ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ตอบกลับ รมว.ยุติธรรม ขอศึกษาดูงานชั้น 14 รพ.ตำรวจ ทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง - กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสาร "ราชทัณฑ์ แจงกรณีของนายทักษิณ และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ขณะออกรักษาตัวภายนอกเรือนจำ” ชี้แจงปม 'ทักษิณ'

แฟ้มภาพไทยโพสต์

7 ม.ค. 2567 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่านายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาคใต้ และ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้การคณะกรรมธิการตำรวจจะไปศึกษาดูงาน ที่โรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่ได้รับเอกสารนั้น ว่า

ตนขอเรียนต่อพี่น้องประชาชนว่าตนได้ทำหนังสือไปถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2566 เพื่อขอไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับขั้นตอนการปฎิบัติกับผู้ต้องขัง ที่ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ และตนก็ได้ทำหนังสือไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผ่านไปถึงโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขอศึกษาดูงาน ขั้นตอนตามแนวทางการปฏิบัติกับผู้ต้องขังที่จะส่งตัวมารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ขณะนี้เท่าที่ตนทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ทางกรมราชทัณฑ์ ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เกษียนหนังสือไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อให้พิจารณาเรื่องนี้

“ขอเรียนว่าการที่กรรมาธิการตำรวจจะไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการในการรับผู้ต้องขังเข้าไปรับการรักษาตัว เราได้ทำการภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญอย่างถูกต้อง และเราได้ทำหน้าที่กรรมาธิการตำรวจในประเด็นที่สังคมเคลือบแคลง สงสัย จึงขอเรียนกับพี่น้องประชาชนว่าผมในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจมีความตั้งใจที่จะทำงานทุกปัญหาในสังคมที่ประชาชนมีความสงสัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม เราจะทำงานในเรื่องนี้อย่างเต็มที่” ประธานกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎรกล่าว

กรมราชทัณฑ์ แพร่เอกสารชี้แจงปม 'ทักษิณ'

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2567 เพจประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสาร "ราชทัณฑ์ แจงกรณีของนายทักษิณ และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ขณะออกรักษาตัวภายนอกเรือนจำ” โดยระบุว่าตามที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ตอบคำถามในการอภิปรายงบประมาณ เกี่ยวกับประเด็น นายทักษิณ ชินวัตร ที่พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลภายนอก และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง นั้น

กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ในประเด็นเรื่องการรักษาเกินกว่า 120 วัน และยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ นั้น ในการนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ต้องปฏิบัติภายใต้กฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ ตลอดจนหลักสิทธิมนุษยชน จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณาข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ควบคู่กับการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

สำหรับกรณีการนำผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตาม ที่กฎหมายกำหนด โดยแม้ว่าผู้ต้องขังจะรักษาตัวภายนอกเรือนจำ แต่ยังต้องปฏิบัติตัวตามกฎ และระเบียบของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ต้องขังในเรือนจำ หากจะกระทำการอะไรก็ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ไม่มีอภิสิทธิ์แต่อย่างใด ซึ่งการปฏิบัติตัวของผู้ต้องขังที่ออกมารักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอก จึงไม่แตกต่างจากการควบคุมอยู่ภายในเรือนจำ