Skip to main content
sharethis

‘ก้าวไกล’ ประกาศ 7 ข้อแก้วิกฤติฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ถ้าเป็นรัฐบาลเห็นผลทันที 1 ม.ค. 67 ดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด - งบตำบลละ 3 ล้านป้องกันไฟป่า - รถทุกคันตรวจสภาพฟรี 3 เดือน ด้านผู้สมัครเชียงใหม่ เขต 1 จี้รัฐบาลแก้ปัญหา หลังปล่อยประชาชนรับผลกระทบ รายได้ธุรกิจกลางแจ้งสูญ 30% ใน 3 เดือน - 'ภูมิใจไทย' หาเสียงเชียงรายปลุกประชาชนหยุดซื้อของจากพวกชอบเผาสร้างปัญหาฝุ่น PM2.5 พร้อมประกาศแนวทางแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ต้องตั้งทีมเจรจาชาติเพื่อนบ้าน ก่อนยกระดับ “เล่นไม้แข็ง”

9 เม.ย. 2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกลแจ้งข่าวว่า เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) และหนึ่งในทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล กล่าวถึงมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่กำลังวิกฤติอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือว่า เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ตนเป็นตัวแทนพรรคก้าวไกล เข้าร่วมเวทีดีเบตประเด็น ‘อนาคตของอากาศบริสุทธิ์จะมาอีกเมื่อไร’ ที่จัดโดยภาคประชาสังคมที่จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมตั้งคำถามต่อพรรคการเมืองว่าจะแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระยะสั้น ซึ่งหมายถึงรอบฤดูฝุ่น 2567 อย่างไร เนื่องจากหลายครั้ง ผู้กำหนดนโยบายมักกล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในระยะยาว จนประชาชนไม่สามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กก็เวียนกลับมาหาประชาชนเป็นประจำทุกปี และหนักขึ้นในปี 2566 นี้

เดชรัตกล่าวว่า ดังนั้น เพื่อทำลายวงจรอุบาทว์นี้ พรรคก้าวไกล ขอประกาศความเปลี่ยนแปลง 7 ข้อ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือวันเริ่มต้นฤดูที่อาจจะเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กรอบหน้า หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล

1. ประเทศไทยจะมี ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด และร่างพระราชบัญญัติการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม หรือ PRTR เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร อาจผ่านวาระ 1-2 แล้วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความกระตือรือร้นของพรรคการเมืองอื่นๆ แต่พรรคก้าวไกลเราจะยื่นร่างกฏหมายนี้เข้าสู่สภาฯ ภายใน 1 เดือนแรกอย่างแน่นอน

2. จะมีงบประมาณแก้ปัญหาไฟป่าลงสู่พื้นที่ระดับตำบล ตำบลละ 3 ล้านบาท เพื่อการป้องกันไฟป่า การจัดการเชื้อเพลิง การเตรียมทีมอาสา พร้อมทั้งสวัสดิการของทีมอาสา และการปรับระบบการเกษตรแบบไม่เผา พร้อมดำเนินการได้ทันที

3. รัฐบาลไทย จะประกาศใช้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (หรือ GAP) เพื่อไม่ให้นำเข้าสินค้าเกษตรที่มีที่มาจากการเผาทุกประเภท เข้าสู่ประเทศไทย ทำลายวงจรธุรกิจการเผาเพื่อการเกษตร แบบเดียวกับมาตรการที่ประเทศสิงคโปร์ทำ

4. ประกาศทางเลือกให้พี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพด อ้อย และข้าว ว่า (1) สามารถนำเศษวัสดุเหลือใช้ เช่น ฟางข้าว ใบอ้อย ต้นข้าวโพด มาขายในราคา 1,000 บาท/ตัน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณผ่านผู้ประกอบการหรือผู้รวบรวมรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตร (2) สามารถซื้อเครื่องจักรในการเก็บเกี่ยว (สำหรับผู้ปลูกอ้อย) และเตรียมดิน (สำหรับผู้ปลูกข้าวและข้าวโพด) โดยขอรับสินเชื่อที่ดอกเบี้ย 0% พร้อมการดูแลหลังการขาย โดยรัฐบาลมีหน้าที่เจรจากับธุรกิจเครื่องจักรทางการเกษตร และทำโครงการร่วมกัน และ (3) สามารถเปลี่ยนไปปลูกพืชอาหารอื่นๆ หรือไม้ยืนต้น โดยรับประกันผลตอบแทนที่ 500-1,000 บาท/เดือน

'ภูมิใจไทย' หาเสียงเชียงรายปลุกประชาชนหยุดซื้อของจากพวกชอบเผาสร้างปัญหาฝุ่น PM2.5

สำนักข่าวไทย รายงานว่าที่สนามกีฬาตำบลป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า เรื่องฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคเหนือ สาเหตุสำคัญมันมาจากประเทศเพื่อนบ้าน มีการเผาป่า เผาไร่ แล้วฝุ่นควัน มันลอยมาที่ประเทศไทย สร้างความทุกข์ให้กับคนไทย พรรคภูมิใจไทย มองว่า มันต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุแล้ว จะต้องตั้งทีมไปพูดคุยกันอย่างจริงจัง และต้องคิดไปไกล ถ้าทำ ก็ดี แต่ถ้าไม่ทำ จะจัดการต่ออย่างไร พรรคภูมิใจไทย มองว่า ถ้าเขาไม่หยุด ต้องเล่นไม้แข็ง

“เรื่องฝุ่นแบบนี้ ผมจะไปคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เผาข้าวโพด เผานู่นเผานี่ ถ้ายังจะทำ ก็ไม่ต้องมาขายเรา ปัญหาที่เกิดขึ้น มันไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย เราเผากันน้อย มีความรับผิดชอบ แต่เขาเผากันมาก ถ้าเล่นไม้แข็ง อย่างไร เขาต้องฟังเรา ส่วนคนไทย ที่ไปจ้างเขาทำเกษตรกรรม ไปให้เขาเผา ถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็ไม่ต้องไปซื้อของเขา เราพูดได้ เพราะเราไม่ใช่ทาสพ่อค้า เรารับใช้ประชาชน”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net