Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 

หากจะถามหาที่มาวัฒนธรรมวิธีคิดที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดปรากฏการณ์ทางการเมืองของไทยแล้ว คิดว่ามันเป็นผลจากความขัดแย้งที่หาจุดประสานลงตัวกันได้ยาก ระหว่างพลังที่มาจากจารีตภายในสังคมกับแนวคิดสมัยใหม่ที่มาจากความเปลี่ยนแปลงในขอบเขตโลกสากล

ก่อนนี้ภายใต้ระบบโลกยุคอาณานิคม พลังจากสากลเป็นแรงกดดันจากความเหนือกว่าของเจ้าอาณานิคม ชนชั้นนำสยามทำได้เพียงปรับตัวให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ฝ่ายเจ้าอาณานิคม เมื่อได้ข้าวได้สินค้าสามารถตักตวงทรัพยากรและเป็นตลาดให้ได้โดยง่าย ก็ไม่จำเป็นที่เจ้าอาณานิคมจะเข้ามาปกครองด้วยตนเอง

อำนาจรัฐจึงยังตกอยู่กับชนชั้นนำที่สืบสายมาจากอดีต ที่แม้จะปรับตัวสู่ความศิวิไลซ์ให้เจ้าอาณานิคมไม่นำเอาไปเป็นเหตุชอบธรรมแก่การยึดครอง ผลคือแนวคิดอนุรักษ์นิยมและชาตินิยมสยามไม่ได้เป็นชาตินิยมของประชาชนขับไล่เจ้าอาณานิคมภายนอก หากแต่เป็นชาตินิยมของชนชั้นนำที่ต้องการมีอำนาจครอบงำ

ต่างกับประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ชนชั้นนำจารีตถูกกำจัดไปแล้วโดยเจ้าอาณานิคม ฝรั่งเศส อังกฤษ ดัตช์ ต่างจัดการล้มเจ้านายเก่าของจารีตในประเทศที่ตนยึดครอง ขบวนการต่อต้านประชาธิปไตยในประเทศเหล่านี้เลยไม่มีสถาบันชั้นสูงเป็นหลังพิงหรือแม้แต่เป็นฝ่ายกระทำเสียเองเหมือนอย่างไทย

และกองทัพชาติก็ไม่เคยผ่านประสบการณ์สู้รบปลดปล่อยชาติจากเจ้าอาณานิคม เป็นแต่กองกำลังลักหลับทำรัฐประหารจัดสรรอำนาจและผลประโยชน์ในหมู่ชนชั้นนำ

ควบคู่กับการปราบปรามประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตย โดยใช้อำนาจและความชอบธรรมที่ไม่ยึดโยงกับส่วนอื่นของโลก ประดุจไทยเป็นประเทศเดียวในโลก หรือเป็นเจ้าอาณานิคมเสียเองจากภายใน

ถึงตอนนี้คงรู้แล้วใช่ไหม ว่าทำไมชนชั้นนำไทยภาคภูมิใจกันนักกับการไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net