Skip to main content
sharethis

Radio Taiwan International เผยตำรวจไต้หวันจับแรงงานไทยปลูกกัญชาเสพและขาย โดยเรียนรู้วิธีจากยูทูป ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ขายยาเสพติด ยึดของกลางเป็นกัญชา ยาไอช์ และอุปกรณ์เสพยาเสพติดได้จำนวนหนึ่ง


ที่มาภาพ: Radio Taiwan International

เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. 2566 Radio Taiwan International รายงานว่าสถานีตำรวจเจียอี้ในไต้หวัน แถลงข่าวทลายเอเยนต์ค้ายาเสพติด จับนายฉัตรอมร  อายุ 29 ปี มาจาก กทม. แรงงานไทยที่ปลูกกัญชาเสพเองและขาย และยังตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ขายยาเสพติด ยึดของกลางเป็นกัญชา ยาไอช์และอุปกรณ์เสพยาเสพติดได้จำนวนหนึ่ง

โฆษกสถานีตำรวจเจียอี้แถลงว่า ก่อนหน้านี้ตรวจพบแรงงานไทยกลุ่มหนึ่งจำนวน 3 คนมั่วสุมเสพยาเสพติดในโรงงาน แรงงานไทยกลุ่มนี้ให้การซัดทอดไปยังนายฉัตรอมร ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงงานผลิตเส้นใยสังเคราะห์แห่งหนึ่งที่ตำผูจื่อ เมืองเจียอี้เป็นผู้ขายกัญชาและยาเสพติดให้กับพวกตน ตำรวจจึงตรวจสอบและดำเนินการจับกุม รวบตัวนายฉัตรอมรได้ในหอพักโรงงาน พร้อมของกลางเป็นกัญชา 5 ห่อ ตาชั่งอิเล็กทรอนิกส์ 2 เครื่อง อุปกรณ์เสพสูบกัญชา 2 ชุด อุปกรณ์เสพยาไอซ์ 2 ชุด ซองเปล่าสำหรับบรรจุยายาไอซ์และโทรศัพท์มือถือเป็นต้น นอกจากนายฉัตรอมรแล้ว ยังจับแรงงานไทยที่เป็นเอเย่นต์ขายยาเสพติดให้เพื่อนแรงงานชาติเดียวกันอีกรายที่โรงงานอื่น ส่งฟ้องศาลข้อหาปลูกกัญชา ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 เสพและจำหน่ายยาเสพติด ศาลสั่งห้ามออกประเทศจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เมื่อถูกจับข้อหาร้ายแรง นายจ้างก็ยกเลิกสัญญา ต้องไปอยู่หอพักของบริษัทจัดหางานเพื่อรอขึ้นศาล

ตำรวจแถลงว่า นายฉัตรอมรให้การต่อตำรวจสารภาพว่า ตนเสพกัญชาและยาเสพติด เนื่องจากต้องซื้อ จึงลงทุนเรียนรู้วิธีปลูกกัญชาจากยูทูป จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายและยังสามารถได้กำไรจากการขายให้เพื่อนด้วย เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2565 ได้รับเมล็ดพันธุ์กัญชาจากเพื่อนคนไทยด้วยกัน เมื่อเรียนรู้วิธีปลูกจากยูทูบแล้ว ได้เลือกพื้นที่ห่างไกลชุมชน ใกล้ทำนบแม่น้ำเป็นสถานที่ปลูก แต่เจ้าตัวเน้นว่าปลูกไว้เสพเอง ตำรวจได้ให้ผู้ต้องหารายนี้พาไปตรวจดูสถานที่ปลูก ซึ่งค่อนข้างลับตา หากไม่สังเกตจะไม่เห็น ตำรวจส่งดำเนินคดีข้อหาผลิต เสพและจำหน่ายยาเสพติด ตามกฎหมายไต้หวัน ผู้ใดปลูก ผลิต ลำเลียง นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับ 15 ล้านเหรียญไต้หวัน กรณีครอบครองเพื่อการจำหน่าย มีโทษจำคุก 5 ปีขึ้นไป ปรับไม่เกิน 5 ล้านเหรียญไต้หวัน ชักจูง หลอกล่อให้คนอื่นเสพยาเสพติดให้โทษ ต้องระวางโทษจำคุก 1 ปีขึ้นไปไม่เกิน 7 ปี และปรับ 1 ล้านเหรียญไต้หวัน กรณีที่เสพ หลังจากส่งบำบัดแล้ว ยังมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี แม้จะมีไว้ในครอบครองไม่ได้เสพ ก็มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีและปรับไม่เกิน 200,000 เหรียญไต้หวัน

สำหรับนายฉัตรอมร ศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ทางนายจ้างก็ยกเลิกสัญญาต้องไปอยู่หอพักของบริษัทจัดหางานโดยไม่มีรายได้ เพื่อรอขึ้นศาลต่อไป ตำรวจกล่าวเตือนว่า ยาเสพติดคุกคามสุขภาพและเป็นบ่อเกิดปัญหาอาชญากรรม ผู้ที่เสพหรือค้ายาเสพติด จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยไม่แบ่งว่าเป็นชาวไต้หวันหรือชาวต่างชาติ ตำรวจจะปฏิบัติการกวาดล้างและทลายขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเข้มงวด เพื่อพิทักษ์ความสงบสุขของสังคมอย่างต่อเนื่อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net