Skip to main content
sharethis

‘ชัย’ ยกคำชี้แจงของ ‘หมอมิ้ง’ ตอบข้อกังวล Digital Wallet มีการพิจารณาข้อจำกัดทางกฎหมายแล้ว แต่สถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ต้องมีการกระตุ้น เชื่อว่าโครงการตอบโจทก์ ส่วนภูมิธรรมเผยส่ง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านให้กฤษฎีกาพิจารณาแล้ว

14 พ.ย. 2566 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลรายงานการชี้แจงของ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีต่อโครงการ Digital Wallet โดยเขาได้ยกคำชี้แจงของ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ต่อประเด็นคำถามต่างๆ ต่อโครงการนี้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงข้อสังเกตว่าการใช้เงินในโครงการ Digital Wallet อาจจะขัดต่อข้อกฎหมายนั้น โดย พรหมินทร์ ได้ชี้แจงว่า ได้มีการพิจารณาข้อจำกัดของกฎหมายและความเห็นต่าง ๆ ของนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเมื่อเทียบกับประเทศข้างเคียง ประเทศไทยยังมีปัญหา ล้าหลัง ภาวะหนี้สิ้นของประชาชนเพิ่มขึ้นในระยะ 10 ปี ที่ผ่านมา จากร้อยละ 70 เป็นร้อยละ 90 ของ GDP จึงจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหลังจากออกเป็นนโยบาย ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้พูดคุยหารือและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ อย่างรอบด้าน ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เนื่องจากสามารถขอฉันทามติผ่านกระบวนการในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถทำได้และเคยทำมาก่อนในหลายรัฐบาล

กรณีกระแสสังคมว่า รายละเอียดหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการไม่ตรงปกเหมือนตอนหาเสียงไว้นั้น พรหมินทร์ ชี้แจงว่า รัฐบาลมีการปรับแก้ไขตามเสียงคัดค้านให้เหมาะสม ซึ่งโจทย์ของ Digital Wallet คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นในบรรดาของกลุ่มประชาชนที่แบ่งตามรายได้ต่าง ๆ รายได้กลุ่มที่น้อยที่สุด 20% ที่น้อยที่สุด หรือกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำที่สุด เวลาที่รัฐบาลให้เงินไป กลุ่มดังกล่าวเกิดการใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง 5 เท่า ขณะที่กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ 3 อยู่ที่ประมาณ 3.5 – 4.5 เท่า ส่วนกลุ่มสุดท้ายที่มีเงินเดือนมากกว่า 7 หมื่นบาท เมื่อรัฐบาลให้เงินไปแล้ว จะเกิดการใช้ประมาณ 1.2 เท่า

ดังนั้น จากข้อพิจารณา และข้อเสนอต่าง ๆ ทำให้ได้ตัดคนส่วนนี้ออกไป เพราะว่าเป็นส่วนที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ละทิ้ง โดยมีการหาวิธีที่คล้าย ๆ กัน จึงมีการใช้ e-Refund ซึ่งกลุ่มนี้สามารถนำเงินของตนเองไปใช้จ่ายแล้วนำเงินมาคืนของหลวง จึงขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ละทิ้งกลุ่มใด แต่ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการและมาตรการให้เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนกรณีที่มีข้อสังเกตถึงการกู้เงินของรัฐบาลนั้น เป็นการหาทางลง เนื่องจากเสี่ยงต่อกฎหมายต่าง ๆ หรือไม่ พรหมินทร์ก็ได้ชี้แจงด้วยว่า ข้อสังเกตดังกล่าวการหาทางลงเป็นวิธีคิดของคนที่เป็น Loser ของคนที่ปรารถนาความพ่ายแพ้ แต่คนที่อยากจะเอาชนะใช้ Winner attitude ซึ่งจะคล้ายกับการหา solution ร่วม หรือ “ทุกปัญหามีทางออก” ซึ่งรัฐบาลพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดและต้องการทำให้โครงการนี้สำเร็จ เพราะเชื่อมั่นว่า ประชาชนกำลังรอโครงการนี้อยู่กว่า 60% – 70% รวมทั้งจะส่งผลให้เกิด micro investment โดยเงินจำนวนนี้จะนำไปใช้ในการลงทุน สอดคล้องกับข้อมูลการสำรวจวิจัยของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งพบว่ากว่าร้อยละ 40.23 ระบุว่า จะนำเงินไปรวมกับครอบครัวเพื่อไปใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มขึ้น เช่น เกษตรกรอาจนำเงินไปรวมในครอบครัวเพื่อใช้ทำมาหากินในภายภาคหน้า หรือหากมีจำนวน 2 – 3 คนในครอบครัว อาจเปิดร้านขายของในเมืองได้ จึงขอเน้นย้ำว่า รัฐบาลจะนำเงินเพื่อไปกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่ใช่การใช้จ่ายอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการลงทุนในระยะยาวเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจมากขึ้นด้วย

