Skip to main content
sharethis

ในยุโรปมีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนตีตลาดได้เกือบ 350,000 คัน วางเป้ายอดขายเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2566 แต่สหภาพยุโรปสั่งตรวจสอบว่าเป็นการ "แข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม" หรือไม่ที่รัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุนแก่บริษัทยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนจนทำให้ขายในราคาต่ำได้ แต่จีนโต้ตอบว่าเป็นการ 'กีดกันทางการค้า'

8 ต.ค. 2566 สหภาพยุโรปกำลังทำการตรวจสอบเรื่องที่รัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุนส่งเสริมผู้ผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ในขณะที่มีการนำเข้ายุโรปสูงขึ้น ทำให้เกิดความกังวลต่ออนาคตของผู้ผลิตยานยนต์ในยุโรป

อูร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน  ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปแถลงเมื่อช่วงกลางเดือน ก.ย. 2566 ที่ผ่านมาว่าทางยุโรปเปิดกว้างกับการแข่งขันทางธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้ต้องการให้ "แข่งขันแบบฉุดกันลงเหว"

ฟอน เดอ เลเยน บอกว่า "ในตอนนี้ตลาดโลกล้นทะลักไปด้วยรถพลังงานไฟฟ้าราคาถูก และราคาของมันก็ถูกมากในแบบที่ไม่เป็นธรรมชาติเพราะมีการให้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล(จีน) จำนวนมาก ... ดังนั้นแล้วข้าพเจ้าจึงขอประกาศในวันนี้ว่า ทางคณะกรรมาธิการจะทำการสืบสวนสอบสวนต่อต้านการให้เงินอุดหนุนส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าจากจีน"

ทางยุโรปเรียกเก็บภาษีจากการนำเข้ายานยนต์จากจีนอยู่ที่ร้อยละ 10 เทียบกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้ายานยนต์จากสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ร้อยละ 27.5 ซึ่งผู้ผลิตยานยนต์จีนได้ฉวยโอกาสนี้ในการลงหลักปักฐานในตลาดยุโรปที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลของสมาคมรถยนต์โดยสารจีนระบุว่า บริษัทจีนส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าเกือบ 350,000 คันให้กับ 9 ประเทศของยุโรปในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ สูงกว่าที่พวกเขาส่งออกในปี 2565 และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอียูได้นำเข้ารถจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า

ธนาคารยูบีเอสเคยประเมินไว้ว่า ถ้ายังคงสภาพนี้ต่อไปเมื่อถึงปี 2573 ผู้ผลิตยานยนต์จีนอาจจะมีส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากร้อยละ 17 เป็นร้อยละ 33 ซึ่งจะทำให้ยุโรปสูญเสียส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด

การสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมาธิการยุโรปอาจจะนำไปสู่การตั้งอัตราภาษีศุลกากรในการนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าจากจีน ซึ่งคำประกาศสืบสวนของ ฟอน เดอ เลเยน เองก็ได้ส่งผลสะเทือนต่อตลาดหุ้นของบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของจีนที่มีฐานในฮ่องกง เช่น หุ้นของ BYD ที่มีนักลงทุน วอร์เรน บัฟเฟต์ ลดลงร้อยละ 2.8 หุ้นของ Xpeng ลดลงร้อยละ 2.5 ขณะที่หุ้นของ Nio ลดลง 0.9%.

กระทรวงพาณิชย์ของจีนแสดง "ความกังวลเป็นอย่างยิ่งและความไม่พอใจอย่างมาก" ต่อการสืบสวนของอียู โดยที่โฆษกของกระทรวงแถลงว่า "ทางการจีนเชื่อว่ามาตรการสืบสวนที่เสนอมาจากอียูนี้เป็นไปเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของตัวเองในนามของ 'การแข่งขันอย่างเป็นธรรม' "

โฆษกกระทรวงะพาณิชย์ของจีนแถลงต่อไปอีกว่า "มันเป็นการกระทำในเชิงกีดกันทางการค้าอย่างเห็นได้ชัด และจะทำให้เกิดการขัดขวางและบิดเบือนห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์โลกและห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงในอียูเองด้วย แล้วมันก็จะส่งผลทางลบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและทางการค้าระหว่างจีนกับอียู"

