'เบนจามิน เนทันยาฮู' นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยืนยันเมื่อวันเสาร์ (11 พ.ย.) ว่าจะไม่ให้รัฐบาลปาเลสไตน์ปกครองฉนวนกาซา ทันทีที่สงครามอิสราเอล-ฮามาสสิ้นสุดลง - ผู้นำโลกอาหรับและโลกมุสลิมประณามการกระทำของกองกำลังอิสราเอลในกาซา แต่เสียงแตกเรื่องมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจและการเมืองต่ออิสราเอล

12 พ.ย. 2566 นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลยืนยันเมื่อวันเสาร์ (11 พ.ย.) ว่าจะไม่ให้รัฐบาลปาเลสไตน์ (Palestinian Authority) หรือพีเอ (PA) ปกครองฉนวนกาซา ทันทีที่สงครามอิสราเอล-ฮามาสสิ้นสุดลง

นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูตอบข้อถามเรื่องพีเอซึ่งมีอำนาจปกครองบางส่วนในเขตเวสต์แบงก์จะได้ปกครองกาซาหลังสงครามสิ้นสุดหรือไม่ว่า กาซาจะต้องไม่มีรัฐบาลพลเรือนที่สั่งสอนเด็กให้เกลียดชังอิสราเอล สังหารชาวอิสราเอล และลบล้างรัฐอิสราเอล หรือรัฐบาลที่นำโดยผู้ที่ยังไม่ประณามการสังหารหมู่ หลังจากกลุ่มฮามาสข้ามพรมแดนเข้ามาก่อเหตุในอิสราเอลเมื่อ 30 วันก่อน แต่กาซาจะอยู่ภายใต้การควบคุมด้านความมั่นคงของอิสราเอล สอดคล้องกับที่เขาให้สัมภาษณ์เมื่อต้นสัปดาห์ว่า อิสราเอลจะเข้าไปดูแลความมั่นคงทั้งหมดในกาซาอย่างไม่มีกำหนด หลังจากสงครามในกาซาสิ้นสุด

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อปลายเดือน ต.ค. ว่า PA ควรเข้าไปปกครองกาซาแทนกลุ่มฮามาส แต่ประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาสของปาเลสไตน์กล่าวในการประชุมกับนายบลิงเคนเมื่อต้นเดือน พ.ย. ว่า PA จะเข้าไปมีอำนาจในกาซาได้ต่อเมื่อมีทางออกทางการเมืองอย่างครอบคลุมให้แก่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่มีมายาวนานเรื่องเวสต์แบงก์ เยรูซาเล็มตะวันออก และฉนวนกาซา

ผู้นำโลกอาหรับและโลกมุสลิมประณามการกระทำของกองกำลังอิสราเอลในกาซา แต่เสียงแตกเรื่องมาตรการลงโทษอิสราเอล

แถลงการณ์ร่วมของที่ประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับและองค์การความร่วมมืออิสลามหรือโอไอซี (OIC) ที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันเสาร์ (11 พ.ย.) ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างของอิสราเอลว่ากระทำไปเพื่อปกป้องตนเอง เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกมติที่เด็ดขาดและมีผลผูกพัน เพื่อหยุดยั้งการรุกรานของอิสราเอล เรียกร้องให้ยุติการจำหน่ายอาวุธให้แก่อิสราเอล และไม่ยอมรับการแก้ปัญหาทางการเมืองในอนาคตที่จะทำให้ฉนวนกาซายังคงถูกแยกออกจากเขตเวสต์แบงก์

