื้นที่ เพียงแค่ล่องแพออกจากในป่ามาเยี่ยมหาญาติ แต่กลัว เจ้าหน้าที่อุทยานฯจะขับไล่ไม่ให้อยู่ในป่า จึงให้ข้อมูลว่ามาจากห้วยสัตว์ใหญ่” นายนิรันดร์ กล่าว 

นายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวบ้านบางกลอย กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีพี่น้องกะเหรี่ยงอาศัยอยู่ในผืนป่า เพราะมีบางส่วนไม่ได้อพยพลงมาพร้อมชาวบ้านกลุ่มใหญ่ที่ถูกบังคับให้มาบางกลอยล่าง ปกติหากพี่น้องจะเดินเท้าหรือล่องแพลงมาเยี่ยมญาติ จะต้องไปรายงานตัวลงชื่อกับผู้ใหญ่บ้าน แต่กลุ่มชาวบ้านทั้ง 5 คน ยังเดินทางมาไม่ถึงหมู่บ้านก็ถูก เจ้าหน้าที่อุทยานตรวจสอบระบุว่าเป็นคนเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งข่าวสารที่ออกไปอาจทำให้ชาวบ้านบางกลอยถูกมองว่าเป็นคนเมียนมาไม่ใช่ชาวบ้านกะเหรี่ยงดั้งเดิม

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวถึงข้อเรียกร้องของชาวบางกลอยบางส่วนที่ต้องการกลับคืนป่าใหญ่ใจแผ่นดิน ว่าขณะนี้กำลังรอความคืบหน้าในการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการอิสระพิจารณาชุดใหม่ ซึ่งทุกวันนี้ชาวบ้านยังมีความหวังที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตตามวิถีดั้งเดิมของบรรพบุรุษ

“พวกเรายังมีความหวังที่จะกลับไป แต่เรื่องคณะกรรมการอิสระที่จะเดินหน้าต่อยังเงียบอยู่ กรณีชาวบ้านบางกลอยทั้ง 5 คนที่ถูกจับได้ยืนยันตัวตนชัดเจนว่าเขาที่อยู่ในพื้นที่ดั้งเดิม ตอนที่มียุทธการตะนาวศรีปี 2554ชาวบางกลอยหนีกระจัดกระจาย พวกเราถูกกล่าวหาว่าเป็นคนพม่า เราพยายามยืนยันและบอกว่าไม่ใช่ คนที่หนีไปปักหลักในพื้นที่ต่างๆ เขาก็ยังกลับมาหาญาติพี่น้องที่อยู่บ้านบางกลอยล่าง ซึ่งชุมชนก็มีกลไกคือให้เขาแจ้งผู้ใหญ่บ้านก่อนเข้าหมู่บ้าน แต่กรณีนี้เขาถูกจับก่อนที่จะมาถึงหมู่บ้าน”นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว


ที่มาภาพปก: เพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net