Skip to main content
sharethis

กระทรวงแรงงานอัพเดท มีแรงงานบาดเจ็บ 1 ราย และมีรายงานว่าอาจถูกจับตัวไป 2 ราย พร้อมขอให้ชาวไทยปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวดกว่า 5,000 ลูก และบุกอิสราเอล นายกรัฐมนตรี ขอประณามการโจมตี เตรียมพร้อมอพยพคนไทย

 

สืบเนื่องจาก กรุณา บัวคำศรี นักข่าวอาวุโส รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ระบุว่า ที่ประเทศอิสราเอลเมื่อช่วงเวลาเช้าตรู่ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มฮามาส (ได้ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบ) จากการยิงจรวดราว 5,000 ลูก เข้ามาในอิสราเอล ก่อนส่งนักรบบุกฝ่าพรมแดนความมั่นคงของประเทศอิสราเอล เข้ามายึดหมู่บ้าน และชุมชนหลายแห่งทางตอนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงงานไทยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ประกาศเตือนให้คนไทยในอิสราเอลอยู่ในที่ปลอดภัย  

7 ต.ค. 2566 เว็บไซต์ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ประเทศไทย รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อ 18.44 น. ออกแถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล โดยมีรายละเอียดดังนี้

ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาล และประชาชนอิสราเอล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ฝ่ายไทยขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงและการโจมตีที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในครั้งนี้

รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น และขอร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการใช้ความรุนแรงและการโจมตีในครั้งนี้ รวมทั้งขอแสดงความหวังให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว

ด้านเว็บไซต์กระทรวงแรงงาน เผยแพร่ข่าวเมื่อเวลา 20.57 น. ระบุว่า พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส และสั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานอย่างใกล้ชิดทันที ซึ่งจากรายงานของ กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เบื้องต้นพบว่ามีแรงงานไทยถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 ราย  เดินทางโดยกรมการจัดหางานจัดส่งไปทำงานเกษตรมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดนครพนม จากการตรวจสอบของกรมการจัดหางาน พบว่าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีแรงงานไทยอีก 2 ราย ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทยตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม และจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่บาดเจ็บ 1 ราย และแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไว้ 2 ราย ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมชี้แจงการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายให้แก่ญาติทราบในทันที อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลรวมทั้งสิ้นประมาณ 29,900 คน โดยเป็นแรงงานที่อยู่อาศัยบริเวณเมือง Netivot, Sderot, Ashkelo และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 5,000 คน

"ขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลไทยทั้งสถานทูต และกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแล อย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป" พิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด

อย่างไรก็ตาม กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุกรณีที่มีสื่อมวลชนต่างประเทศบางสำนักนำเสนอข่าวแรงงานไทยถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีในอิสราเอลนั้นอาจมีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน จากการตรวจสอบกับทางการอิสราเอล ทางการอิสราเอลยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ และรับจะเร่งตรวจสอบให้ต่อไป  

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอล โดยขอให้คนไทยเข้าห้องหลบภัยทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรน หากไม่ทัน ให้หมอบราบลงกับพื้น ไม่ถ่ายรูป ไม่วิ่งไปที่โล่ง ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และขอให้ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยในเขตภาคใต้ใกล้เคียงฉนวนกาซา และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ ไม่ออกจากที่พักอาศัย สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบโปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150 กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ หมายเลข 0 2575 1047-51 ฝ่ายแรงงานไทย ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โทร : +972 544693476 What app ID : 0544693476 Line ID : 0544693476 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

ทอ.เตรียมอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล

เมื่อเวลา 22.27 น. เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีรายงานข่าวแรงงานไทยในอิสราเอลถูกกองกำลังติดอาวุธจับกุมตัว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กำลังพยายามประสานกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิด มิได้นิ่งนอนใจ ทางการอิสราเอลรับปากว่าจะดูแลคนต่างชาติเทียบเท่าคนอิสราเอล ตอนนี้ อิสราเอลอยู่ในสภาวะสงคราม ทางการอิสราเอลห้ามการเคลื่อนไหวของพลเรือนนอกเคหสถาน

นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ติดตามอย่างเต็มที่  และได้สั่งการให้ ทอ. เตรียมพร้อมอพยพคนไทย

พรุ่งนี้ (8 ต.ค.) จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินที่กรมการกงสุล

'เศรษฐา' ระบุขอให้อิสราเอลเช็กข้อมูลที่คนไทยถูกจับ ขอประณามการโจมตีอิสราเอล

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบนบัญชี X "@Thavisin" ระบุว่า ขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว

 

 

เศรษฐา ระบุต่อว่า ได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง Airbus A340 และ C-130 อพยพคนไทยออกจาก อิสราเอลทันที ทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รับทราบและพร้อมปฏิบัติการ

"ผมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจที่เห็นรายงานเข้ามาว่ามีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน หรือมากกว่า ตอนนี้กำลังยืนยันข้อมูลจากทางการอิสราเอลอยู่ ทางกองทัพและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อม ผมต้องการให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย" โพสต์เศรษฐา ระบุ

ย้อนไปเมื่อปี 2564 กลุ่มนักรบฮามาส เคยใช้ยุทธวิธีเดียวกันในการโจมตีอิสราเอล โดยยิงจรวดเข้ามาในพื้นที่อิสราเอล ราว 4,000 ลูก และในเหตุการณ์ครั้งนั้น มีชาวไทยได้เสียชีวิต 2 ราย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net