Skip to main content
sharethis

แรงงานไทยชุดที่ 2 เดินทางจากอิสราเอลถึงไทยแล้ว - ก.ต่างประเทศ เห็นชอบแรงงานที่จ่ายเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเอง ให้นำหลักฐานติดต่อแรงงานจังหวัดเบิกเงินคืนได้ทั้งหมด พร้อมประสานสายการบินเพิ่มเที่ยวบินถี่ขึ้น ตั้งเป้าอพยพคนไทย 400 คนต่อเที่ยว - 'ทูตปาเลสไตน์' รับปากช่วยแรงงานไทยสุดความสามารถ หวังประชาคมโลกดึง ‘ฮามาส-อิสราเอล’ เจรจาหยุดยิง


ภาพแรงงานไทยกำลัง ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ เวลา 04.30 น. ของวันที่ 13 ต.ค. 2566 และมีกำหนดถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 17.15 น. ของวันเดียวกัน | ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

13 ต.ค. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่าเมื่อช่วงเช้าตรู่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ช่วยอำนวยความสะดวกแรงงานไทย ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สงครามและหลบหนีมาจากพื้นที่อันตราย จำนวน 19 คน ด้วยเที่ยวบินของสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY 085 ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ เวลา 04.30 น. ของวันที่ 13 ต.ค.66 และมีกำหนดถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 17.15 น. ของวันเดียวกัน โดยเป็นเที่ยวบินที่ 2 ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จัดส่งคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม

ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดรถพาแรงงานไทยบางส่วนไปสนามบิน พร้อมเตรียมอาหาร น้ำดื่ม ให้แรงงานทั้ง 19 คนด้วย

สำหรับรายชื่อผู้ที่เดินทางกลับไทยด้วยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY 085 ในวันที่ 13 ต.ค. 2566 เวลา 17.15 น.

1. นายวีระพนธ์ หลับจันทร์
2. นายดุสิต วิบูลวิโรจน์กุล
3. นายบุญมา ตาฮอง
4. นายเกรียงศักดิ์ พันธุ์สุรี
5. นายศราวุธ ทับทิม
6. นายไพฑูรย์ รักมณี
7. นายสุริยันต์ กันตา
8. นายวิชัย ทิวพงษ์งาม
9. นายคมสัน คำทอง
10. นายวิสุทธิ์ แซ่เล้า
11. นายเจิมศักดิ์ แซ่เล้า
12. นายผดุง บุตโม
13. นายชาตรี ชาศรี
14. นายปฐมพงษ์ หวันลา
15. นายสุชาติ จันทร์บาง
16. นายอานนท์ โพธิ์ศรี
17. นายรชานนท์ ศรีใส
18. นายนิสัน คล้ายคลึง
19. นายจิรพันธ์ ธงอาสา

โดยช่วงเย็นที่ผ่านมา ไทยรัฐออนไลน์ รายงานยืนยันว่าแรงงานไทยทั้ง 19 คนได้เดินทางถึงประเทศไทยแล้ว

ก.ต่างประเทศ เห็นชอบแรงงานที่จ่ายเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเอง ให้นำหลักฐานติดต่อแรงงานจังหวัดเบิกเงินคืนได้ทั้งหมด 

เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า นางกาญจนา  ภัทรโชติ  อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบในอิสราเอลหลังการประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินเพื่อติดตามสถานการณ์ในอิสราเอลว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เชิญทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยหารือ และขอให้ฝ่ายอิสราเอลช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งคนไทยกลับประเทศโดยเร็วที่สุด

โดยทูตอิสราเอลแจ้งว่าอิสราเอลได้อพยพคนต่างชาติออกจากบริเวณพื้นที่ใกล้ฉนวนกาซากว่าร้อยละ 99 ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว  ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการนำคนไทยกลับเป็นเป้าหมายสูงสุดของไทยจึงขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัยและการลำเลียงมายังสนามบิน ซึ่งทูตอิสราเอลได้รับปาก 

นอกจากนี้ยังได้คุยกับสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์เพิ่มเติม เพื่อจัด Charter  Flight  ในการอพยพคนไทยจำนวน 250 คน ออกเดินทางในวันที่ 16 ต.ค.2566  โดยรอยืนยันเวลาเดินทางถึงไทย

ขณะเดียวกันยังมีเที่ยวบินของกองทัพอากาศ อพยพคนไทย 135 คนจะเดินทางถึงประเทศไทย เวลา 04.00 น. โดยขณะนี้มีผู้ที่ประสงค์จะกลับประเทศไทย 6,778 ราย  ผู้ประสงค์อยู่ต่อ 85 ราย

