เมื่อวันที่ 15 ต.ค. มีการชุมนุมประท้วงในแอฟริกาใต้ ที่เมืองสตานเดอตัน และการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ โดยผู้ประท้วงได้ทำแนวกั้นปิดถนนทางหลวงสายหลักด้วยหินและเผายางล้อรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงกระสุนยางใส่พวกเขาซึ่งทางผู้ชุมนุมที่เป็นวัยรุ่นก็ตอบโต้ด้วยการยิงหนังสติ๊กและขว้างปาหิน

 

เอพีรายงานว่า การประท้วงในครั้งนี้ชวนให้นึกถึงภาพที่คนในชุมชนออกมาต่อสู้กับนโยบายแบ่งแยกสีผิว (apatheid) แต่ในครั้งนี้เป็นการประท้วงความล้มเหลวในการจัดการปัญหาความยากจนของรัฐบาล

 

การประท้วงในสัปดาห์นี้ขยายจากเมืองสตานเดอตันที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโจฮานเนสเบอร์ก ไปยังเมืองอื่น ๆ อีก 4 เมืองในภาคตะวันออกของแอฟริกาใต้ มีผู้ประท้วงถูกจับกุมแล้วมากกว่า 150 ราย

 

โฆษกตำรวจบอกว่า ผู้ประท้วงจุดไฟเผารถตำรวจใกล้ ๆ กับสนามกีฬาที่จะใช้ในการแข่งฟุตบอลโลกในปีหน้า และในเขตชุมชนเดียบสลูท ย่านคนจนของโจฮานเนสเบอร์ก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 19 รายจากการที่ตำรวจยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม

 

ขณะเดียวกันการประท้วงก็ส่งผลกระทบให้มีการปิดโรงเรียน และสถานพยาบาลของรัฐ ผู้อยู่อาศัยในเขตชุมชนซาคิล เมืองสตานเดอตัน กล่าวหาว่านายกเทศมนตรีกับสภาเมืองทุจริตฉ้อโกงและเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเขตชุมชนซาคิลส่วนใหญ่มีน้ำมีไฟใช้แต่สภาพถนนยังเป็นดินโคลนและมีการพัฒนาน้อยมาก

 

ผู้ประท้วงรัฐบาลบางคนบอกว่าพวกเขาเลือกพรรคสภาแห่งชาติแอฟริกัน (African National Congress หรือ ANC) ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วยสาเหตุที่พรรคนี้มีบทบาทสำคัญในการยกเลิกนโยบายแบ่งแยกสีผิว ผู้ชุมนุมคนหนึ่งบอกว่าพรรคสภาแห่งชาติแอฟริกันเคยสัญญาว่าจะให้โอกาส ให้มีงานทำ และชีวิตที่ดีกว่า แต่จากมุมมองผู้ชุมนุมในตอนนี้แล้ว มันเป็นชีวิตที่แย่กว่าเดิม ดังนั้นพวกเขาจึงออกมาก่อจลาจลเมื่อให้รัฐบาลทำอะไรสักอย่าง

 

หลังจากการยกเลิกนโยบายแบ่งแยกสีผิวเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ชาวแอฟริกาใต้จำนวนมากยังรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้รับผลประโยชน์จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทำให้รัฐบาลร่ำรวย

 

ยาคอบ ซูมา ประธานาธิบดีที่ชนะการเลือกตั้งเมืองเดือนเมษายน และเป็นผู้ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนจนเคยให้คำมั่นว่าจะเร่งกระจายที่อยู่อาศัย สถานพยาบาล โรงเรียน น้ำประปา ไฟฟ้า และสร้างงาน ให้กับประชาชน แต่กลับต้องประสบกับความยากลำบากจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของแอฟริกาใต้

 

อุเดช พิลเลย์ หัวหน้าศูนย์การกระจายการบริหารราชการ ให้ความเห็นว่าการประท้วงเลวร้ายกว่าเดิมหลังจากการเลือกตั้ง และจะบานปลายออกไปเรื่อย ๆ

 

พิลเลย์ บอกอีกว่า ซูมา เคยไปเยือนเมืองๆ หนึ่งที่มีการประท้วงก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยได้แสดงความเป็นห่วง แสดงการตอบสนองต่อปัญหา และยังคงได้รับความเชื่อถืออยู่มาก แต่ประชาชนเริ่มรู้สึกไม่ไว้วางใจและเสื่อมศรัทธาต่อ ส.ส. รายอื่นในพรรค

 

การประท้วงดูจะมีสาเหตุมาจากเรื่องการทุจริต และต้องการถอดถอนรัฐบาลท้องถิ่น

 

การปกครองแบบเทศบาลเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลแอฟริกาใต้ชุดนี้มานานแล้ว สภาเทศบาลหลายแห่งขาดแคลนทางการเงิน จัดการด้านการเงินอย่างผิด ๆ หรือมีการทุจริต ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่เทศบาลที่ต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นผลพวงมาจากนโยบายแบ่งแยกสีผิวที่ทำให้คนผิวขาวย่านชานเมืองได้รับบริการที่ดี ขณะที่คนผิวดำมีมาตรฐานการครองชีพต่ำ อาศัยอยู่ตามชายขอบรอบนอกเมือง

 

การประท้วงในครั้งนี้ถูกหาว่าเป็นเรื่องทางการเมืองที่มีส่วนกับการเลือกตั้งเทศบาลในปี 2011 ที่จะถึงนี้ บ้างก็ว่าแค่เป็นฝีมือของพวกก่อกวนความสงบ คริส โคซี เจ้าหน้าที่อาวุโสจากสำนักงานเทศบาล บอกว่าการประท้วงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเรียกร้องเรื่องการกระจายบริการสาธารณะ มันเป็นแค่การก่ออาชญากรรม

 

โคซี กำลังสำรวจสำนักงานเทศบาลในสิยาทุทุกา ที่ถูกผู้ประท้วงทำลาย อาคารสำนักงานนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1999 คานไม้ของอาคารกลายเป็นกองขี้เถ้า เพดานสังกะสีถลอกและบิดเบี้ยว ในสำนักงานนี้มีห้องสมุดซึ่งเพิ่งได้หนังสือชุดใหม่มา

 

"ถ้าคุณเรียกร้องการบริการสาธารณะ คุณจะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร" โคซีกล่าว "มันไม่มีเหตุผลเลย"