Skip to main content
sharethis

ถึงแล้ว ! 15 คนงานไทยในอิสราเอล หลังสถานทูตฯ ส่งกลับบ้านชุดแรก

12 ต.ค. 2566 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 11.30 น. 15 แรงงานไทยจากอิสราเอลกลับถึงไทยเรียบร้อยแล้ว โดยมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลร่วมกับ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 

โดย สุทิน รมว.กลาโหม กล่าวถึงแผนการช่วยเหลือคนไทยระบุว่า สถานการณ์ที่รุนแรงทำให้ผู้อยากกลับประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น เครื่องบินของกองทัพอากาศอาจไม่เพียงพอในการส่งคนกลับทั้งหมด ทั้งนี้จะต้องประสานเครื่องบินพลเรือนเช่าเหมาลำ หรือ ใช้แผนสองคือการใช้เครื่องบินกองทัพอากาศ บินลำเลียงคนไทยจากจุดเสี่ยงในอิสราเอลออกไปยังประเทศที่สามในละแวกใกล้เคียง ก่อนจะหาทางพากลับไทย

ด้าน ปานปรีย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สอดคล้องกับ รมว.กลาโหม ระบุว่า บ่ายนี้จะมีการประชุมกันเพื่อหาข้อสรุปเรื่องประเทศที่สามว่าจะเป็นที่ใดได้บ้าง คาดว่าจะมีคำตอบ และในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) หลังจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากมาเลเซีย คาดว่าจะมีการเร่งประชุมและสั่งการ

ส่วน พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ชี้แจง มาตรการเยียวยาแรงงานที่กระทรวงฯ ได้ประสานกับทางการอิสราเอล ระบุว่า จะมีการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บขณะที่มาถึงเป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท สำหรับผู้ที่เสียชีวิต 40,000 บาท และค่าทำศพ 

ทางการอิสราเอลจะเยียวยาผู้บาดเจ็บ 10-19% เป็นจำนวนเงิน 1,440,000 โดยประมาณ

แต่สำหรับคนที่บาดเจ็บเกินกว่า 20% ขึ้นไป จะดูแลเป็นรายเดือนจนกว่าไปตลอดชีวิต ส่วนค่าใช้จ่ายในรายละเอียดจะพิจารณาเป็นรายกรณี โดยกระทรวงแรงงานไทยจะเป็นผู้เจรจาด้วย

สำหรับแรงงานที่เสียชีวิต ภรรยาจะได้รับประมาณ 35,000 บาทต่อเดือน จนกระทั่งมีสามีใหม่หรือมีการสมรสใหม่ ส่วนบุตรธิดาก็จะดูแลเยียวยาประมาณ 12,000 บาท/คน/เดือน จนกระทั่งจะอายุครบ 18 ปี

ถ้าในกรณีที่ผู้เสียชีวิตไม่มีภรรยา ไม่มีบุตร กระทรวงฯ จะให้สิทธิเยียวยากับพ่อแม่ของแรงงานตลอดชีวิต

สำหรับความกังวลของแรงงานที่ว่า เมื่อกลับมาแล้วจะมีโอกาสกลับไปทำงานอีกหรือไม่ ทางกระทรวงแรงงานจะพยายามประสานนายจ้าง ผ่านบริษัทนายหน้าทั้ง 12 แห่ง เรื่องค่าใช้จ่ายที่จะไปทำงานต่อ สำหรับค่าเดินทางไป กระทรวงแรงงานจะพยายามหารือจากภาคส่วนว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร เพราะเหตุผลของการเดินทางกลับคือการเอาชีวิตรอดจากเหตุสู้รบ ไม่ได้เป็นการกลับมาในกรณีปกติ 

เมื่อเสร็จสิ้นการแถลงข่าว 15 แรงงานเดินทางไปที่สถาบันบำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุข เพื่อตรวจคัดกรองสุขภาพกาย และสุขภาพจิต 

อนึ่ง เมื่อค่ำวานนี้ (11 ต.ค.) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ อำนวยความสะดวกแรงงานไทยซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สงครามและหลบหนีมาจากพื้นที่อันตราย ในประเทศอิสราเอล จำนวน 15 คน ด้วยเที่ยวบินของสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY083 

ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ เวลา 22.55 น. และถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 12 ต.ค. 2566 เวลา 11.22 น.

โดยเป็นเที่ยวบินแรกที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จัดส่งคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net