นอกจากนี้ยังได้สำรองเที่ยวบินพาณิชย์สำหรับอพยพคนไทย แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด โดยมีการตั้งเป้าอพยพให้ได้วันละ 400 คนจากทุกช่องทาง หากเป็นไปได้จะเดินทางกลับประเทศไทยทุกวัน

นอกจากนี้ยังมีการเตรียมแผนสำรองโดยการอพยพคนไทยออกไปที่ประเทศจอร์แดนและประเทศใกล้เคียง และให้สายการบินไทยไปรับกลับประเทศซึ่งจะสามารถรองรับได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงจอร์แดน ได้มีการไปพูดคุยรวมถึงขอให้มีการผ่อนปรนเอกสารหลักฐานบางคนที่ยังมีไม่ครบถ้วน รวมถึงกรณีการเดินทางทางบกโดยรถยนต์  ขณะที่แผนการให้ความช่วยเหลือก็จะปรับไปตามสถานการณ์และดูพัฒนาการของอิสราเอล ส่วนกรอบเวลาการอพยพคนไทย นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย 

ในส่วนประเด็นที่มีแรงงานไทย จำนวน 26 คน ที่จ่ายเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาเองนั้น ที่ประชุมสถานการณ์ฉุกเฉินได้มีการพูดคุย โดยเห็นชอบในหลักการจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ที่เดินทางกลับไทยตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.2566   ซึ่งเป็นช่วงที่มีการประกาศสภาวะสงคราม โดยแรงงานไทยที่เดินทางกลับจะต้องยื่นหลักฐานประกอบด้วยบอร์ดดิ้งพาส ใบเสร็จหรือตั๋วเครื่องบิน ประกอบกับเอกสารหลักฐานแสดงตนหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชน ยื่นผ่านแรงงานจังหวัดและกระทรวงแรงงาน

สำหรับหลักการที่รัฐบาลจะจ่ายค่าชดเชยให้นั้น ขอให้แรงงานเก็บเอกสารหลักฐานไว้ก่อนรอฟังรายละเอียดที่ชัดเจนจากทางการอีกครั้ง ซึ่งแรงงานที่อยู่ต่างจังหวัดทางกระทรวงแรงงานจัดเก็บหลักฐานและยื่นเอกสารไว้ให้ส่วนในอนาคตอาจจะมีการตั้งจุดบริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ  ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อตั้งของบประมาณเป็นงบกลาง 

ส่วนผู้ที่ถูกจับตัวเป็นประกันนั้น รัฐบาลพยายามพูดคุยกับทุกฝ่ายซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำกับทูตอิสราเอล ว่าแรงงานไทยเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ขัดแย้ง ขอให้ดำเนินการปล่อยตัวแรงงานไทยโดยเร็วที่สุด และในพื้นที่ก็มีข่าวว่ากลุ่มฮามาสจะสังหารตัวประกันหากอิสราเอลโจมตี  ขณะนี้ยังไม่ปรากฏข่าวดังกล่าว

ขณะที่จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีการพยายามปล่อยออกว่าคนไทยเสียชีวิตมากที่สุดนั้นขณะนี้ไม่ใช่ แต่เป็นประเทศอื่น แต่หากเป็นชนชาติใดก็ขอแสดงความเสียใจที่ประเทศนั้นๆจะต้องสูญเสียญาติพี่น้องไป ทั้งนี้สถานทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟ และทูตฝ่ายรายงาน ได้พยายามหาเบอร์โทรศัพท์ของแรงงานไทยที่ถูกจับตัวประกันเพื่อให้ทางการอิสราเอล ใช้เทคโนโลยีเพื่อติดตามหาพิกัดว่าถูกจับไปอยู่ในจุดไหน   ขณะที่คนที่หลบซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆ น่าจะได้รับการช่วยเหลือจากทางการอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง

'ทูตปาเลสไตน์' รับปากช่วยแรงงานไทยสุดความสามารถ หวังประชาคมโลกดึง ‘ฮามาส-อิสราเอล’ เจรจาหยุดยิง

13 ต.ค. 2566 มติชนออนไลน์ รายงานว่านายวาลิต อาบู อาลี เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย มาเลเซีย มัลดีฟส์ และบรูไน ได้แถลงข่าวทางไกลต่อสื่อมวลชน ณ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ถึงความคืบหน้าในเรื่องการสู้รบระหว่างประเทศอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ฉนวนกาซา รวมถึงการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย

