Skip to main content
sharethis

นักกิจกรรม 12 ราย เข้ารับทราบข้อหาคดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ-จราจรฯ เหตุเดินขบวน #ไซอิ๋วตะลุยเอเปค ประท้วงนโยบายจีนเดียว ก่อนถูกแจ้งขัดคำสั่ง จนท.เพิ่ม เหตุไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ

 

15 ส.ค. 2566 เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (15 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.พลับพลาไชย 2 นักกิจกรรม จำนวน 12 ราย ได้แก่ 'ตะวัน' ทานตะวัน ตัวตุลานนท์, 'แบม' อรวรรณ ภู่พงษ์, 'สายน้ำ' นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์, 'ออย' สิทธิชัย ปราศรัย, 'อาย' กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน, 'แก๊ป' จิรภาส กอรัมย์, รณกร (สงวนนามสกุล), ณัฐพร (สงวนนามสกุล), นรินทร์ (สงวนนามสกุล), สุชาติ (สงวนนามสกุล), สมชาย คำนะ และ สมพร (สงวนนามสกุล)  เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในข้อหา พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 จากกรณีเข้าร่วมในกิจกรรม "ไซอิ๋วตะลุยเอเปค" เดินถือป้ายประท้วงนโยบานจีนเดียวของรัฐบาลจีน และต่อต้านบรรดาผู้นำเผด็จการที่เข้าร่วมประชุม APEC2022 เมื่อ 15 พ.ย. 2565 บริเวณถนนเยาวราช

ในคดีนี้ ตำรวจออกหมายเรียกลงวันที่ 17 ก.ค. 2566 กับนักกิจกรรมทั้ง 12 ราย โดยมี พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สุขวัต กับพวก เป็นผู้กล่าวหา 

ในวันนี้ (15 ส.ค.) เวลา 12.00 น. ผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฏฐ์พงศ์ สีดา รองสารวัตรสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2

จากบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นระบุพฤติการณ์แห่งคดีว่า 15 พ.ย. 2565 เวลาประมาณ 21.16-22.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันแต่งกายเลียนแบบตัวละครในภาพยนตร์ "ไซอิ๋ว" และแต่งกายเลียนแบบผีจีน เดินถือป้ายข้อความภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ในทำนองต่อต้านการประชุมเอเปกว่า "Stop APEC" พร้อมทั้งพูดคำว่า "สต๊อปเอเปก" เดินไปตามถนนผดุงด้าว และเข้าถนนเยาวราช มุ่งหน้าไปจนถึงบริเวณตลาดเก่า และเดินย้อนศรกลับมาตามถนนเยาวราชไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) สถานีวัดมังกร 

ภายหลัง ผู้ต้องหาได้แยกย้ายกันเดินทางกลับที่สถานีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบเห็นการกระทำดังกล่าว และเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ได้ทำหน้าที่ผู้ชุมนุม เดินกีดขวางการจราจร ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะ จึงได้มากล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน

ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ข้อหา ได้แก่ 1. ร่วมกันชุมนุมสาธารณะ ก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ  

2. ได้ร่วมเดินขบวนชุมนุมในระหว่างเวลา 18.00-6.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะ

3. เดินขบวนในลักษณะที่กีดขวางทางจราจร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน โดยไม่มีเหตุแก้ตัวอันสมควร

นอกจากนี้ ปรากฏว่านักกิจกรรมทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และปฏิเสธลงลายมือชื่อในบันทึกประจำวัน บันทึกคำให้การ และไม่ยินยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ ทำให้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา เรื่องการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 โดยผู้ต้องหาทั้งหมดจะยื่นหนังสือคำให้การเพิ่มเติมในวันที่ 4 ก.ย. 2566 และพนักงานสอบสวนได้นัดให้ผู้ต้องหามาพบอีกครั้ง ในวันที่ 11 ก.ย. 2566 เวลา 10.00 น.

คดีนี้เป็นการย้อนแจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มนักกิจกรรม คดีที่ 2  แล้ว ของ สน.พลับพลาไชย 2 หลังได้แจ้งข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมฯ และ พ.ร.บ.จราจรฯ กับนักกิจกรรมและมวลชนอิสระ จำนวน 6 ราย จากกรณีเข้าร่วมชุมนุมเรียกร้องดวงตาของ 'พายุ ดาวดิน' เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2566

อย่างไรก็ตาม เหตุในคดีนี้ สืบเนื่องมาจากประเทศไทย ได้เป็นเจ้าภาพให้จัดการประชุม APEC ซึ่งเป็นการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ในระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. 2565 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี ‘สี จิ้นผิง’ ผู้นำของประเทศจีน และหนึ่งในผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกมาเดินประท้วง เนื่องมาจากนโยบายจีนเดียว และเรียกร้องขอให้คืนอิสรภาพแก่ฮ่องกง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net