เดิมสันนิบาตอาหรับและโอไอซีจะประชุมสุดยอดแยกกัน นักการทูตอาหรับเผยว่า สาเหตุที่ตัดสินใจประชุมร่วมกัน เนื่องจากสันนิบาตอาหรับไม่สามารถออกแถลงการณ์ได้ สมาชิกบางประเทศอย่างแอลจีเรียและเลบานอน เสนอให้ขู่ว่าจะไม่ลำเลียงน้ำมันให้แก่อิสราเอลและพันธมิตร และเสนอให้ตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการทูต แต่สมาชิกอย่างน้อย 3 ประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรนที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลในปี 2563 ไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แถลงในเวลาต่อมาว่า ผู้นำโลกอาหรับจะต้องยืนหยัดต่อต้านกลุ่มฮามาสที่เป็นส่วนหนึ่งของแกนก่อการร้ายนำโดยอิหร่าน ขณะที่กลุ่มฮามาสแถลงเรียกร้องให้ที่ประชุมผู้นำโลกอาหรับและโลกมุสลิมขับเอกอัครราชทูตอิสราเอล ตั้งคณะกรรมาธิการทางกฎหมายขึ้นไต่สวนอาชญากรสงครามอิสราเอล และตั้งกองทุนฟื้นฟูฉนวนกาซา

อิสราเอลโจมตีที่ตั้งกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย

กองทัพอิสราเอลแจ้งผ่านเทเลแกรมว่า วันนี้ (12 พ.ย.) ฝูงบินของกองกำลังป้องกันอิสราเอลหรือไอดีเอฟ (IDF) ได้โจมตีที่ตั้งโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย เพื่อตอบโต้ที่มีการโจมตีมายังที่ราบสูงโกลันเมื่อวันเสาร์ ก่อนหน้านี้กองทัพอิสราเอลแจ้งเมื่อวันเสาร์ว่า มีจรวด 2 ลูกถูกยิงจากซีเรียมาตกในพื้นที่ร้างบนที่ราบสูงโกลัน และมีการเปิดไซเรนเตือนภัยจรวดทั่วที่ราบสูง ส่วนเมื่อวันศุกร์ อิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายในซีเรีย หลังจากมีโดรนบินจากซีเรียมาตกในโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองเอลัต ทางตอนใต้ของอิสราเอล

อิสราเอลยึดครองที่ราบสูงโกลันในสงคราม 6 วัน ปี 2510 และผนวกเป็นส่วนหนึ่งในเวลาต่อมา โดยไม่ได้รับรองจากสหประชาชาติ การยิงข้ามพรมแดนอิสราเอล-ซีเรีย และอิสราเอล-เลบานอน เกิดบ่อยครั้งขึ้น นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาที่ข้ามพรมแดนมาโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566

สงครามกาซาทำคนจำนวนมากติดใน รพ.

องค์กรแพทย์ไร้พรมแดนเตือนวันนี้ว่า หากไม่หยุดยั้งเหตุนองเลือดนี้ทันทีด้วยการหยุดยิง หรืออย่างน้อยให้มีการอพยพผู้ป่วย โรงพยาบาลเหล่านี้จะกลายเป็นสุสาน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัล-ชีฟา (Al-Shifa) เผยว่า โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในกาซาแห่งนี้ถูกล้อมอย่างสิ้นเชิง และมีการถล่มเกิดขึ้นโดยรอบ ทีมแพทย์ไม่สามารถทำงานได้ ส่วนศพสิบกว่าศพที่เสียชีวิตจากการโจมตีนอกโรงพยาบาลก็ไม่สามารถจัดการฝังได้

ศัลยแพทย์นายหนึ่งเผยผ่านข้อความเสียงที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันเสาร์ว่า โรงพยาบาลอัล-ชีฟา ไม่มีทั้งอาหาร น้ำ และไฟฟ้า ให้แก่ผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดประมาณ 600 คน ทารกประมาณ 40 คน และผู้ป่วยไอซียู 17 คน นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนมากอาศัยพื้นที่รอบโรงพยาบาลเป็นที่ลี้ภัยการสู้รบด้วย ทารก 2 คนเสียชีวิตเพราะตู้อบทารกไฟฟ้าดับ ชายคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะเครื่องช่วยหายใจไฟฟ้าดับ ขณะที่รอบโรงพยาบาลมีแต่ควันที่เกิดจากการถูกยิงถล่มหลายครั้ง พลแม่นปืนคนหนึ่งยิงผู้ป่วยในโรงพยาบาลเสียชีวิต 4 คน  