เอกอัครราชทูตวาลิต กล่าวว่า ตนทราบว่ามีแรงงานไทยหลายคนถูกจับเป็นตัวประกัน แต่ตนขอให้ความมั่นใจว่า หากชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาทราบว่าแรงงานดังกล่าวเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ พวกเขาจะไม่ถูกทำร้ายอย่างแน่นอนเพราะกลุ่มฮามาสกำลังมีความขัดแย้งกับอิสราเอล ไม่ใช่กับชาติอื่นๆแต่อย่างใด ตนขอให้คำมั่นกับรัฐบาลไทยว่าตนจะพยายามอย่างถึงที่สุดในการที่จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องแรงงานไทย ผ่านการประสานงานกับสำนักงานต่างประเทศแห่งปาเลสไตน์

แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าสถานการณ์ในฉนวนกาซาตอนนี้อยู่ในขั้นวิกฤตและไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ เพราะการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ แต่ทันทีที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้เราติดต่อกับภายนอกได้ เราจะพยายามเหลือช่วยแรงงานไทยอย่างถึงที่สุด แต่ก็เป็นหน้าที่ของประชาคมโลกที่จะช่วยทำให้การเจรจาหยุดยิงเกิดขึ้นได้ และเพื่อให้หน่วยงานนานาชาติเข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อขอให้มีการปล่อยตัวประกัน

ส่วนในคำถามที่ว่าตอนนี้มีความหวังในการปล่อยตัวประกันแค่ไหน นายวาลิตยังกล่าวอีกว่า ตนไม่ทราบเช่นกัน เพราะไม่มีใครที่จะสามารถบอกในเรื่องข้อมูลในเรื่องนี้ได้เพราะเราไม่สามารถติดต่อไปยังฉนวนกาซาได้ ตนไม่ทราบว่ามีคนชาติใดถูกจับกุมตัวไปบ้าง อยู่ที่ใด ถูกจับเป็นจำนวนเท่าใด แต่เราจะให้ข้อมูลอย่างเร็วที่สุดทันทีที่เรามี

ผู้สื่อข่าว ถามว่าการเจรจาในเรื่องหยุดยิงมีความคืบหน้าไปแค่ไหนแล้ว นาย Walid กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณของการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ทางปาเลสไตน์ได้ขอให้ประชาคมโลกเข้ามาเป็นตัวกลางเพื่อนำไปสู่การเจรจาหยุดยิงแต่ทางฝั่งอิสราเอลก็ยังคงทำการโจมตีอย่างต่อเนื่อง เมื่อการหยุดยิงเกิดขึ้นก็จะมีกระบวนการอื่นๆที่จะเกิดขึ้นตามมา รวมถึงการช่วยเหลือตัวประกันอีกด้วย

นอกจากนั้นแล้ว นายวาลิตได้เรียกร้องให้มีการเข้าสู่กระบวนการพูดคุยเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง เพราะการต่อสู้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทหารเพียงอย่างเดียวแต่ยังกระทบไปยังพลเรือนของทั้งสองฝ่าย

นอกจากนั้นแล้วในการแถลงข่าวเดียวกัน นายรุ่งโรจน์ ซาลลี ประธานองค์กร Palestine Solidarity Campaign Thailand (PSC) ได้อ่านข้อเรียกร้องของทางองค์กรให้ทั้งสองฝ่ายคือรัฐบาลอิสราเอล และกลุ่มฮามาสได้หาทางบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และดำเนินการเจรจาเพื่อให้เกิดสันติภาพ บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ และมติของสหประชาชาติ

นอกจากนี้ PSC ประเทศไทย ยังขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลอิสราเอล ให้ยุติการปิดล้อมฉนวนกาซา ซึ่งจะมีผลทำให้ประชาชนชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์จำนวน 2.3 ล้านคนต้องอดตาย เพื่อมนุษยธรรม

อนึ่งองค์กร PSC ประเทศไทย ประกอบไปด้วยสมาชิกหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะจากประชาคมยุโรป สหรัฐอเมริกา และคนไทยผู้รักความเป็นธรรมและยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม ซึ่งมีเครือข่ายประสานกับ PSC ในประเทศต่างๆ ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน

ทั้งนี้ PSC ประเทศไทยจะประสานไปยัง PSC ในประเทศต่างๆ เพื่อสร้างฉันทามติให้เกิดสันติสุขความยุติธรรม และกฎเกณฑ์ของกฎหมายระหว่างประเทศที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net