BYD ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีนวางเป้าหมายที่จะเพิ่มหุ้นส่วนตัวแทนจำหน่ายในยุโรปมากขึ้นเป็นสองเท่าให้เป็น 200 รายภายในปีนี้ (2566) Lu Yunfei โฆษกของ BYD กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทกำลังวางแผนจะเพิ่มยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 250,000 คัน ภายในปี 2566 เทียบกับยอดขาย 55,916 คันในปี 2565

ข้อกล่าวหา "แข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม"

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) ระบุว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของยุโรปสร้างงานให้ประชาชนราว 13 ล้านคน คิดเป็นการจ้างงานร้อยละ 7 จากการจ้างงานทั้งหมด ในเยอรมนีมีรถยี่ห้อโฟล์กสวาเกน, ออดี้, บีเอ็มดับเบิลยู และ เมอร์เซเดส ที่เป็นหัวใจหลักของอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเยอรมนี โรเบิร์ต ฮาเบค แสดงความยินดีต่อการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมาธิการยุโรป โดยแถลงว่า "เรื่องนี้เกี่ยวกับการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม มันไม่ใช่การกีดกันรถยนต์ราคาถูกที่มีประสิทธิภาพออกไปจากตลาดยุโรป"

ผู้บริการอาวุโสของอุตสาหกรรมยานยนต์เยอรมนีและฝรั่งเศสต่างก็เตือนเมื่อไม่นานนี้ว่า ยานยนต์ไฟฟ้าของจีนส่งผลร้ายต่อตลาดของพวกเขาอย่างไร ผลการวิจัยของบริษัทด้านการวิจัย จาโต ไดนามิค ระบุว่ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนนั้นถูกกว่าของยุโรปราวร้อยละ 40 และถูกกว่าของสหรัฐฯ ร้อยละ 50

โอลิเวอร์ ซิปเซ ซีอีโอของบีเอ็มดับเบิลยูเตือนว่าการที่อียูแบนยานยนต์ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ตั้งแต่ปี 2578 เป็นต้นไปและมีการแข่งขันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากจีนนั้น อาจจะเป็นการผลักให้ผู้ผลิตยานยนต์ในยุโรปออกจากตลาดรถยนต์ที่มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก แต่ ลูกา เดอ มีโอ ซีอีโอของบริษัทยานยนต์เรโนลต์ก็ได้กล่าวว่าจีนนั้นล้ำหน้าพวกเขาไปแล้ว "หนึ่งชั่วคน" ในแง่การแข่งขัน

ซิกริด เดอ วรีส ผู้อำนวยการใหญ่ของ สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรป (ACEA) แสดงความยินดีต่อคำประกาศของ ฟอน เดอ เลเยน บอกว่าเป็น "การส่งสัญญาณทางบวกที่ว่าคณะกรรมาธิการยุโรปกำลังเล็งเห็นมากขึ้นในเรื่องสถานการณ์ความไม่สมดุลที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของพวกเราเผชิญอยู่ตอนนี้ แล้วก็ทำให้มีการพิจารณาอย่างเร่งด่วนต่อการบิดเบือนการแข่งขันในภาคส่วนของพวกเรา"

วรีส แถลงว่า "การค้าที่เสรีภาพเป็นธรรมนั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างภาคส่วนยานยนต์ยุโรปที่ประสบความสำเร็จ และเป็นรากฐานของความสำเร็จในระดับโลก ... อย่างไรก็ตาม หลักการของการค้า 'เสรีและเป็นธรรม' นั้น ต้องอาศัยการปรับสนามแข่งขันทางธุรกิจให้มีความยุติธรรมกับทุกฝ่าย โดยอาศัยการค้าต่างตอบแทนและกฎเกณฑ์การเข้าสู่ตลาด มันเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้แข่งขันทางธุรกิจในตลาดทุกคนจะต้องเคารพในเรื่องนี้"


เรียบเรียงจาก
Europe probes China’s electric car subsidies as imports soar, CNN, 14-09-2023

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net