ส่วนที่โรงพยาบาลอัล-กุดส์ (Al-Quds) สภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์เรียกร้องประชาคมโลกและกลุ่มสิทธิมนุษยชนเข้าแทรกแซงโดยทันที และเร่งปกป้องโรงพยาบาลแห่งนี้ที่มีผู้ป่วย 500 คน และผู้ลี้ภัยมากกว่า 14,000 คน เพราะมีการยิงปืนใหญ่ถล่มพื้นที่ใกล้เคียงจนตัวอาคารสั่นสะเทือน นอกจากนี้ทารกยังเกิดภาวะขาดน้ำ เพราะไม่มีสารทดแทนนมมารดา หน่วยงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติระบุว่า โรงพยาบาล 20 แห่งจากทั้งหมด 36 แห่งในกาซาไม่สามารถใช้การได้แล้ว

กลุ่มหนุนปาเลสไตน์ชุมนุมใกล้บ้านไบเดน เรียกร้องหยุดยิง

กลุ่มผู้สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ชุมนุมใกล้บริเวณบ้านพักของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) เพื่อร่วมกันเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในเขตฉนวนกาซา จากปัญหาขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส การชุมนุมเกิดขึ้นขณะประธานาธิบดีไบเดน เดินทางกลับมาที่บ้านพัก หลังเสร็จสิ้นการเดินทางไปร่วมพิธีวันทหารผ่านศึก ที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน ในรัฐเวอร์จิเนีย แต่ขบวนรถของผู้นำสหรัฐไม่ได้เคลื่อนผ่านบริเวณที่มีการชุมนุม

ชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์ในวันทหารผ่านศึกอังกฤษ

ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์เดินขบวนในกรุงลอนดอนเมื่อวันเสาร์ (11 พ.ย.) ซึ่งตรงกับวันทหารผ่านศึกในอังกฤษ เรียกร้องให้มีการหยุดยิง

ตำรวจกรุงลอนดอนเกือบ 2,000 นาย รักษาความสงบเรียบร้อยด้วยการแยกผู้ชุมนุม 2 กลุ่มที่มีความเห็นคนละขั้วและเผชิญหน้ากันมาหลายครั้ง ตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาสครั้งใหม่ปะทุขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม การเดินขบวนมีขึ้นแม้ว่ารัฐบาลขอให้ยกเลิก ตำรวจแจ้งว่า จับกุมผู้ชุมนุมประมาณ 150 คนที่ฝ่าฝืนกฎหมายเรื่องห้ามปิดบังใบหน้าและห้ามจุดพลุ และควบคุมตัวผู้ต่อต้านการชุมนุม 82 คนที่พยายามแทรกซึมเข้าไปในขบวนสนับสนุนปาเลสไตน์

นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัก ของอังกฤษ แถลงประณามภาพความรุนแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้จากการกระทำของกลุ่มสันนิบาตปกป้องอังกฤษ (English Defence League) ซึ่งเป็นกลุ่มขวาจัดและพรรคพวก และกลุ่มผู้สนับสนุนฮามาสที่เข้าร่วมการเดินขบวนแห่งชาติเพื่อปาเลสไตน์ เขาระบุว่า การกระทำที่น่ารังเกียจของคนกลุ่มน้อยบั่นทอนคนกลุ่มใหญ่ที่เลือกจะแสดงความเห็นอย่างสันติ อันธพาลขวาจัด การตะโกนต่อต้านยิว และป้ายสนับสนุนฮามาส ล้วนสร้างความเสื่อมเสียให้แก่งานรำลึกถึงทหารผ่านศึก การกระทำผิดกฎหมายเหล่านี้จะต้องถูกกฎหมายจัดการอย่างเต็มที่

ตำรวจประมาณว่า การเดินขบวนในกรุงลอนดอนเมื่อวันเสาร์ (11 พ.ย.) ที่จัดขึ้นโดยพันธมิตรหยุดยั้งสงคราม (Stop the War Coalition) มีคนเข้าร่วม 30,000 คน แต่ผู้จัดแย้งว่ามีมากถึง 80,000 คน มากพอกับการเดินขบวนในกรุงลอนดอนต่อต้านสงครามอิรักปี 2546

ที่มาเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย [1] [2] [3] [4] [5] [6]