“โครงการ Digital Wallet ตอบโจทย์แก้ปัญหาเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว เชื่อมั่นว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจมหภาคฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ รัฐบาลเชื่อมั่นว่าทุกภาคส่วนมีความหวังดีกับประเทศ และขอชี้แจงว่า รัฐบาลได้ดำเนินโครงการนี้ผ่านการพิจารณา วิเคราะห์ ทุกปัจจัย ตัวแปร และศึกษาข้อมูลทางสถิติ และเชื่อมั่นว่ามีประชาชนจำนวนมากรอคอยเงินจากโครงการนี้เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น” ชัย กล่าว

ส่งพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านให้กฤษฎีกาพิจารณาแล้ว

วันเดียวกันนี้ เดอะ สแตนดาร์ดรายงานว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังวันนี้  และได้มีการกล่าวถึงประเด็นเรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน จำนวน 5 แสนล้านบาทที่จะนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วย

ภูมิธรรมระบุว่าได้ส่งพ.ร.บ.กู้เงินให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความแล้ว เนื่องจากการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต โครงการเติมเงิน 10,000 บาท มีเลขาธิการกฤษฎีกาฯ อยู่ด้วย และได้รับเรื่องไปแล้ว ส่วนเรื่องระยะเวลานั้นได้พูดคุยกันและจะพยายามทำให้เร็วที่สุด

ภูมิธรรมตอบข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องการกู้เงินนั้นว่าพรรคเพื่อไทยได้เสนอนโยบายนี้ไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้งและได้สัญญากับประชาชนไว้ เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลแล้วก็กำลังทำในฐานะรัฐบาลคือการทำตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาจนได้เป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตามได้รับฟังความคิดเห็นที่ต่างจากเรามาโดยตลอด แต่อยากให้คนวิจารณ์คำนึงถึงเรื่อง กระบวนการประชาธิปไตยที่จะต้องเดินหน้า และต้องมองว่ากำลังวิกฤตเราจึงต้องเดินหน้า ทั้งนี้ก็ได้รับฟังความคิดเห็นต่างๆ มาพิจารณาตามเหตุผล หากไม่ปรับตามความคิดเห็นของประชาชนหรือบุคคลอื่นๆ ก็จะเกิดปัญหา แต่ยืนยันว่าเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม

ภูมิธรรมกล่าวว่า ในทางปฏิบัติเรากำลังเร่งดำเนินการซึ่งอยู่ตามขั้นตอนทางกฎหมาย หากดูข้อมูลทางเศรษฐกิจจริงๆ เศรษฐกิจมันไม่ได้ดีอย่างที่หลายคนพูด เศรษฐกิจติดลบ จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชน และให้ความเป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทย ตอนนี้ทุกคนอยากได้เงินในภาวะเศรษฐกิจมีปัญหา แต่จะทำอย่างไรให้ครบถ้วนถูกต้อง ส่วนการกู้เงินเดิมทีเราไม่คิดจะกู้ แต่เมื่อมีข้อติดขัดและคิดว่าต้องกู้จึงต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น

รมต.พาณิชย์กล่าวด้วยว่าอยากให้คนที่คัดค้านหรือพรรคการเมืองที่คัดค้านเคารพในระบอบประชาธิปไตย เมื่อหาเสียงมาแล้วเราต้องทำตามสิ่งที่สัญญาไว้กับประชาชน ถ้าล้มเหลวหรือมีปัญหาค่อยว่ากันตามกระบวนการประชาธิปไตย

ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ตนได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลถึงเงินที่จะใช้ในโครงการมาจากการกู้เงินมาโดยตลอด และในวันที่ประชุมเรื่องนี้ตนและ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และอีกหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วม ตนคิดว่าเราคุยกันมาตลอดในเรื่องนี้ นโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาในการจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นการแถลงร่วมกันของคณะรัฐมนตรี จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net